Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Facts For Five
•
ติดตาม
4 ต.ค. 2021 เวลา 11:43 • ประวัติศาสตร์
จากสูงสุดสู่ต่ำสุด!? เผย 10 เหตุผล ที่ทำให้ท่านผู้นำฮิตเลอร์ต้องพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง!!
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ คือบุรุษผู้นำชัยชนะมาให้ชาวเยอรมันอย่างน่าเหลือเชื่อในช่วงแรกเริ่มของสงครามโลกครั้งที่สอง ทว่าความหยิ่งผยองและความมั่นใจที่มีมากเกินไปของเขา ได้นำมาสู่ความพ่ายแพ้และหายนะมาสู่เยอรมนีในภายหลัง และแท้จริงแล้ว ฮิตเลอร์ไม่ใช่คนที่กล้ายอมรับความจริงนัก เขาไม่รับฟังคำแนะนำที่มีประโยชน์จากเหล่าบรรดานายพลของเขาจนทำให้ตัดสินใจผิดพลาดในภายหลัง
เหตุผลเพราะฮิตเลอร์เป็นคนที่ตัดสินใจอะไรอย่างฉับไว และทำให้บางครั้งการตัดสินใจของเขาก็นำมาสู่ผลเสียตามมาชนิดที่ตัวเขาเองก็คาดไม่ถึง และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เยอรมนีพ่ายแพ้ในสงครามโลก
และนี่คือ 10 เหตุผลที่เหลือ ที่จะใช้อธิบายว่าเพราะอะไร อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ถึงได้พ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง
1. พันธมิตรฝ่ายอักษะของฮิตเลอร์
เดิมทีฮิตเลอร์ต้องการชักชวนอังกฤษมาเป็นพันธมิตรร่วมในการต่อต้านสหภาพโซเวียต แต่เมื่ออังกฤษปฎิเสธข้อเสนอ จึงทำให้ฮิตเลอร์ต้องมองหาพันธมิตรรายใหม่ ซึ่งก็คือ อิตาลี ที่มีอุดมการณ์ฟาสซิสต์เผด็จการทหารเช่นเดียวกัน ทว่าเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองอุบัติขึ้น อิตาลีกลับไม่ใช่พันธมิตรที่แข็งแกร่งนัก เนื่องจากพวกเขามีอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารที่ล้าสมัยเกินไป
ประเทศอื่น ๆ อย่างโรมาเนียและฮังการี ที่ภายหลังได้เข้าร่วมกับฝ่ายอักษะ ก็ไม่ใช่กลุ่มประเทศที่มีศักยภาพทางทหารมากพอที่จะสนับสนุนการรบของเยอรมนีได้ ซ้ำร้าย กับพันธมิตรที่ใกล้ชิดอย่างอิตาลี ฮิตเลอร์ต้องคอยช่วยเหลือพวกเขาจากการถูกโจมตีโดยฝ่ายสัมพันธมิตรหลายต่อหลายครั้ง
2. นโยบายสุดโต่ง ที่ว่าด้วยการห้ามถอย
ฮิตเลอร์คือหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้กองทัพเยอรมันพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ในช่วงรอยต่อฤดูหนาวระหว่างปี ค.ศ.1941 – 1942 เมื่อเขาสั่งให้ทหารเยอรมันตรึงกำลังต่อต้านฝ่ายโซเวียตหลังจากปฏิบัติการยึดกรุงมอสโคว์ล้มเหลว แต่ก็เป็นที่เข้าใจได้ ว่าถ้าหากฮิตเลอร์สั่งให้ถอนกำลังทหารเยอรมันทั้งหมดออกมา บางทีแนวป้องกันของฝ่ายเยอรมันทั้งหมดอาจล่มสลาย และทำให้เยอรมันพ่ายแพ้ต่อพวกโซเวียตเร็วขึ้นกว่าเดิม
ภายหลังฮิตเลอร์ได้ใช้แนวทางนี้สั่งการไปยังหน่วยย่อยระดับกองร้อย ด้วยการสั่งให้พวกเขาห้ามถอนกำลัง แม้แต่หน่วยเดียวโดยเด็ดขาด และการตัดสินใจแบบนี้ เลยทำให้กองทัพเยอรมันที่ 6 ที่สตาลินกราดที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ถอนกำลังต้องถูกกองทัพโซเวียตกวาดล้างอย่างสมบูรณ์แบบ ในการรบครั้งต่อมา เขาปฏิเสธคำขอของกองทัพที่ต้องการตรึงกำลังในแนวรบที่มีภูมิประเทศที่เอื้ออำนวยและลดระยะแนวรบได้มากกว่า ซึ่งการตัดสินใจแบบนี้ของฮิตเลอร์ เลยทำให้กองทัพเยอรมันได้รับความเสียหายอย่างหนักจนเป็นเหตุให้พวกเขาพ่ายแพ้ในสงครามไปในที่สุด
1
3. เทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้อย่างผิดวิธี
กองทัพเยอรมันมีเทคโนโลยีด้านการทหารเหนือกว่าฝ่ายสัมพันธมิตร การที่พวกเขามีรถถังที่แข็งแกร่งและมีเครื่องบินไอพ่น ปัจจัยเหล่านี้น่าจะทำให้กองทัพเยอรมันเหนือกว่าฝ่ายสัมพันธมิตรในทุกสมรภูมิการรบ แต่ว่า ฝ่ายเยอรมันกลับเลือกที่จะมองหารถถังที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม แทนที่จะมุ่งเน้นไปในเรื่องการของผลิตรถถังเป็นจำนวนมาก และมีการออกแบบที่ดี เช่นรถถัง Panther ทำให้กองทัพเยอรมันมีรถถังที่หลากหลาย แต่มันก็ทำให้วิศวกรของกองทัพต้องปวดหัว เมื่อรถถัง Panther แต่ละรุ่นจำเป็นต้องใช้อะไหล่และเทคนิคด้านการซ่อมบำรุงที่แตกต่างกัน
1
นอกจากนี้ การใช้แรงงานที่ถูกบังคับมา เลยก่อให้เกิดปัญหาเรื่องการควบคุมคุมภาพในการดูแลและซ่อมบำรุง จนทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย และจำเป็นต้องใช้อะไหล่เพิ่มเข้าไปอีก เลยทำให้เกิดความสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ
4. ประกาศสงครามกับสหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ.1941 เยอรมนีประกาศสงครามกับสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่าสหรัฐฯ ได้กระทำการยั่วยุพวกเขาหลายต่อหลายครั้ง ทั้ง ๆ ที่สหรัฐฯ ยังวางตัวเป็นกลาง (ถึงแม้จะเอียนเอียงไปทางฝ่ายสัมพันธมิตรก็ตาม) แต่โดยภาพรวมแล้ว สหรัฐฯ ยังไม่มีท่าทีเป็นปฏิปักษ์กับเยอรมนี
จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์โจมตีฐานทัพเรือที่เพิร์ล ฮาร์เบอร์เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ.1941 ที่ฝ่ายเยอรมนีได้ตกลงเงื่อนไขของสนธิสัญญากับฝ่ายจักรวรรดิญี่ปุ่น ที่มีเงื่อนไขระบุว่า ถ้าจักรวรรดิญี่ปุ่นถูกประเทศที่สามโจมตี เยอรมนีจะต้องเข้าร่วมสงคราม ซึ่งในเงื่อนไข จักรวรรดิญี่ปุ่นไม่ได้ถูกสหรัฐฯ รุกราน แต่เป็นฝ่ายจักรวรรดิญี่ปุ่นที่เปิดสงครามก่อน แต่ฮิตเลอร์ กลับตัดสินใจประกาศสงครามกับฝ่ายสหรัฐฯ ทันที
ซึ่งการตัดสินใจแบบขาดการไตร่ตรองแบบนี้เอง เลยทำให้วินสตัน เชอร์ชิลล์ และ แฟรงคลิน ดี. รูสเวสต์ สองผู้นำของอังกฤษและสหรัฐฯ สามารถกำหนดยุทธศาสตร์เป้าหมายได้ชัดเจนขึ้น ด้วยการร่วมมือกันจัดการกับเยอมนีบนแผ่นดินยุโรปก่อน แล้วจึงค่อยไปจัดการกับจักรวรรดิญี่ปุ่นในภายหลัง
5. ฮิตเลอร์รับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ในเดือนธันวาคม ค.ศ.1941 เมื่อการโจมตีกรุงมอสโคว์มาถึงทางตัน ฝ่ายโซเวียตได้เริ่มต้นการโจมตีโต้กลับฝ่ายเยอรมนีครั้งใหญ่ และขู่ว่าพวกเขาจะจัดการกับพวกเยอรมันให้สิ้นซาก ในตอนนั้นฮิตเลอร์เลือกที่จะไม่ยอมรับความจริง และเขาเริ่มปลดเจ้าหน้าที่ทางการทหารที่เสนอให้กองทัพเยอรมันยอมสงบศึกและคืนดินแดนที่ยึดมาจากฝ่ายโซเวียตกลับไป
ฮิตเลอร์ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น เขาเลยปลดนายทหารที่มีแนวคิดแตกต่างจากเขา พร้อมกับแต่งตั้งตัวเองเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด และเลือกที่จะเป็นคนที่ตัดสินใจในทุกเรื่องเพียงคนเดียว โดยไม่ฟังความคิดเห็นจากนายพลคนไหนในกองทัพ
6. ฮิตเลอร์ไม่ยอมฟังคำแนะนำจากเหล่าบรรดานายพลของเขา
หลังจากได้รับชัยชนะอันน่าทึ่งในช่วงแรกของสงครามภายใต้การกำกับดูแลของตัวเอง เลยทำให้ฮิตเลอร์เชื่อว่าตนเองเป็นอัจริยะด้านการทหาร เมื่อเวลาผ่านไป และทิศทางของสงครามเปลี่ยนไป ฮิตเลอร์เริ่มตำหนิเหล่าบรรดานายพลของเขาว่าไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของเขา จึงทำให้เกิดความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน จนทำให้ท้ายที่สุด ฮิตเลอร์ก็ไม่ยอมฟังความคิดเห็นจากใครอีกต่อไป
ในยุทธการตอกลิ่ม (Battle of the Bulge) เมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ.1944 อันเป็นยุทธการตอบโต้ฝ่ายสัมพันธมิตรของเยอรมนี ที่ฮิตเลอร์ต้องการใช้กำลังทางทหารเพื่อบีบบังคับให้ฝ่ายสัมพันธมิตรยอมเจรจาสงบศึกภายใต้เงื่อนไขที่เยอรมนีพึงพอใจ ถึงแม้ว่าภายหลังเหล่าบรรดานายพลของเขาจะแสดงความกังวลถึงแผนการดังกล่าว จนทำให้กองทัพเยอรมนีถูกตีแตกพ่ายโดยฝ่ายสัมพันธมิตร และทำให้เยอรมนีแทบหมดสภาพในการสู้รบด้านแนวรบตะวันตกไปในท้ายที่สุด
7. ฤดูหนาวของรัสเซีย
ฮิตเลอร์แสดงความมั่นใจว่ากองทัพเยอรมนีจะสามารถเอาชนะฝ่ายสหภาพโซเวียตได้ในระยะเวลาเพียงไม่นาน โดยฮิตเลอร์เคยกล่าวกับเหล่าบรรดานายพลของเขาอย่างมั่นใจว่า ‘เราแค่ต้องเตะประตู แล้วโครงสร้างเน่า ๆ ทั้งหมดจะพังทลายลงมา!!’ โดยฮิตเลอร์เชื่อว่าเยอรมนีไม่จำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับฤดูหนาวในรัสเซีย เพราะฮิตเลอร์เชื่อว่า เยอรมนีจะเอาชนะพวกโซเวียตได้ก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึง
อย่างไรก็ตาม การที่ฮิตเลอร์ประเมินฝ่ายโซเวียตต่ำกว่าความเป็นจริงมากเกินไป เลยทำให้กองทัพเยอรมนีไม่สามารถยึดกรุงมอสโคว เพื่อบีบบังคับให้ฝ่ายโซเวียตยอมจำนนภายในฤดูใบไม้ร่วงปี ค.ศ.1941 ได้ จนเป็นเหตุให้กองทัพเยอรมนีที่ทั้งหมดยังสวมใส่เครื่องแบบทหารฤดูร้อน ต้องพบกับสภาพอากาศโหดร้ายในฤดูหนาวของรัสเซีย จนเป็นเหตุให้พวกเขาต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุด
8. การโจมตีกรีซของเยอรมนี
เดิมทีเยอรมนีวางแผนที่จะโจมตีสหภาพโซเวียตแบบสายฟ้าแลบเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้ทันตั้งตัว ทว่าพันธมิตรฝ่ายอักษะอย่างอิตาลีกำลังมีปัญหาในการรุกรานกรีซ จนทำให้เยอรมนีต้องยื่นมือเข้าไปช่วยอิตาลีในการยึดครองกรีซ
ปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายเยอรมนีในครั้งนี้ ได้ทำให้แผนการบุกสหภาพโซเวียตล่าช้าจากกำหนดการเดิม 6 สัปดาห์ ซึ่งหมายความว่าเยอรมนีจะเหลือเวลาสำหรับยุทธการบาร์บารอสซาในการเปิดฉากโจมตีฝ่ายสหภาพโซเวียตน้อยลงกว่าเดิม
9. สตาลินกราด
นี่คือหนึ่งในสมรภูมิรบที่รุนแรงที่สุดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้โมเมนตัมที่กำลังได้เตรียมของฝ่ายเยอรมนีกลับกลายมาเป็นฝ่ายเสียเปรียบในภายหลัง โดยกองทัพที่ 6 ของเยอรมนีได้รับคำสั่งให้มุ่งหน้าไปยังบ่อน้ำมันในที่ราบคอเคซัส โดยในตอนนั้น กองทัพที่ 6 ไม่จำเป็นต้องบุกเข้าไปยึดเมืองสตาลินกราด โดยอาจจะเลี่ยงไปทางอื่น หรือไม่ก็ล้อมเมืองเอาไว้จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
แต่สุดท้าย กองทัพที่ 6 ของเยอรมนีได้รับคำสั่งให้บุกยึดเมืองสตาลินกราด จนนำมาสู่การสู้รบที่รุนแรงระหว่างทหารเยอรมันและทหารโซเวียต ที่สู้รบกันอย่างดุเดือดภายในเมือง จนทำให้ทั้งสองฝ่ายสูญเสียชีวิตทหารเกือบสองล้านนาย
เมื่อกองทัพเยอรมันไม่สามารถยึดเมืองสตาลินกราดเอาไวได้สำเร็จ ต่อมากำลังสนับสนุนของฝ่ายโซเวียตได้มาถึง และได้เข้าโอบล้อมและทำลายกองทัพที่ 6 ของเยอรมันจนย่อยยับในเวลาต่อมา
10. สงครามสองด้าน
เป้าหมายหลักของฮิตเลอร์คือการพิชิตดินแดนรัสเซียมาโดยตลอด แต่เพื่อจัดการกับแนวรบด้านตะวันตกก่อน เลยทำให้ฮิตเลอร์ต้องตัดสินใจจัดการกับฝรั่งเศสและอังกฤษก่อน ฝรั่งเศสพ่ายแพ้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ เป้าหมายต่อไปคืออังกฤษ ทว่าเยอรมนีไม่สามารถยกพลขึ้นบกเพื่อยึดครองอังกฤษได้ เลยทำให้ฮิตเลอร์ต้องเปลี่ยนแผนใหม่ ด้วยเหตุนี้เอง เลยทำให้แนวรบด้านตะวันตกยังไม่ถูกพิชิตลงอย่างราบคาบ
ต่อมาฮิตเลอร์ก็ไปประกาศสงครามกับสหภาพโซเวียต แล้วก็ไปประกาศสงครามกับสหรัฐฯ ทั้ง ๆ ที่ยังเอาชนะพวกโซเวียตไม่ได้ จนทำให้เยอรมนีมีแนวรบสองด้านที่กว้างมากเกินไป และทำให้ภายหลัง กองทัพเยอรมันต้องพ่ายแพ้จากสงครามที่มาจากรอบทิศทางโดยฝ่ายสัมพันธมิตรไปในท้ายที่สุด
ข้อมูลจาก :
WARHISTORYONLINE.COM
9 บันทึก
10
1
6
9
10
1
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย