3 ต.ค. 2021 เวลา 10:18 • ธุรกิจ
สรุปรายละเอียดทาง Startup Business
รายละเอียดกิจกรรม Startup
มีอยู่ทั้งหมด 4 Stage ดังนี้
1. Early Stage
- ไอเดียส่วนมากมักจะตั้งต้นธุรกิจจากการมองปัญหาที่มีอยู่ และเราจะเอางานของเราไปแก้ปัญหาตรงนั้น
- วิเคราะห์ปัญหา สร้างsolution เพื่อแก้ปัญหา อาจจะนำเอาทฤษฎี Design Thinking เข้ามาช่วย ก่อนจะต่อยอดไปร่างแผนธุรกิจเบื้องต้นด้วยการทำ Business Model Canvas
- หาบุคลากรที่มีอุดมการณ์ร่วมกันเป็นCo-Founder สร้างทีมที่แข็งแกร่ง จัดสรรงานไปตามความถนัดของแต่ละคน
- เริ่มต่อยอดจากไอเดียมาพัฒนาต่อเป็น Product ทำตัว Prototype หรือMVP (Minimum Viable Product) ขึ้นมา เพื่อศึกษาความต้องการของผู้ใช้เบื้องต้น
- ทีมStartup อาจจะเอาไอเดียตั้งต้นนั้นมาเข้าร่วมการแข่งขัน Hackathon (การแข่งขันสร้างนวัตกรรมในระยะเวลาสั้น) เพื่อเปิดตัว หาคอนเนคชัน และเก็บประสบการณ์ รวมถึงโอกาสที่จะได้รับรางวัล พัฒนาต่อยอด Product ต่อไป
2. Feedback
- หลังจากที่ปล่อย MVP ออกไปให้ผู้ใช้งานได้ทดลองใช้จะได้รับ feedback กลับมา ก็ให้เอา feedback นั้นมาปรับปรุงตัว product ของเราต่อไป
- feedback นั้นอาจจะมาจาก comment ของกรรมการในการแข่งขัน Hackathon ก็ให้นำ comment นั้นวิเคราะห์ต่อเพื่อปรับปรุงงานของเราต่อไป
- เมื่อปรับปรุงแล้ว ก็ปล่อยออกไปอีกครั้ง อาจจะได้รับคำติชม หรือเกิดถูกใจอาจจะชอบจนเกิดการใช้ซ้ำ จนบอกกันปากต่อปาก เป็นไวรัลทั้งในโซเชียลและชีวิตจริง
3. Growth Stage
- เมื่อ product เริ่มประสบความสำเร็จ ขนาดทีมเดิมชุดก่อตั้งจะไม่พอ ทีมต้องใหญ่ขึ้น จนเกิดการจ้างงานจัดหาบุคลากรมาเสริมทีมเพิ่ม
- เริ่มจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัด จัดสรรปันส่วนผู้ถือหุ้นที่ชัดเจน
- Product เริ่มตีตลาด จะต้องมีการทำ digital marketing เพื่อเจาะตลาดกลุ่มใหญ่
- เริ่มเกิดการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด
4. Scale Up
- เมื่อเริ่มประสบความสำเร็จ ทีมจัดตั้งเริ่มเห็นลู่ทางการเติบโตที่ชัดเจน เดิมทีเริ่มต้นด้วยเงินทุนที่น้อย และผลตอบแทนปัจจุบันยังขาดทุน หรือคืนทุนไม่ได้มาก จึงจำเป็นต้องระดมทุนครั้งใหญ่เพื่อเติบโตและเปลี่ยนผ่าน โดยผ่านการเข้าสู่สนาม Pitching ซึ่งอาจจะมี Venture Capital หรือ Angel Investor เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนส่วนนี้แลกกับหุ้นจำนวนหนึ่ง หรือให้เปล่าต่างตอบแทนแล้วแต่นโยบาย
- เมื่อได้รับเงินทุนสนับสนุนจากนักลงทุนที่สนใจและเห็นคุณค่าในธุรกิจแล้ว ก็เอาเงินส่วนนั้นมาเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆทั้งค่าพัฒนาผลิตภัณฑ์ ค่าดำเนินการต่างๆ เพื่อพัฒนาต่อยอดตัวธุรกิจให้ประสบความสำเร็จต่อไปในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลจาก
: Techsauce
: Marketeer
: Positioning
โฆษณา