5 ต.ค. 2021 เวลา 11:18 • ประวัติศาสตร์
• เรื่องราวของหญิงสามคนผู้อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหญิงอนาสตาเซีย พระธิดาของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2
1
...เช้ามืดของวันที่ 17 กรกฎาคม 1918 ณ ชั้นใต้ดินของบ้านหลังหนึ่งในเมืองเยคาเตรินเบิร์ก (Yekaterinburg) ประเทศรัสเซีย
สมาชิกของราชวงศ์โรมานอฟอันประกอบไปด้วย พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 , พระราชินีอเล็กซานดรา, พระธิดาและพระโอรสจำนวน 5 พระองค์ อันได้แก่ เจ้าหญิงโอลกา, เจ้าหญิงตาเตียนา, เจ้าหญิงมาเรีย, เจ้าหญิงอนาสตาเซีย และเจ้าชายอเล็กซี่ ได้ถูกสังหารหมู่ภายใต้คำสั่งของกลุ่มบอลเชวิก
สมาชิกราชวงศ์โรมานอฟที่ถูกสังหารหมู่
นอกเหนือจากสมาชิกราชวงศ์ทั้ง 7 พระองค์นี้แล้ว บุคคลใกล้ชิดของราชวงศ์อีก 4 คน ก็ถูกสังหารเช่นเดียวกัน หลังจากเกิดเหตุการณ์สังหารโหด ศพทั้งหมดก็ได้ถูกนำไปฝังไว้ตามที่ต่าง ๆ ในเมืองเยคาเตรินเบิร์ก
ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้เกิดกระแสข่าวลืออันหนาหูว่า ได้มีหนึ่งในสมาชิกของราชวงศ์โรมานอฟที่สามารถรอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้ได้ ซึ่งก็คือพระธิดาองค์เล็กสุดของพระเจ้าซาร์ อย่างเจ้าหญิงอนาสตาเซีย
เจ้าหญิงอนาสตาเซีย พระธิดาองค์เล็กสุดของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้มีหญิงหลายสิบคนที่ได้อ้างตัวว่า ตนเองคือเจ้าหญิงอนาสตาเซีย โดยท่ามกลางคนที่อ้างตัวเป็นเจ้าหญิงอนาสตาเซียเต็มไปหมด ก็มีอยู่ 3 คนด้วยกัน ที่เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงและถูกพูดถึงมากที่สุด
เริ่มจากหญิงคนแรกที่มีชื่อว่า นาเดซดา อิวาโนวา-วาซิลีวา (Nadezhda Ivanova-Vasilyeva)
วาซิลีวาเป็นหญิงชาวรัสเซีย (บ้างก็ว่าเป็นชาวลัตเวีย) เรื่องราวของเธอได้ปรากฏขึ้นในปี 1920 จากการที่เธอพยายามเดินทางเข้าไปในจีน แต่เธอกลับถูกเจ้าหน้าที่ของบอลเชวิกจับกุมตัวไว้ หลังจากนั้นเธอก็ได้ถูกส่งตัวไปยังคุกในหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่เมืองนอฟโกรอด มอสโก เลนินกราด รวมไปถึงเกาะแห่งหนึ่งในทะเลขาว
Nadezhda Vasilyeva
เมื่อถึงปี 1934 วาซิลีวาได้ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลจิตเวชในเมืองคาซาน มีการบันทึกว่า ในตอนที่วาซิลีวาอยู่ในโรงพยาบาล เธอได้เขียนจดหมายไปหาพระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งอังกฤษ เพื่อประกาศตัวว่า เธอก็คือเจ้าหญิงอนาสตาเซีย ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของพระเจ้าจอร์จนั่นเอง และขอให้พระเจ้าจอร์จช่วยพาเธอออกจากโรงพยาบาลที
สุดท้ายในปี 1971 วาซิลีวาก็ได้เสียชีวิตในโรงพยาบาล หัวหน้าของโรงพยาบาลได้เคยออกมาพูดว่า "ยกเว้นเรื่องที่เธออ้างตัวว่าเป็นอนาสตาเซีย ส่วนที่เหลือเธอมีสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์ดี"
ส่วนหญิงคนต่อมา เธอมีชื่อว่า ยูจีเนีย สมิธ (Eugenia Smith)
2
Eugenia Smith
ในปี 1963 หญิงคนนี้ได้เขียนหนังสือที่มีชื่อว่า 'Her Imperial Highness Anastasia Nicholaevna of Russia' อันเป็นหนังสืออัตชีวประวัติของเจ้าหญิงอนาสตาเซีย (นีคะลายีฟนา) ที่บอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่แรกเริ่ม จนถึงวันที่สมาชิกราชวงศ์โรมานอฟถูกสังหารหมู่โดยบอลเชวิก
1
แต่ในหนังสือเล่มนี้ ยูจีเนียได้เขียนไว้ว่า ตัวของเจ้าหญิงอนาสตาเซียสามารถรอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้ได้ และพระนางก็ได้หลบหนีไปชีวิตอยู่ที่สหรัฐฯ ที่สำคัญก็คือ ยูจีเนียก็ได้อ้างว่าตัวเธอเองนั่นแหละก็คือเจ้าหญิงอนาสตาเซีย ที่ได้ลงมือเขียนหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเอง
ยูจีเนียเสียชีวิตในปี 1997 โดยก่อนที่เธอจะเสียชีวิต เธอปฏิเสธที่จะให้มีการตรวจดีเอ็นเอ ทำให้เชื่อว่าเธอกุเรื่องทั้งหมดเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง
และหญิงคนสุดท้ายก็คือ อันนา แอนเดอร์สัน (Anna Anderson)
Anna Anderson
ช่วงทศวรรษที่ 1920 อันนาได้ปรากฏตัวอยู่ที่เยอรมนี โดยเธอก็ได้อ้างตัวว่า เธอก็คือเจ้าหญิงอนาสตาเซียผู้รอดชีวิตจากเหตุสังหารหมู่
แม้ว่าอันนาจะพูดภาษารัสเซียไม่ค่อยได้ แถมสมาชิกของราชวงศ์โรมานอฟที่ยังหลงเหลืออยู่ จะยืนยันว่าอันนาไม่ใช่เจ้าหญิงอนาสตาเซีย แต่อันนากลับกลายเป็นผู้ที่อ้างตัวเป็นเจ้าหญิงอนาสตาเซียที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด
ที่สำคัญก็คือ มาเรีย รัสปูติน (Maria Rasputin) ลูกสาวของนักบวชชาวไซบีเรีย ผู้ทรงอิทธิพลในราชวงศ์โรมานอฟอย่าง กริกอรี รัสปูติน (Gregory Rasputin) ก็ได้ยืนยันว่า อันนาคือเจ้าหญิงอนาสตาเซียตัวจริง
ในปี 1979 ได้มีการค้นพบหลุมฝังศพของสมาชิกราชวงศ์โรมานอฟที่ถูกสังหารหมู่ โดยหลุมฝังศพนี้ ประกอบไปด้วยศพทั้งหมด 9 ศพ ซึ่งเชื่อว่าประกอบไปด้วย พระศพของซาร์นิโคลัสที่ 2 , พระราชินีอเล็กซานดรา , เจ้าหญิงโอลกา, เจ้าหญิงตาเตียนา, เจ้าหญิงมาเรีย และผู้ติดตามราชวงศ์โรมานอฟอีก 4 คน (ทั้งหมดถูกนำไปตรวจสอบดีเอ็นเอในช่วงทศวรรษ 1990)
ส่วนพระศพของเจ้าหญิงอนาสตาเซียกับเจ้าชายอเล็กซี่ ยังไม่ได้ถูกค้นพบในตอนนั้น เรื่องดังกล่าวจึงทำให้กระแสข่าวลือที่ว่า เจ้าหญิงอนาสตาเซียรอดชีวิตยิ่งมีมูลมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่า อันนาได้รับประโยชน์จากข่าวลือนี้ เพราะทำให้มีคนจำนวนมากเชื่อว่าเธอคือเจ้าหญิงอนาสตาเซียตัวจริง จนกระทั่งเธอเสียชีวิตลงในปี 1984
2
เวลาผ่านไปจนในปี 2007 ก็ได้มีค้นพบหลุมฝังศพอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งจากการตรวจสอบดีเอ็นเอก็พบว่า เป็นพระศพของเจ้าหญิงมาเรียกับเจ้าชายอเล็กซี่ ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่า แท้จริงแล้วพระศพของเจ้าหญิงอนาสตาเซียได้ถูกค้นพบตั้งแต่ปี 1979 แล้ว (เกิดจากความเข้าใจผิดในตอนแรก ที่คิดว่าพระศพของเจ้าหญิงอนาสตาเซียเป็นของเจ้าหญิงมาเรีย)
แล้วด้วยหลักฐานทั้งหมดจึงบ่งชี้ได้ว่า เรื่องราวของการอ้างตัวเป็นเจ้าหญิงอนาสตาเซียของหญิงหลายคนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องโกหกทั้งหมดนั่นเอง (ภายหลังพบว่า อันนา แอนเดอร์สัน แท้จริงแล้วเป็นชาวโปแลนด์ที่ชื่อ ฟรานซิสก้า ชานซ์คอฟสก้า Franziska Schanzkowska)
1
*** Reference
#HistofunDeluxe
โฆษณา