HOW TO CHOOSE THE BEST RACKET FOR YOU?
เลือกไม้แบดยังไงดี? 🤔 น่าจะเป็นคำถามยอดฮิตของคนที่เริ่มสนใจกีฬาแบด
คำตอบก็คือ มันไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัย ความชอบส่วนตัว เล่นสไตล์ไหน ตีเกมประเภทไหน ความแข็งแรงตอนนั้น อะไรพวกนี้
ง่ายที่สุดคือยืมของคนอื่นใช้ ซึ่งก็ไม่ค่อยสะดวกแหละ 😅
แนะนำให้เริ่มที่ไม้ที่มี specs ราวๆนี้ ถ้าไม่ถูกใจอยากเปลี่ยน จะขยับขึ้นหรือลงก็ไม่ต้องปรับตัวเยอะมาก
• ค่า swing weight กลางๆ พอดีกับตัวเรา ; ปกติไม้แบดจะไม่มีค่านี้บอกนะ ลองหยิบมาลองเหวี่ยงดูให้รู้สึกว่าเหวี่ยงได้สบายๆ ไม่หนืดไม่เร็วมากจนเกินไป
• น้ำหนัก 5U(76-79 g)-4U(80-84 g) ; ไม่แนะนำไม้ที่เบาเกินไป(<=7U) ส่วนตัวรู้สึกว่าค่อนข้างตียาก แรงส่งจากน้ำหนักของไม้ลดลง ต้องออกแรงข้อมือเพิ่มขึ้น
• ก้าน อ่อน-กลาง ; แนะนำให้แบบนี้เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการบาดเจ็บลง ค่อยๆปรับให้แข็งขึ้นได้ตามความชอบ ตามปริมาณกล้ามเนื้อและความแข็งแรงของเรา
• balance กลาง-หนักนิดๆ (290-300 mm)
ส่วนเรื่องยี่ห้อ เรทราคา ถ้างบไม่จำกัดก็ตัวเลือกมากหน่อย ถ้างบจำกัด ไม้ราคาประมาณ 1000+-200 บาทก็โอเคแล้ว พอเจอ spec ที่ถูกใจค่อยอัพตัวแพงขึ้นก็ได้
ถ้าไม่รู้จะเลือกรุ่นไหนก็เลือกพวกรุ่นใหม่ๆหน่อย เพราะส่วนใหญ่ technology มันก็พัฒนาขึ้นตลอดแหละ
แต่ไม้ที่มีน้ำหนักมาก หัวหนักมาก หรือมีค่า SW สูงเวอร์ๆก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เราสร้าง peak power ได้นะ มันจะมีค่าที่เหมาะสมของแต่ละคนอยู่ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงด้วย
อย่างที่เคยอธิบายไปว่า Power(P) คือความสัมพันธ์ของแรง(F; Force) และความเร็ว(v; velocity) จาก P=Fv
แปลว่าการที่เราจะผลิต power ที่สูงนั้นต้องทั้งสามารถสร้างแรงปริมาณมากและความเร็วสูงได้
ทีนี้มาดู force-velocity curve กัน น่าจะช่วยให้เข้าใจเหตุผลเรื่องน้ำหนักไม้ที่เหมาะสมในการสร้าง peak power มากขึ้น(รึเปล่า?🤣)
กราฟนี้คือความสัมพันธ์ระหว่างแรงกับความเร็ว(force-velocity relationship)
พื้นที่ใต้กราฟที่วาดเป็นเส้นประไว้ก็คือ power นั่นเอง การที่จะสร้าง peak power ได้ก็จะต้องเป็นจุดที่มีพื้นที่ใต้กราฟมากที่สุด คือมีพื้นที่สี่เหลี่ยมใหญ่ที่สุดอ่ะแหละ สังเกตว่าจะเป็นช่วงกลางของกราฟ ซึ่งมีแรงและความเร็วที่มากระดับนึง *ซึ่งแต่ละคนก็จะมีค่าเหล่านี้ต่างกันไป (อธิบายต่อในภาพถัดไป)
อะ อันนี้เสริมเฉยๆ เผื่อใครอยากรู้จุดอื่นๆของกราฟเพิ่ม
จุด max strength ด้านบนสุดของกราฟ อย่าง powerlifting จะยกน้ำหนักได้เยอะที่สุด แต่ยกขึ้นมาได้ช้าที่สุด
จุด strength speed อย่าง heavy olympic weightlifting ยกน้ำหนักขึ้นด้วยความเร็วที่มากกว่า แต่ยกน้ำหนักได้น้อยกว่า powerlift
จุด speed strength เช่นการกระโดดแบบมีโหลด อันนี้น้ำหนักก็จะเบาลงมาอีก
จุด max speed ด้านขวาสุดของกราฟ อย่างการวิ่ง sprint จะสามารถออกแรงด้วยความเร็วสูงสุด แต่โหลดก็คือน้ำหนักอย่างเดียว
แรงและความเร็วที่เหมาะสมในการสร้าง peak power ของแต่ละคนนั้นต่างกันไป
คนที่แข็งแรงกว่ากราฟก็จะ shift ไปทางขวามากกว่า (รูปเหมือนกราฟ D)
คนที่เป็น sprinter กราฟก็จะ shift ไปทางสาย speed มากหน่อย strength ก็ไม่ได้ peak มาก (รูปเหมือนกราฟ C)
ในอุดมคติอาจจะอยากพัฒนาทั้ง speed และ strength ให้สุดๆ แต่จริงๆแล้วมันทำไม่ได้ เราไม่สามารถเป็นได้ทั้งนักวิ่ง 100 m ระดับ elite ได้พร้อมๆกับเป็น powerlifter ระดับ elite ได้
สมมุติเอาไม้แบดที่มีน้ำหนักมากกว่าปกติ 3 เท่ามาตี เราจะไม่มีแรงพอที่จะเหวี่ยงไม้ให้มีความเร็วสูงได้ แปลว่าไม่สามารถสร้าง peak power ได้ ในทางตรงกันข้าม หากเอาไม้แบดที่มีน้ำหนักเบากว่าปกติ 3 เท่ามาตี เราจะเหวี่ยงไม้ได้เร็วมากๆ แต่ก็ไม่สามารถสร้าง peak power ได้เหมือนกัน
FB : Chotto Badminton
#ChottoBadminton 🦊 #howtochooseracket #badminton
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
