2 ต.ค. 2021 เวลา 08:28 • สุขภาพ
ความหวังใหม่!!! ผลการทดสอบ Molunpiravir พบว่ามีประสิทธิภาพสูงในการรักษา COVID-19
เป็นระยะเวลากว่า 2 ปีที่มนุษยชาติหาทางต่อกรกับโรคร้ายมรณะ COVID-19 ทั้งการฉีดวัคซีนและการประยุกต์ยาที่ใช้รักษาโรคต่างๆ นำมาทดลองหาโอกาสที่จะรักษชื้อ COVID-19 ให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตามเหมือนประชากรโลกจะเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เมื่อผลการทดลองพบว่า Molnupiravir จากทาง Merck ได้รับผลการทดสอบว่าสามารถรักษาโรคร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ
เส้นทางการหายาชนิดต่างๆ เพื่อรักษา COVID-19
ในอดีตนักวิจัยทั่วโลกได้หาทางต่อสู้กับ COVID-19 มากมาย เทคโนโลยีแรกๆ ที่นำมาใช้คือการรับบริจาค Plasma ของผ๔ป่วยที่หายป่วยจากเชื้อร้ายเพื่อนำ Antibodies เพื่อนำมาจ่ายให้กับผู้ป่วยครับ ซึ่งวิธีการดังกล่าวเรียกว่า
Convalescent Plasma ครับ แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องของผู้ที่จะบริจาค Plasma ครับ
ต่อมาเริ่มมีการใช้ตัวยาต่างๆ มากมายเพื่อนำมาใช้รักษาผู้ป่วย COVID-19 ครับ ที่โด่งดังหลักๆ จะมี Hydroxychloroquine และ Ibuprofen จนถึงการรับประทานวิตามิน D และวิตามิน C ไปจนถึงยาแผนจีนและสมุนไพรชนิดต่างๆ เพื่อนำมาใช้ต้านเชื้อร้ายครับ แต่อย่างไรก็ตามการใช้ตัวยาดังกล่าวก็มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางเรื่องของประสิทธิภาพเช่นกันครับ
ท้ายที่สุดคือ Favipiravir ยอดยารักษาโรคไข้หวัดใหญ่จากแดนอาทิตย์อุทัยในชื่อทางการค้า Avigan ครับ ที่มีผลการรักษาที่ดี และมีการศึกษาประสิทธิภาพอย่างกว้างขวางทางภาคการทดลองและการรักษาจริงครับ ปัจจุบันตัวยา Favipiravir นั้นได้กลายเป็น Generic Drug และได้มีการนำไปผลิตและใช้รักษาในหลายประเทศครับ
ความหวังใหม่ของตัวยารักษา COVID-19
เมื่อไม่นานมานี้บริษัท Merck ผู้ผลิตยาชั้นนำจากประเทศอเมริกาได้ออกมาแถลงว่าตัวยารับประทานชื่อ Molnupiravir ได้ที่ทางบริษัทออกแบบมาเพื่อรักษาโรคไข้หวัดใหญ่มีผลการด้านการรักษา COVID-19 ที่ดีมากครับ โดยตัวยาถูกออกแบบไว้ให้ทำให้สารพันธกรรมของไวรัสมีข้อผิดพลาด เมื่อ Enzyme ที่ไวรัสใช้ในการจำลองตัวเองทำงานผิดพลาดจะทำให้ตัวเชื้อร้ายไม่สามารถแพร่กระจายในร่างกายได้ครับ ซึ่งวิธีการนี้ต่างจากหลักการของวัคซีนที่มุ่งเป้าไปที่โปรตีนหนามของไวรัสครับ
จากการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ป่วย COVID-19 775 คน มีเพียง 7.3% ของผู้ป่วยที่ได้รับยา Molnupiravia ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลซึ่งน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับกลุ่มตัวอย่างที่ไม่ได้รับยาดังกล่าวและต้องโรงพยาบาลที่ 14.1% ครับ นอกจากนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตจากโรคร้ายในกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับยา Molnupiravia ครับ แต่มีผู้เสียชีวิตถึง 8 คนในกลุ่มมดสอบที่ไม่ได้รับยาหรือได้รับยาหลอกครับ
1
นอกจากนี้ทางคุณ Daria Hazuda ผู้บริหารระดับสูงของ Merck ได้กล่าวว่าการรักษาโรคสำหรับผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน หรือผู้ที่มีการสร้างภูมิคุ้มกันได้ต่ำนับเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้มนุษย์ชาติสามารถจบสงครามกับเชื้อร้ายนี้ได้ครับ ซึ่งสอดคล้องกับ Dr. Anthony Fauci หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของประธานาธิบดี Joe Biden ซึ่งกล่าวว่าผลการทดลองนี้เป็นข่าวดีมากๆ แต่ต้องรอจนกว่าองค์การอาหารและยาของสหรัฐ (US Food and Drug Administration: FDA) ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลครับ
ผลตอบรับจากประชาคมโลก
จากข่าวดีดังกล่าวทำให้ประชาคมโลกตื่นตัวเป็นอย่างมากครับ โดยชาติยักษ์ใหญ่อย่างประเทศอเมริกาได้เข้าสัญญาที่จะซื้อตัวยา Molnupiravir ที่มูลค่าสัญญา 1,200 ล้านดอลลาห์ หากตัวยาดังกล่าวได้รับการรับรองจาก FDA ครับ นอกจากนี้ประเทศชั้นนำทั่วโลก เช่น ประเทศอังกฤษ ต่างเริ่มเจรจากับทาง Merck ครับ
นับว่าเป็นก้าวใหม่ของการต่อสู้กับเชื้อไวรัสจริงๆ ครับ เพราะว่าตัวยาจะสามารถหาซื้อได้ง่ายกว่า ราคาที่น่าจะต่ำกว่า และสามารถขนส่งและกระจายได้ดีกว่าครับ นับเป็นอีกทางหนึ่งในการรักษาชีวิตผู้ป่วยและทำให้กำลังรบของเราสามารถสู้กับเชื้อไวรัสได้มีปะสิทธิภาพต่อไปครับ
ท้ายที่สุด ผมขอฝาก Sticker line "Qubit The Cat" ด้วยนะครับ
ขอโอกาสให้น้อง Qubit ได้เป็นเพื่อนของทุกท่านนะครับ สามารถสนับสนุนน้องได้ที่ link https://store.line.me/stickershop/product/15887113 ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
โฆษณา