Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
no name
•
ติดตาม
6 ต.ค. 2021 เวลา 00:10 • กีฬา
[ #สาลิกาผู้น่าสงสาร ]
ถ้าคุณเป็นแฟนแมนฯยูไนเต็ด แล้วรู้สึกทรมานใจหรือผิดหวังสุดๆที่ไม่ได้สัมผัสแชมป์พรีเมียร์ลีกมานานเกือบ 10 ปีแล้ว
ไหนจะทรงเกมช่วงหลังก็แทบไม่มีวี่แววเลยว่าจะฝ่าด่านหิน เพื่อกลับมาผงาดอีกครั้งได้อย่างไร
แต่ถ้าคุณเป็นกองเชียร์นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด อาจจมทุกข์หนักกว่ามาก ราวกับว่าทีมรักกำลังต้องคำสาป ที่แทบไม่เห็นหนทางหลุดพ้นจากวังวนเลวร้ายได้ง่ายๆเลย
ว่ากันตามขนาดแล้ว นิวคาสเซิ่ลคือสโมสรใหญ่ของประเทศอังกฤษเลยทีเดียว มีแฟนบอลซึ่งเป็นคนท้องถิ่นนิวคาสเซิ่ล รวมทั้งชาวจอร์ดี้ซึ่งเป็นชื่อเรียกผู้คนละแวกนั้นมากมายหลายแสน
แถมแฟนบอลเหล่านี้พร้อมสนับสนุนทีมรักเสมอมา ไม่ว่าตกทุกข์ได้ยากขนาดไหน ก็ตามให้กำลังใจตลอด ลงไปคลุกฝุ่นในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ก็ยังแห่กันเข้ามาชมเกมแทบทะลัก
แพสชั่นของแฟนๆไม่เคยหายไปไหน สืบสานส่งต่อผ่านดีเอ็นเอกันมาช้านาน มันรู้สึกได้ถึงความเข้มขลัง เป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจยามเมื่อคุณสวมเสื้อขาวดำของเดอะ แม็กพายส์
ขณะเดียวกันเซนต์ เจมส์ พาร์คสังเวียนแข้งก็สวยงามโอ่อ่าได้มาตรฐานอีกต่างหาก จุได้มากถึง 52,000 คน ใหญ่โตติดท็อปไฟฟ์พรีเมียร์ลีก ไม่ต้องอายใครเลย หากต้องพูดถึงสนาม
จนมีคำกล่าวไว้ว่า "There is never a dull day at St. James' Park" หรือไม่มีทางน่าเบื่อที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค เพราะเสียงเชียร์ที่ดังกึกก้อง บรรยากาศที่ยอดเยี่ยม โอบล้อมด้วยสนามสวยงาม
แล้วอย่างนี้เราจะรู้สึกเบื่อได้อย่างไรกัน มันอาจไม่ใช่สวรรค์ของผู้มาเยือน แต่ก็ทำให้ร้องว้าวได้เลย หากว่ามาเห็นในครั้งแรก
นี่คือความเพียบพร้อมของนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้ยินอย่างนี้แฟนบอลหลายทีมอาจอิจฉา แต่ถ้ารู้ความจริงลึกลงไปแล้ว อาจสงสารบรรดากองเชียร์มากกว่า
ข้างนอกฉาบไว้อย่างสวยงาม แต่ข้างในดูแตกต่างราวฟ้าเหวเลย
ครั้งสุดท้ายที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้แชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ ต้องถอยหลังกลับไปฤดูกาล 1926/27 ส่วนครั้งสุดท้ายที่คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ย้อนไปยังปี 1955 เรียกว่านานจนแฟนบอลหลายคนอาจจะลืมไปแล้ว
ส่วนเกรียติยศหนล่าสุดของพวกเขาคือ ยูฟ่า อินเตอร์โตโต้ คัพ ในปี 2006 ซึ่งหมายถึงการคว้าแชมป์ในรอบคัดเลือก ก่อนจะได้สิทธิ์เข้าร่วมหวดยูฟ่า คัพ ซึ่งก็คือยูฟ่า ยูโรปาลีกในปัจจุบันนั่นเอง
ไม่น่าเชื่อว่าสโมสรใหญ่สุดในแห่งตะวันออกเฉียงเหนือเมืองผู้ดี จะขัดสนความสำเร็จมายาวนานหลายสิบปี
1
หลายคนจำภาพของนิวคาสเซิ่ลในช่วงยุคกลางทศวรรษ 90 ได้เป็นอย่างดี นอกจากก้าวขึ้นมาท้าทายความยิ่งใหญ่แมนฯยูไนเต็ด สโมสรยังใช้งบมากมายคว้าแข้งดังมาร่วมทีม แสดงความมุ่งมั่นจริงจังไขว่คว้าความสำเร็จอย่างแท้จริง
ไม่ว่าจะเป็น อลัน เชียเรอร์ , ดาวิด ชิโนลา , เลส เฟอร์ดินานด์ , เดวิด แบ็ตตี้ หรือ ฟิลิป อัลแบร์ ล้วนแต่เข้ามาเสริมกำลังพลเพิ่มความแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตามพวกเขาไปไม่ถึงฝั่งฝัน ได้แค่เฉียดไปเฉี่ยวมา แล้วเงินทุนที่ใช้ไปมหาศาลเริ่มร่อยหรอลง อีกทั้งภาระค่าเหนื่อยก้อนโตที่ต้องแบกไว้อีก จึงจำต้องทยอยปล่อยแข้งหลักออกไป
ในช่วงท้ายๆที่ เซอร์ จอห์น ฮอลล์ เป็นประธานสโมสรและมีอำนาจมากสุด นิวคาสเซิ่ลจึงเริ่มทรุดลงอย่างน่าใจหาย บอร์ดบริหารเลยต้องเปิดประชุมสามัญเพื่อหาทางออก
1
แล้วทางออกเดียวคือต้องหานายทุนใหม่ พร้อมเงินก้อนใหม่สำหรับปะผุโมดิฟายให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
1
หลังจากติดป้ายประกาศหาเจ้าของใหม่ ข่าวนี้ไปไกลถึงบาร์เบโดส ซึ่งชายร่างอ้วนที่ชื่อ ไมค์ แอชลี่ย์ กำลังพักผ่อนนอนอาบแดดอย่างสบายอารมณ์
1
พอรู้ข่าวเข้าแสดงท่าทีสนใจทันที เพราะชอบลงทุนกับธุรกิจกีฬา ความเสี่ยงไม่มาก แต่ถ้าโป๊ะเชะก็ฟันกำไรงาม
ช่วงนั้นเครือข่ายสปอร์ตส์ ไดเร็กต์ของเขาเติบโตอย่างพรวดพราด จนทำให้ชื่อของ แอชลี่ย์ ติดท็อปเศรษฐีเมืองผู้ดี เป็นพวกอายุน้อยร้อยล้าน มีทรัพย์สินไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านปอนด์ด้วยกัน
แอชลี่ย์ ใช้วิธีช้อนหุ้นจากผู้ถือคนอื่น จน 11 กรกฎาคม 2007 ก็ได้มาอยู่ในครอบครองถึง 95 เปอร์เซนต์ด้วยกัน อำนาจบริหารทั้งหมดจึงตกอยู่ในมือทันที
เขาคือนักธุรกิจทั่วไปที่มองว่าทีมเหมาะกับการลงทุน จึงกล้ายอมควักถึง 134 ล้านปอนด์ จัดการครอบครองสำเร็จ รวมถึงหนี้ก้อนเก่ากว่าอีก 100 ล้านปอนด์ให้อีกต่างหาก เบ็ดเสร็จเกือบ 250 ล้านที่ต้องจ่ายไป
พยายามสร้างภาพให้กับตัวเองในฐานะแฟนบอลคนหนึ่ง ที่เข้าไปกลมกลืนกับเหล่าทูน อาร์มี่ทั้งหลาย สวมเสื้อสโมสรไปนั่งเชียร์บนอัฒจันทร์ ไหนจะเข้าผับประจำไปเลี้ยงเบียร์อีก ได้ใจไปเต็มๆ
บรรดาแฟนบอลต่างปลาบปลื้มชื่นใจ ได้หัวเรือใหญ่แบบนี้ เริ่มเห็นแสงสว่างรำไร อีกไม่นานคงได้ฉลองกันสักที
1
แอชลี่ย์ ทาบทาม เควิน คีแกน ซึ่งเป็นอดีตกุนซือที่เคยพาบินสูงมารับงาน โดยเทงบประมาณให้อย่างน่าพอใจ
ไม่มีทูน อาร์มี่คนไหนหรอกจะเชื่อว่าฝันร้ายกำลังจะตามมาหลอกหลอนในอีกไม่ช้า
"จำคำพูดของผมไว้ นิวคาสเซิ่ลไม่มีทางประสบความสำเร็จเลยหาก ไมค์ แอชลี่ย์ ยังเป็นเจ้าของ"
เควิน คีแกน ประกาศเอาไว้เช่นนี้ หลังเสียความรู้สึกและรับไม่ได้ในแนวทางการทำงานของ ไมค์ แอชลี่น์ ที่เหมือนอยากจะเลื่อยขาเก้าอี้ผู้จัดการทีม
แต่งตั้ง เดนนิส ไวส์ มามีส่วนร่วมในการบริหาร เหมือนอยากจะแทรกแซงล้วงลูก จนกระทั่งส่งผลกระทบภายในทีมมากมาย รวมทั้งฟอร์มในสนามก็เหลวเหลือเกิน
คีแกน ตัดสินใจลาออกในปี 2008 เปิดประตูให้ โจ คินเนียร์ มารับหน้าที่กู้ซากแทน ก่อนจะได้ อลัน เชียเรอร์ มารับงานต่อ ด้วยความหวังเรียกกระแสศรัทธาตีกลับ
แต่น่าเศร้ายิ่งกว่าสาลิกาดงตกชั้นไปอยู่เดอะ แชมเปี้ยนชิพ หลังจบฤดูกาล 2008/09 เสียงทูน อาร์มี่ขับไล่ แอชลี่ย์ ดังกระหึ่ม ความอดทนถึงที่สุด
นิวคาสเซิ่ลวนเวียนตกชั้น-ขึ้นชั้นอยู่สองรอบด้วยกันทว่า แอชลี่ย์ ยังเกาะเหนียวแน่นไม่ไปไหน
เคยมีนายทุนอย่าง ปีเตอร์ เคนยอน หรือ อแมนด้า สเตฟฟี่ย์ เดินเข้ามาเจรจาด้วย ดีลกลับไม่จบ เพราะตกลงเรื่องเงินกันไม่ได้
หรือ ชีค คาเล็ด บิน ซาเยด อัล เนฮายาน เจ้าชายแห่งอาบูดาบี ลูกพี่ลูกน้องของ ชีค มานซูร์ แห่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แสดงความสนใจจะจ่าย 350 ล้านปอนด์ก็ล่มเช่นเดียวกัน
สตีฟ บรู๊ซ เข้ามารับไม้ต่อ ผลงานกระท่อนกระแท่น เล่นไม่มีทรงเลย คาดหวังอะไรก็ไม่ได้ เป้าหมายอยู่แค่การอยู่รอด พรีเมียร์ลีกผ่าน 7 นัดไปจมปลักรองบ๊วยไม่ชนะเลยมีเพียงแค่ 3 คะแนน
ล่าสุดผลสำรวจแฟนบอลราว 5,000 คน เกือบ 95 เปอร์เซนต์ไม่ต้องการให้ บรู๊ซ เป็นกุนซืออีกต่อไป ในขณะที่ แอชลี่ย์ ก็ไม่ยอมปลดด้วย คาดว่าไม่อยากจ่ายเงินชดเชย 3 ล้านปอนด์
ส่วน แอชลี่ย์ ก็ดิ้นรนเต็มที่เดินหน้าฟ้องร้องพรีเมียร์ลีกด้วยข้อหาขัดขวางการเทคโอเวอร์ของกลุ่มทุนต่างๆในช่วงที่ผ่าน เหตุผลที่ปฏิเสธไม่มีน้ำหนักเลย ทำให้ตัวเขาต้องสูญเงินและโอกาสมากมาย
นึกภาพบรรยากาศของสาลิกาดงยามนี้ แฟนบอลไล่กุนซือ ผลักไสเจ้าของทีม ผู้ซึ่งกำลังวุ่นวายกับคดีความฟ้องร้องที่ไม่สามารถปล่อยให้นายทุนอื่นได้
อย่าถามหาความสำเร็จเลย ทุกวันนี้ขอแค่ประคองตัวให้รอดปลอดภัยเล่นในพรีเมียร์ลีกได้ต่อไปก่อน
คำสาปหรืออาถรรพ์ที่พูดกันนั้น มันพิสูจน์อะไรไม่ได้เลยก็จริง
แต่สำหรับทูน อาร์มี่ทั้งหลาย อาจรู้สึกอย่างนั้นเลยก็ได้
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
www.cheerball.com/news/talk
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
Line :
https://line.me/R/ti/p/@cheerballth
Facebook :
www.facebook.com/cheerball
Twitter :
www.twitter.com/cheerballthถ
Website :
www.cheerball.com
Youtube :
www.youtube.com/cheerballth
ขอบคุณครับ
บันทึก
14
14
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย