Turkey (07) .. ย่านช้อปปิ้ง Spice Market หรือ Egyptian Market
สไปซ์ มาร์เกตหรือตลาดเครื่องเทศ (Spice Market) .. เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1660 ในอดีตตลาดแห่งนี้ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากประเทศอียิปต์ มีชื่อในเรื่องสินค้านำเข้าจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์มานาน ตั้งแต่อียิปต์เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรออตโตมัน และได้กลายเป็นศูนย์กลางการค้าเครื่องเทศของอิสตันบูล เป็นกลิ่นของเมืองที่มีมาตั้งแต่สมัยออตโตมัน
ปัจจุบันร้านขายเครื่องเทศได้ลดบทบาทความสำคัญลง .. แต่ยังคงเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนโลก มีร้านค้ามากมายที่แบ่งเป็นล๊อคๆ ตั้งเรียงรายอยู่บนถนนทางเดินที่แยกออกเป็นซอยเล็ก ซอยน้อยภายในหลายสิบถนน เวลาเดินต้องมีความสังเกตดีๆ เพื่อไม่ให้หลงทางง่ายๆ
Spice Market … ยังมีสินค้าประเภทเครื่องเทศมากมายตามชื่อของตลาด แค่เราเข้าไปในบริเซณตลาดก็จะได้กลิ่นเครื่องเทศโชยมาแต่ไกล แม้จะยังไม่เห็นเครื่องเทศวางอยู่จริงๆ ไม่ว่าจะเป็น ซินนามอน แชฟฟรอน รวมถึงผลไม้แห้งต่างๆ เช่น อินทผลัม หรือถั่วต่างๆ ในสมัยโบราณตลาดแห่งนี้จะขายเครื่องยาแปลกๆ เช่น ผงดินปืน มันกระต่าย (Rabbit fat) หรือแม้กระทั่งน้ำนมลา (Donkey’s Milk)
ในช่วงตลาดเปิด ทางเดินแน่นขนัด .. มีผู้คนมากหน้าหลายตามาเดินซื้อของ หรือไม่ก็มาเดินชมมากมาย ใบหน้าอันหลากหลาย ทั้งอาหรับ ที่เดินสวนทางกับคนเอเชียอย่างเรา ฝรั่งผมทอง เดินสวนกันตลอดเวลา .. ร้านค้าเปิดไฟสว่างไสว ประดับประดาร้านอย่างสวยงาม
นอกจากนี้เราอาจจะสนุกที่เห็น คนขายผิวเข้ม เคราเขียว ชี้ชวนให้ซื้อสินค้าที่มีมากมายให้เลือกซื้อ คุณภาพดี ราคาย่อมเยาว์ ทั้ง พรมทอมือหลากสีสัน โคมไฟสีสันสดใสแบบตุรกี เครื่องแก้วเจียรนัย เครื่องประดับเงิน เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ เพชรพลอย เครื่องดูดบารากู่ ฯลฯ สินค้าส่วนใหญ่น่าดู น่าจับ เป็นตลาดที่นี่มีสีสันน่าเดินมากๆ
ภาพจาก Internet
นอกจากมีเครื่องเทศขายมากมายแล้ว ยังมีสินค้าของฝากจากตุรกี ที่คนไทยนิยมซื้อติดมือกลีบเมืองไทยกันมากก็คือ ชาแอปเปิ้ลอันขึ้นชื่อของตุรกี .. ดวงตาสีฟ้า (Evil Eyes) เครื่องรางปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายตามความเชื่อของชาวตุรกีที่ปัจจุบันเป็นของฝากขั้นดีราคาเยาว์
ที่น่าสนใจสำหรัยเรา คือ สินค้าประเภทอบแห้ง แปรรูป ที่เป็นของกินเล่นที่รวมเอาส่วนเนื้อแห้ง เม็ดแห้ง หลายชนิดมารวมกัน หรือสินค้าที่เอามาทำเป็นชา เช่น ชาเขียวผสมแอปเปิ้ล เนื้อกีวีอบแห้ง พุทราแห้ง อินทผาลัม เมล็ดธัญพืช ผลมะกอกแห้งหรือแช่อิ่ม ซึ่งเป็นสินค้าขึ้นชื่ออย่างหนึ่งของตุรกี และอีกหลายชนิดที่วางหลากสีสันให้เลือกซื้อ .. จะหันไปทางไหนก็จะพบกับของกินเหล่านี้ ตั้งเรีนงรายเต็มไปหมด
"Turkish Delight" .. เป็นขนมหวานที่เป็นเอกลักษณ์ของตุรกี ที่โด่งดังไปไกล ซึ่งมักจะเป็นของฝากที่ยอดเยี่ยม .. เล่ากันว่า ที่มาของขนมที่เลื่องชื่อนี้มาจากนาย Haci Bekir พ่อครัวประจำราชสำนักแห่งอาณาจักรออตโตมัน ได้คิดค้นขนมชนิดนี้ขึ้นมา ด้วยการนำเอาน้ำตาลไปเคี่ยวแล้วผสมกับแป้ง หากอยากให้พิเศษก็ผสมถั่วและผลไม้แห้ง เติมสีที่ได้จากดอกไม้เข้าไป และก็จะได้ขนมสีสวยงามที่ได้รับความนิยมในงานเลี้ยงของราชสำนักอยู่เป็นประจำ ก่อนที่นาย Haci Bekir จะนำสูตรนี้ไปเปิดร้านเป็นของตนเองและแพร่หลายออกไป จนกลายเป็นขนมประจำชาติของตุรกี
ร้านที่ขาย "Turkish Delight" ต่างมีสูตรลับในการคิดส่วนผสมพิเศษ ของเมล็ดธัญพืช น้ำผึ้ง ถั่ว งา ผลไม้อบ เครื่องเทศ กลิ่นรสที่หลากหลาย เพื่อให้ได้รสชาติเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า .. เวลาที่เราเดินผ่านร้าน จะมีการเชิญชวนให้เข้าไปลองชิมในแต่ละชนิดที่หลากหลาย
รสชาติของ "Turkish Delight" นั้นจะมีรสหวานมาก หวานจนแสบคอทำให้กินเปล่าๆ ไม่ได้ จึงต้องกินคู่กับชาหรือว่ากาแฟรสเข้มๆ ซึ่งมันก็เข้ากันจนทำให้ในตุรกี Turkish Delight กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการจิบน้ำชา
นอกจากนี้สไปซ์ มาร์เกต ก็ยังมีสินค้าอื่นๆอีกมากมาย เป็นตลาดที่เหมาะกับคนธรรมดาๆฐานะอย่างเรา รวมถึงเป็นมิตรกับกระเป๋าเรามากกว่า
เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของตลาดนี้ คือ เสียงต่อรองราคาของผู้ซื้อและผู้ขายเสียงของผู่คนพูดจาทักทายกัน เสียงหันร่อต่อกระซิก .. มีเสียงดนตรีจากศิลปินข้างถนนชาวเติร์กเดิน สีไวโอลินขับขานเพลงพื้นเมืองให้ผู้ตนที่มานั่งพักผ่อนในร้านกาแฟให้ฟังกัน .. หนุ่มตุรกีหน้าเข้ม อัธยาศัยดี ง่วนอยู่กับการเสริฟน้ำชากาแฟอย่างยิ้มแย้ม .. กลิ่นเครื่องเทศจากร้านอาหาร โชยเข้ามาแตะจมูก
ตลาดเครื่องเทศแห่งตุรกี .. ตลาดที่มีสีสัน มีกลิ่นเฉพาะตัว เป็นกลิ่นอันรัญจวนแห่งออตโตมัน เป็นเส้นทางชีวิตของผู้คนที่มาจากหลายมุมของโลกที่ต่างอารยธรรม แต่ไหลรวมเป็นเส้นสายของการผสมผสานอยู่ตรงหน้าเรา ให้เราได้รู้ได้เห็น และเสพกลิ่นรสที่ลอยมาตามลม
ไม่ว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบัน .. จะเป็นยุโรปหรือเอเชีย .. อิสตันบูลก็ยังเป็นเมืองหนึ่งในดวงใจของผู้คน ไม่ว่าจะเคยมาแล้วและหวังจะมาอีก หรือผู้ที่มีความใฝ่ฝันจะได้มาเยือนเมืองนี้สักครั้ง
ภาพจาก Internet
ดวงตาปีศาจ (Evil Eye)
คนแรมทางอย่างเรา เมื่อเดินทางมาเยือนตุรกี ก็ต้องซื้อ ดวงตาปีศาจ (Evil Eye) ติดมือกลับบ้านมาด้วย โดยมีความรู้น้อยมากกับของสิ่งนี้ .. เมื่ออยู่ที่บ้าน และมีเวลาจึงค้นหาที่มาและความเชื่อต่างๆที่แนบแน่นอยู่กับสิ่งนี้
ดวงตาปีศาจ (Evil Eye) .. ชาวตุรกีเรียกว่า “นาซา บองซุก” (Nazar Boncugu) คนตุรกีมักจะแขวนไว้ตามบ้านเรือน ส่วนใหญ่จะตรงทางเข้าบ้าน หรือไม่ก็แขวนไว้กับตัว .. และเราจะเห็นอยู่ทั่วไปในทุกภาคของประเทศนี้
บันทึกของชาววสุเมเรียนกว่า 3000 ปีที่แล้ว ก่อนคริสตกาลมีการกล่าวถึงดวงตาชั่วร้าย ความชั่วร้ายที่ส่งผ่านดวงตา จึงนำไปสู่การสร้างดวงตาสีน้ำเงิน เพื่อขับไล่ดวงตาแห่งความชั้วร้ายออกไป .. หรืออีกนัยหนึ่ง เป็นการมุ่งปัดเสนียดจัญไรออกไป ปีดกวาดดวงตาแห่งความอิจฉาริษยาที่จ้องทำร้าย
ความจริงอีกด้านหนึ่ง.. ดวงตาปีศาจถือเป็นเครื่องรางเริ่มแรกในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมานานนับ 5000 ปี ขยายออกไปสู่ดินแดนต่างๆ ในแถบโดยรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ข้ามไปจนถึงถิ่นมนแถบเทือกเขาหิมาลัย
ดวงตาปริศนายังปรากฏในแถยลาตินอเมริกา เป็นความเชื่อในดวงตาขจัดความชั่วร้าย กำจัดความมืดออกไปจากชีวิต
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลกกับพี่สุ … รวม link บทความที่เขียนในเพจ ..
***เมืองไทย ไดอารี่ by Supawan
***Supawan’s colorful world
***สถานีอร่อย by Supawan
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
