6 ต.ค. 2021 เวลา 04:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
[สปอยล์] เหล่าเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับความโหดฮาของ The Suicide Squad จากเจมส์ กันน์
เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้วเรียบร้อย สำหรับ The Suicide Squad ซึ่งก็ได้เข้าฉายในวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางทัพหนังที่เข้าฉายมากมาย โดยวันนี้ เราจะมาพูดถึงเรื่องที่น่ารู้เกี่ยวกับ The Suicide Squad ซึ่งส่วนหนึ่งเปิดเผยโดย เจมส์ กันน์ ผู้กำกับ ฯ และมือเขียนบทผ่านทางทวิตเตอร์เองครับ
ทั้งนี้ข้อมูลหลายอย่าง มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญในเรื่อง จึงอาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยรับชมมาก่อน
- ผู้เขียนคอมมิค The Suicide Squad อย่าง จอห์น ออสเตรนเดอร์ มาปรากฎตัวเป็น ดร. ฟิตซ์กิบบอน แพทย์ที่ทำหน้าที่ฝังไมโครชิประเบิด ในกะโหลกศรีษะของซาวอนท์ในฉากเปิดเรื่อง
- ฉากเปิดเรื่องที่เป็นทีมเฉพาะกิจเอ็กซ์ เดินหน้ากรีฑาไปยังเฮลิคอปเตอร์เพื่อปฏิบัติภารกิจและมีธงชาติสหรัฐอเมริกาเป็นฉากหลัง เจมส์ กันน์ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังอย่าง Patton ซึ่งนำแสดงโดย จอร์จ ซี. สก็อตต์
- เจมส์ กันน์ เผยว่า เขาเป็นแฟนตัวยงของผู้ประพันธ์เพลงอย่าง จอห์น เมอร์ฟี่ มาตั้งแต่ 28 Days Later และเฝ้าฝันอยากทำงานมาโดยตลอด จนได้โอกาสร่วมงานใน The Suicide Squad
- ฌอน กันน์ ทำหน้าที่แสดงโมชั่นแคปเจอร์ในบท วีเซิล โดย เจมส์ บอกให้ ฌอน แสดงให้เหมือนเป็นสุนัขพันธ์ เยอรมัน เชพเพิร์ด ด้วยการบอกว่า “ลองคิดว่าพวกเขาดูแลหมา ด้วยการที่ทีมโยนเขาลงจากทะเลแบบนั้น” ทั้งนี้ในฉากเลียกระจก ฌอน ก็เลียด้วยตัวเอง
- กระเป๋าที่ใส่ปืน RPG ของฮาร์ลีย์ ควินน์ เขียนไว้ว่า “hey ho let’s go” เช่นเดียวกับหลังเสื้อของเธอที่เขียนไว้ว่า “live fast die clown”
- ฉากชายหาดซึ่งใช้ในฉากเปิดเรื่อง ถูกสร้างขึ้นในพื้นที่สตูดิโอ ในแอตแลนต้า รัฐจอร์จเจีย และเป็นหนึ่งในฉากที่ใหญ่ที่สุดที่เคยสร้างมา และร่างของวีเซิลที่นอนอยู่ริมหาด ก็เป็นเอฟเฟคทำมือล้วน ๆ (practical effect)
- มีแฟนคลับทวิตชี้ว่า ฉากเปิดของเรื่องถือเป็นการปูพื้นเรื่องที่ยอดเยี่ยม ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวผ่านสายตาตัวละครอย่าง ซาวอนท์ ให้เป็นเหมือนสายตาของคนดูที่กำลังเปิดประตูไปสู่เรื่องราวแสนบ้าคลั่ง และเมื่อเสียงระเบิดดัง ซาวอนท์ก็มีปฏิกริยาไม่ต่างจากผู้ชม กันน์ จึงทวิตตอบอย่างขำขันว่า ซาวอนท์ถือเป็นตัวเอกของ The Suicide Squad แต่แค่ช่วง 12 นาทีแรกของเรื่องเท่านั้น
- เจมส์ กันน์ ตอบคำถามแฟน ๆ ในทวิต ถึงคำถามที่ว่า ริค แฟล็ค รู้เรื่องแผนการในฉากเปิดหรือไม่ที่จะโดนซุ่มโจมตี โดย เจมส์ ตอบว่า ริค ก็เป็นหนึ่งในเหยื่อที่อะแมนดา วอลเลอร์ วางไว้เช่นเดียวกับทีมแรก และริคก็ไม่ใช่ตัวร้ายอย่างแน่นอน
- เส้นผมที่ตัวละครบลัดสปอร์ตดึงออกมา ขณะกำลังทำความสะอาด เป็นเส้นผมของซาวอนท์
- เจมส์ เผยว่า ฉากคุยกันระหว่างบลัดสปอร์ตและลูกสาวผ่านโทรศัพท์ เป็นฉากสำคัญ เพราะเป็นสิ่งที่ปูพื้นเรื่องราวให้กับผู้ชม แม้จะตลกขบขัน แต่ก็ทำให้รู้ถึงนิสัยตัวละครอย่างบลัดสปอร์ต ว่าเขาไม่ได้เป็นแค่พ่อที่แย่และมีอารมณ์อ่อนไหว แต่เขาเป็นไอ้สารเลวและเป็นพ่อที่แสนระยำ เจมส์ ยังกล่าวชมการแสดงของไอดริส เอลบ้า และ สตอร์ม รี้ด ในฉากนี้ด้วย
- เจมส์ เขียนตัวละคร คิงชาร์ค โดยนึกถึง ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ไว้ตลอด แต่เขาก็เคยเรียกตัวนักแสดงรายอื่นมาทำหน้าที่อัดเสียงตัวละครนี้ถึง 3 คน โดยเป็นนักพากย์มืออาชีพ 2 รายและนักแสดงอาชีพอีก 1 ราย ซึ่งก็ไม่มีรายไหนที่เข้าท่าสำหรับเขา เจมส์จึงเอ่ยปากถามสตอลโลน ซึ่งสตอลโลนก็ตอบรับ
- เจมส์ กล่าวว่าฉากประชุมแผนก่อนปฏิบัติภารกิจ อ้างอิงมาจากคอมมิคต้นฉบับโดยตรงของออสเตรนเดอร์ ที่เหล่าตัวละครจะนั่งห่าง ๆ กันแบบในหนัง
- คำพูด “ก็อยากอยู่ (I hope so)” ของโพลก้าดอท-แมนในฉากประชุมแผน เป็นสิ่งที่ เจมส์ เขียนเป็นประโยคแรก ๆ ในขั้นต้นของกระบวนการการเขียนบท ก่อนที่เขาจะตระหนักว่า ไม่มีนักแสดงคนไหนเหมาะสมที่จะพูดประโยคนี้ไปกว่า เดวิด แดสท์มัลแชน อีกแล้ว นั่นทำให้เขาเขียนบทโพลก้าดอท-แมน โดยมี แดสท์มัลแชนในใจไว้ตลอด
- เดวิด แดสท์มัลแชน ถึงกับร้องไห้ ในตอนที่เขาต้องเข้าทดสอบการเอฟเฟคแต่งหน้าเป็นครั้งแรก (เอฟเฟคผื่นเรืองแสง ซึ่งก็เป็นเทคนิคพิเศษทำมือเช่นกัน)
- ฉากระเบิดแทบทุกฉากในเรื่อง เป็นฉากระเบิดของจริง (practical effect) โดยผู้ชำนาญด้านเทคนิคพิเศษอย่าง แดน ซูดิค ซึ่งแดนก็รับหน้าที่ทำฉากเทคนิคพิเศษให้กับหนังมาร์เวล รวมถึงหนังที่ถ่ายทำในรัฐจอร์จเจียแทบทั้งหมด ซึ่ง แดน ถึงกับเอ่ยปากเลยว่า The Suicide Squad มีฉากระเบิดมากที่สุดเท่าที่เขาเคยถ่ายทำมา
- ฉากยิงเกทับในค่ายนักต่อสู้เพื่ออิสรภาพของคอลโตมัลทีส ระหว่าง พีซเมคเกอร์ และ บลัดสป็อต นั้น ถูกก่อร่างสร้างขึ้นระหว่างการวาดสตอรี่บอร์ดรอบแรก โดยในบทของเจมส์ เขียนไว้เพียงแค่ว่า “การแข่งขันสังหารหมู่” เท่านั้น
- ประโยค “คงอยากคิดว่า พวกเขาเป็นมิตร (I guess because it’s friendly)” ของริค แฟล็ค หลังจากที่ซัลโซเรีย เห็นหนูเซบาสเตียนโบกมือให้ เป็นหนึ่งในประโยคที่เขาชอบมากสุดในเรื่อง
- ฉากโครงการสตาร์ฟิช ที่เผยให้เห็นเหล่านักบินอวกาศสหรัฐ ฯ จับสตาร์โรเข้ายานอวกาศ เป็นการถ่ายทำแรก ๆ ในกองถ่าย The Suicide Squad และถ่ายด้วยกล้อง 16 มม.
- มีแฟนคลับถามถึง ผ้าพันแผลที่หูของธิงเกอร์ ซึ่ง เจมส์ ก็บอกว่า มีคำตอบให้อยู่ในฉากที่ถูกลบไปใน Blu-ray ซึ่ง ธิงเกอร์ พยายามจะโน้มน้าวกับโพลก้าดอท-แมน ซึ่งก็เกือบสำเร็จ หากแต่โพลก้าดอท-แมน ยิงเข้าที่หู
- ประโยคที่ ฮาร์ลีย์ ควินน์ พูดกับลูน่า หลังตัดสินใจยิงทิ้ง เป็นหนึ่งในสิ่งที่เจมส์เขียน ก่อนที่จะเริ่มต้นเขียนบทจริง ๆ เสียอีก โดย เจมส์ เผยว่า เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นการพัฒนาบุคลิกในแบบของเธอ
- เจมส์ ยังเผยอีกด้วยว่า เขาอยากจะที่สร้างตัวร้ายสุดงี่เง่า ด้วยเรื่องราวเบื้องหลังที่แสนมืดมน
- ตัวละคร มิลตัน ตอนแรกถูกวางให้เป็นชายร่างบางผอมแห้ง ก่อนที่ เจมส์ จะพบกับ จูลิโอ รูอิซ แล้วเปลี่ยนใจภายหลัง
- เจมส์ กันน์ ยืนกราน ไม่ได้เกลียดนก หลังมีทั้งฉากปาบอลอัดนกตายในฉากเปิด และ ฉากเผากรงนกแก้วในเรื่อง
- เจมส์ กันน์ เผยว่า ช่วงเวลาที่เหล่าตัวละครกำลังจะเลือกชุดปลอมตัว เจมส์ ก็ปล่อยให้เหล่านักแสดงได้เลือกชุดจากกล่องเหล่านั้นเอง โดยมีคำแนะนำกำกับไว้ให้นิดหน่อย
- ฉากที่ แรทแคชเชอร์สอง บรรยายถึงพ่อตัวเองบนรถบัส และพูดกับ บลัดสป็อตว่า “พ่อรักฉัน และฉันอยากจะแบ่งปันความรักนั้นให้คุณบ้าง (He loved me – I wish could give that to you)” เป็นหนึ่งในประโยคที่สำคัญกับเจมส์มากที่สุดในเรื่อง เพราะนั้นเป็นสิ่งที่เธอทำให้กับเขาในฉากไคลแมกซ์
- แถมดนตรีประกอบที่บรรเลงระหว่างฉากของแรทแคชเชอร์สอง ซึ่ง จอห์น เมอร์ฟี่ ก็จัดการประพันธ์เสร็จก่อนถ่ายฉากนี้ เจมส์ จึงนำมันมาเปิดฟังระหว่างกำกับฉากนี้ไปเลย
- เจมส์ พูดถึงนักแสดง แดเนียลา เมลชอร์ ผู้รับบท แรทแคชเชอร์สอง ว่า เขาเลือกเธอมารับบทนี้ ไม่ใช่เพราะเธอแสดงได้เฉียบคมหรือจรัสแสงในตอนทดสอบหน้ากล้อง แต่เพราะเธอแสดงได้เป็นธรรมชาติมาก และนั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องการ
- เจมส์ กันน์ เผยว่า ฉากที่เหล่าทีมเฉพาะกิจเอ็กซ์ในบาร์ ลากาตีต้า อามาเบล เป็นหนึ่งในฉากที่เขาใจสลายมากที่สุดที่เขาเคยเขียน เพราะเขาล่วงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา
- ประโยค “คำตอบของฉันอาจทำให้เธอเหวอ (My answer may not be what you expect)” ของธิงเกอร์ หลังโดนแรทแคชเชอร์สองขู่จะให้ฝูงหนูทะลวงตูด เป็นประโยคฮาลั่นที่สุด ในช่วงทดสอบอ่านบทร่วมกับเหล่านักแสดง
- เจมส์ เผย เขาเลือกเพลงประกอบภาพยนตร์ ด้วยการใส่เข้ามาตั้งแต่ในบทภาพยนตร์เลย
- ฉากที่ฮาร์ลีย์ ควินน์ ฆ่าทหารเฝ้ายามและจัดการขโมยกุญแจมาปลด ขณะกำลังโดนห้อยใส่ตรวจกุญแจมืออยู่ เป็นฉากที่ มาร์โก้ ร็อบบี้ แสดงด้วยตัวเองทั้งหมด ซึ่ง เจมส์ กันน์ ประทับใจในฉากนี้มาก แต่กลับกัน มันทำให้ เจมส์ เสียใจมากเช่นกันที่ไม่มีช็อตไหนที่เห็นหน้าของมาร์โก้ชัด ๆ เลย
- ฉากบู๊ลุยเดี่ยวของฮาร์ลีย์ ควินน์ กินเวลาถ่ายทำร่วม 3 วัน (4 วัน หากนับฉากรัดคอทหารเฝ้ายามด้วยต้นขา) ซึ่ง เจมส์ ทำหน้าที่ถ่ายทำเองโดยไม่มีกองที่สอง เจมส์ ยังตั้งชื่อช็อตเหนือหัวที่ฮาร์ลีย์หมุนตัวยิงทหารไปรอบ ๆ ว่า The Umbrellas of Cherbourg (ชื่อของหนังมิวสิคัลปี 1964)
- ฉากที่ ฮาร์ลีย์ ควินน์ ออกมาเจอกับ บลัดสปอร์ต และ ริค แฟล็ค กำลังจะบุกเข้าไปช่วยเธอ เป็นวันเดียวกับที่เจมส์ กันน์ ทราบถึงการจากไปของสุนัขพันธ์บลูด็อก ดร. เวสลีย์ ฟอน สเปียร์ วัย 16 ปี ซึ่งทันทีที่ทราบข่าว เจมส์ก็สั่งพักกองชั่วคราวเป็นเวลา 1 วัน เพื่อบินกลับไปแอตแลนต้าเพื่อไปดูสุนัขแสนรักที่เลี้ยงมายาวนาน อีกทั้งยังขอบคุณ Warner Bros. ที่เข้าใจและอนุญาตให้พักกอง ก่อนจะกลับมาถ่ายทำต่อ
- ประโยค “ใครกินกะหรี่ปั๊บหมดวะ (Who are all the empanadas?)” ในฉากประชุมบนหลังคาก่อนเข้าโยธันไฮม์ เป็นประโยคที่โจเอล คินนาแมน ด้นสดระหว่างถ่ายทำ โดย จอห์น ซีน่า เองก็กินกะหรี่ปั๊บไปทั้งหมด 36 อันในการถ่ายทำฉากนั้น
- ประโยค “ฉันกำลังเดินยามเข้มเชียวนะ (I am walking back and forth)” ที่ฮาร์ลีย์ ควินน์ พูด ขณะกำลังเดินวนไปมาแบบไม่มีจุดหมาย ในฉากประชุมบนหลังคาก่อนเข้าโยธันไฮม์ เป็นประโยคที่เจมส์ด้นสดในกองและส่งให้มาร์โก้พูด ระหว่างเทค และทุกคนก็หลุดขำกันหมด หลังมาร์โก้พูดประโยคนั้น
- เจมส์ กันน์ ชี้ถึงจุดพลิกผันที่ พีซเมคเกอร์ เผยคำสั่งกำชับและตัดสินใจทรยศทีมที่แม้จะดูเลวร้าย แต่การกระทำของเขาก็ยังดูฟังขึ้นในเชิงตรรกะ ทั้งเขาและริค ต่างมีมุมมองที่ถูกต้องในด้านของเขา และพีซเมคเกอร์ก็ยังอยากทำหน้าที่ผดุงสันติอยู่ดี
- ฉากการตายของริค แฟล็ค ทำให้ เจมส์ กันน์ ร้องไห้ทุกครั้ง ก่อนจะกล่าวชื่นชม คริส แวกเนอร์ มือตัดต่อที่ถ่ายทอดอารมณ์ของฉากนี้ได้ อีกทั้งช็อตที่เห็นเศษกระเบื้องทิ่มทะลุหัวใจ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Street Fighter ก็ถูกกดดันจากสตูดิโออย่างมาก แต่ เจมส์ ยืนกรานอยากให้มีช็อตนี้ เพราะเขาอยากให้ผู้ชมเห็นว่า นี่คือการตายของตัวละครนี้จริง ๆ
- เจมส์ กันน์ เผยว่า ช่วงเวลาที่แรทแคชเชอร์สองก้าวไปหยิบฮาร์ดไดร์ฟที่บันทึกข้อมูลของโครงการสตาร์ฟิช เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่กล้าหาญมากที่สุดในเรื่อง เพราะตัวละครของเธอ เป็นเพียงหญิงสาวที่แสนปกติเท่านั้น
- Clyrax (สิ่งมีชีวิตคล้ายแมงกะพรุนที่มีปากเป็นเขี้ยว ซึ่งคิงชาร์คเจอในอวคาเรียมบนโยธันไฮม์) อ้างอิงมาจากภาพวาดของผู้ช่วย ฯ ในกองถ่ายของเจมส์ อย่าง เม็ก สเตเปิ้ลตัน และเป็นคนละสายพันธ์กับสตาร์โร
- เจมส์ เผยว่า ในฉากที่เล่าย้อนถึงประโยคของแรทแคชเชอร์หนึ่ง ที่พูดกับคลีโอบนหอคอย จะเห็นมือของเขาโอบกอดคลีโอในวัยเด็กอยู่ แบบเดียวกับที่ คลีโอโอบกอดปลอบบลัดสปอร์ตที่กำลังสั่นกลัว เพื่อ “แบ่งปันความรัก” ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอหวังมาตลอด และก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ บลัดสปอร์ต พบช่วงเวลาไถ่บาปที่แท้จริง ภายใต้ช่วงเวลาที่เปราะบางไม่ใช่ช่วงเวลาที่เขาแข็งแกร่ง
- ฉากที่ ฮาร์ลีย์ ควินน์ วิ่งพุ่งหอกแทงเข้าไปในนัยน์ตาของสตาร์โร เป็นหนึ่งในฉากที่เจมส์ กันน์ ชอบและแปลกที่สุดเท่าที่เขาเคยถ่ายทำมา เจมส์ ยังเผยด้วยว่า มาร์โก้ ร็อบบี้ กลั้นหายใจถ่ายได้นานมาก
- มีฉากที่ โฟล คราวลีย์ (เจ้าหน้าที่ ที่จัดการฟาดหัว อแมนดา วอลเลอร์) ถูกจับอยู่ในช่วงท้าย ๆ ของหนังด้วย แต่ถูกตัดออก เพื่อรักษาจังหวะการดำเนินของเรื่อง
- เจมส์ กันน์ ยังเผยด้วยว่า เขากำลังคิดและเขียนไอเดียภูมิหลังของวีเซิลไว้เยอะมาก
The Suicide Squad เข้าฉายแล้ว ทุกโรงภาพยนตร์
โฆษณา