2 ต.ค. 2021 เวลา 08:15 • ปรัชญา
"ลำดับการหลุดพ้นโดยละเอียด เมื่อเห็นอนัตตา"
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย !
รูปเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง. สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์
สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา
สิ่งใดเป็นอนัตตา สิ่งนั้นนั้น
ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เป็นเรา ไม่ใช่เป็นตัวตนของเรา :
เธอทั้งหลายพึงเห็นข้อนั้น ด้วยปัญญาโดยชอบ
ตรงตามที่เป็นจริง อย่างนี้ ด้วยประการดังนี้.
(ในกรณีแห่งเวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ
ก็ตรัสอย่างเดียวกันกับในกรณีแห่งรูปทุกประการ).
...
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย !
เมื่อบุคคลเห็นข้อนั้น ด้วยปัญญาโดยชอบ
ตรงตามที่เป็นจริงอยู่อย่างนี้,
ปุพพันตานุทิฏฐิทั้งหลาย ย่อมไม่มี;
เมื่อปุพพันตานุทิฏฐิทั้งหลายไม่มี,
อปรันตานุทิฏฐิทั้งหลาย ย่อมไม่มี;
เมื่ออปรันตานุทิฏฐิทั้งหลายไม่มี,
ความยึดมั่นลูบคลำอย่างแรงกล้า ย่อมไม่มี;
เมื่อความยึดมั่นลูบคลำอย่างแรงกล้าไม่มี,
จิตย่อมจางคลายกำหนัด
ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลาย ในวิญญาณ
ย่อมหลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลาย
เพราะไม่มีความยึดมั่นถือมั่น;
เพราะจิตหลุดพ้นแล้ว จิตจึงดำรงอยู่ ;
เพราะเป็นจิตที่ดำรงอยู่ จิตจึงยินดีร่าเริงด้วยดี;
เพราะเป็นจิตที่ยินดีร่าเริงด้วยดี จิตจึงไม่หวาดสะดุ้ง;
เมื่อไม่หวาดสะดุ้ง ย่อมปรินิพพาน เฉพาะตนนั่นเทียว.
เธอนั้นย่อมรู้ชัดว่า
“ชาติสิ้นแล้ว, พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว,
กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว,
กิจอื่นที่จะต้องปฏิบัติเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มีอีก” ดังนี้.
.
ตามรอยธรรม หน้า ๔๕-๔๖
ปฏิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์ หน้า ๖๕๔-๖๕๕
(ภาษาไทย) ขนฺธ. สํ. ๑๗/๔๕/๙๓.
อ้างอิง :
Photo by : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา