7 ต.ค. 2021 เวลา 07:16 • ท่องเที่ยว
"ปรับมายด์เซ็ตคนอินเดียพัฒนาชาติ ปั้นสวรรค์ด้วยตัวเอง" เรื่องราวจากคอลัมน์ City for Life บนแอป 2read
ทุกประเทศมีจุดแข็งและมีคุณค่าในตัวเอง ซึ่งหลายประเทศได้นำสิ่งเหล่านั้นมาใช้สร้างคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพื่อลบจุดอ่อนที่มีได้ อย่างเช่น จีน ใช้พลังประชากร 1,300 ล้านคน พึ่งพาเศรษฐกิจภายใน การปกครองแบบสังคมนิยม ทำให้ประชากรมีวินัยในการทำงาน เชื่อฟังระบบการปกครอง และไม่มีปัญหาความแตกต่างทางเชื้อชาติ จึงทำให้ขับเคลื่อนประเทศให้เป็นไปตามนโยบายที่วางไว้
ส่วนไทยเราก็มีต้นทุนที่เป็นจุดแข็งสร้างชาติมาจนปัจจุบัน ตั้งแต่ทำเลภูมิศาสตร์ศูนย์กลางอาเซียน มีแหล่งพลังงาน เกษตรกรรม การท่องเที่ยว มีวัฒนธรรมเป็นอัตลักษณ์งดงาม มีเสน่ห์ อาหาร และคนไทยมีมิตรไมตรี มีน้ำใจโอบอ้อมอารี เป็นสิ่งที่ทำให้ต่างชาติมาไทยแล้วต้องมาซ้ำ แต่ก็ยังมีความท้าทายที่ฉุดรั้งการพัฒนา ทั้งการเมือง ความเหลื่อมล้ำ ก้าวสู่สังคมผู้สูงวัย ที่ส่งผลทำให้ประเทศไทยเราในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเติบโตไปอย่างเชื่องช้า
ข้ามมาสู่แดนภารตะ หรือ อินเดีย ที่รัฐบาลภายใต้การนำของ นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศ ได้ประกาศจุดแข็งของความเป็นประเทศแห่ง “จิตวิญญาณ” หรือ “Spirit of India”
ดินแดนที่เป็นแหล่งกำเนิดศาสนา ทั้งพราหมณ์ ฮินดู ซิกข์ และพุทธ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นแหล่งอายธรรมมายาวนานนับหลายพันปี รัฐบาลของโมดีจึงชูจุดแข็งด้านจิตวิญญาณนำมาสู่การพัฒนาชาติ
นายกรัฐมนตรีโมดี สื่อสารผ่านผู้นำทางจิตวิญญาณที่มีชื่อเสียงในประเทศ และในยุโรป รวมถึงอเมริกา
โดยได้เริ่มแคมเปญนี้ให้ชัดเจนขึ้นตั้งแต่ปีก่อน ในช่วงที่ทั่วโลกต่างเผชิญกับวิกฤติไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด -19) และอินเดีย เริ่มต้นระบาดโควิดรอบแรก ก็มีการเปิดตัวแคมเปญเพื่อแก้ไขวิกฤติ ภายใต้ชื่อ “Atmanirbhar Bharat Abhiyaan” ซึ่งหมายถึง การพึ่งพาตนเอง หรือสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจจากภายในประเทศอินเดีย โดยใช้งบประมาณราว 10% ของจีดีพี ผ่าน 5 เสา คือ
1. การพึ่งพาตนเอง
2. พัฒนาเศรษฐกิจ
3. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
4. พัฒนาโครงสร้างประชากร และความต้องการภายในประเทศ
5. การพัฒนาระบบบริการภาครัฐ  เช่น ปฏิรูปภาคการเกษตร ระบบภาษี กฎหมาย และทรัพยากรมนุษย์ รวมถึงโครงสร้างทางการเงิน
ในที่นี้จะกล่าวถึงเสาแรก เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร โดยเริ่มต้นจากทัศนคติ (Mindset) ที่ต้องยอมรับว่า พฤติกรรมบางอย่างของประชากร เป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ เนื่องมาจากประเทศเติบโตมากับความเชื่อ ค่านิยม ประเพณี และวัฒนธรรมที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลานับร้อยนับพันปี ไม่เคยเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะความเชื่อและความศรัทธาที่คนอินเดียยอมเสียสละทุกสิ่งในชีวิต เพื่อไปภาวนาเชื่อมต่อกับเทพ ตามพิธีกรรมทางศาสนา กลายเป็นจุดอ่อนของการขาดพลังในการมาช่วยขับเคลื่อนประเทศด้วยเช่นกัน เพราะมุ่งเน้นการไปภาวนา ทำสมาธิเป็นหลัก
ทว่าแดนภารตะ ประเทศที่ประชากรเติบโตมากับความเชื่อ ค่านิยม การที่รัฐบาลจะไปประกาศ บังคับให้ประชาชนเดินตามนโยบายที่วางไว้โดยตรงก็ยอมไม่สำเร็จแน่นอน เพราะเหมือนเป็นการบังคับ
สัทธกูรู แจกกี้ วาสุเทพ (Sadhguru Jaggi Vasudev)
แต่นายกรัฐมนตรีโมดี ใช้วิธีการสื่อสารผ่านผู้นำทางจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นผู้ที่มีอิทธิพลกับชาวอินเดียเป็นอย่างมาก จึงติดต่อสื่อสารนำแนวคิด หรือ Key Message ผ่านกูรูโยคะ และผู้นำทางจิตวิญญาณที่มีชื่อเสียงเป็นกระบอกเสียง ช่วยส่งผ่านแนวคิด แคมเปญ  “Atmanirbhar Bharat Abhiyaan” ไปถึงคนอินเดียให้ได้มากที่สุด อาทิ สัทธกูรู แจกกี้ วาสุเทพ (Sadhguru Jaggi Vasudev)  ศรี ศรี ราวี ศานการ์ (Sri Sri Ravi Shankar) หรือแม้แต่ผู้นำทางสายโยคะ กูรู รามเดฟ (Guru Ramdev) สวามี อวาเทศานันท์  (Swami Awadheshanand) และ เทวากี นันดัน ทากูร์ (Devaki Nandan Thakur) เพราะบุคคลเหล่านี้เชื่อมถึงคนท้องถิ่นในอินเดียได้ดีกว่ารัฐบาล
เจาะลึกเข้าไปถึงการปลูกฝังแนวคิดของการพึ่งพาตนเอง เป็นการต้องการพัฒนาทรัพยากรบุคคล คนในชาติอินเดียให้เปลี่ยนมายด์เซ็ต มุ่งเน้นการพัฒนาตนเอง ยกระดับทักษะตนเอง ถือเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน แทนการมุ่งเน้นภาวนาสวดมนต์ขอพร จากพระเจ้าจนเสียสละทิ้งทุกสิ่งในชีวิต ตามที่เคยมีมา
นี่คือสิ่งที่ทำให้ประชากรบางส่วนละทิ้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รอการพึ่งพาจากผู้อื่น เป็นการแก้ไขจุดอ่อนที่ทำให้อินเดียพัฒนาช้า เพราะขาดการมีส่วนร่วม มุ่งเน้นผลประโยชน์ตนเองเป็นหลัก ยึดติดกับความเชื่อทางจิตใจมากกว่าตรรกะ ขาดระเบียบวินัย และไม่รักษาคำพูด ดังนั้นหากเริ่มต้นให้ประชากรปรับเปลี่ยนมายด์เซ็ตการพึ่งพาตนเอง เป็นบรรทัดฐานเชื่อว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศทั้งองค์รวมได้
ถือว่าตรงกันกับแนวคิดแคมเปญของ สัทธกูรู แจกกี้ ผู้นำทางจิตวิญญาณ ผู้ที่มีแนวคิดในกระตุ้นพลังในคน และการพัฒนาจิตใจของมนุษย์ ด้วยการไม่พูดถึงเรื่องจิตวิญญาณมากไป แต่จะพยายามถ่วงดุลด้วยแนวคิดตรรกะ มีความเป็นเหตุเป็นผล ตามหลักวิทยาศาสตร์ ที่ทำให้มนุษย์ตระหนักรู้ถึงศักยภาพสูงสุดที่ซ่อนอยู่ในมนุษย์ทุกคน
แรงบันดาลใจที่เขาเน้นย้ำทำให้คนเข้าใจง่าย คือ การที่มองว่าทุกคนสามารถสร้างสวรรค์ได้บนโลกใบนี้ โดยไม่ต้องรอไปถึงโลกหลังความตาย ซึ่งไม่มีใครรู้ได้ เขาได้พัฒนาโปรแกรมอบรม หรือการโค้ชชิ่งต่างๆ ทั้งการทำสมาธิ ที่ทำให้ผู้คนมีความสุขในการเข้าใจตนเองและเข้าใจโลก
สัทธกูรู แจกกี้ ที่มีไลฟ์สไตล์โมเดิร์น มีผู้ติดตามในอินสตาแกรม (IG) กว่า 6 ล้านคน ในเฟซบุ๊กมีผู้ติดตาม 8.5 ล้านคน และในทวิตเตอร์มีผู้ติดตาม 3.7 ล้านคน เขามุ่งเน้นให้คนพึ่งพาตนเองเป็นจุดแข็งพื้นฐานสำคัญสำหรับประเทศให้พัฒนาได้อย่างเข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืน โดยมุ่งพัฒนาจิตใจให้พร้อมรับความเปลี่ยนแปลงก้าวให้ทันความเปลี่ยนแปลงของโลก และตระหนักรู้หน้าที่พลเมืองของประเทศ
ก่อนจะมาเป็นกูรูทางจิตวิญญาณ เขาฝึกโยคะตั้งแต่ยังเด็ก และเริ่มฝึกสมาธิอย่างจริงจังจนเข้าใจทางโลก ในช่วงที่ทำธุรกิจฟาร์มสัตว์ปีก และธุรกิจก่อสร้าง โดยร่วมทุนกับเพื่อน เขาได้ไปนั่งสมาธิกลางป่าอย่างจริงจัง จนทิ้งธุรกิจไว้กับเพื่อนแล้วออกเดินทางท่องโลก ทำสมาธิ สอนโยคะ และเขียนหนังสือ “Inner Engineering: A Yogi's Guide to Joy and Karma: A Yogi's Guide to Crafting Your Destiny” ที่ติดยอดขายเบสต์เซลเลอร์ในนิวยอร์ก ไทม์
ภาพถ่าย Isha Foundation โดย Pankaj Verma
เขาได้รับเชิญให้ไปบรรยายในเวทีสากลมากมาย อาทิ การประชุมสุดยอด Millennium World Peace Summit ของสหประชาชาติ รวมถึงเวทีระดับโลก ในการประชุม World Economic Forumประจำปี 2007  2017 และ 2020 ได้ตั้งมูลนิธิ Isha Foundation ซึ่งมีวัดขนาดใหญ่ Linga bhairavi  ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอินเดีย   และยังมีสาขาอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เป็นพื้นที่ให้ผู้ค้นหาทางจิตวิญญาณได้มาปฏิบัติตน พัฒนาจิตใจ เข้าใจตัวตน และดึงศักยภาพของตัวเองออกมาใช้ให้มากที่สุด
ปัจจุบัน สัทธกูรู ขับบิ๊กไบค์ไปตามเทือกเขาหิมาลัย แวะไปตามหมู่บ้านห่างไกล เพื่อพูดสื่อสารและสร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการพัฒนาตัวตน เข้าใจศักยภาพของตัวเอง และเชื่อมั่นในตัวเองว่าองค์เทพ พระเจ้า และสวรรค์ อยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคน ที่จะมีผลกับการสร้างเยาวชนอินเดียรุ่นต่อไป
รวมถึงคนอินเดียที่พร้อมเปลี่ยนแปลงในการสร้างชาติหลังยุคโควิด
📌อ่านบทความอื่นๆ ในคอลัมน์ City for Life ได้ที่แอป 2read หรือคลิกภาพด้านล่าง
📲ดาวน์โหลดแอป 2read 👉https://bit.ly/3bQtbiV
✅อ่านง่าย อ่านสะดวก อ่านที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ตามใจต้องการ มีบทฟรีให้อ่าน เลือกอ่านเฉพาะบทที่อยากอ่านก็ได้ ซื้ออ่านทั้งเล่ม (เล่มที่จบแล้ว) ลด 10% ก็ดี๊ดี ใช้เหรียญเงินเปิดอ่านฟรีดีต่อใจ❤️
📚มีทั้งหมวดการลงทุน ธุรกิจ พัฒนาตนเอง ไลฟ์สไตล์ (ประวัติศาสตร์และการท่องเที่ยว) นิยาย การ์ตูน และคอลัมน์หลากหลายเรื่องราวที่น่าสนใจ จากผู้รู้ลึกที่หลงใหลในเรื่องราวนั้นๆ
🎉สมัครสมาชิกกับแอป 2read รับไปเลย 30 เหรียญเงิน ฟรี! เอาไว้ใช้อ่านหนังสือบนแอป 2read
💥อย่าลืมแวะมาอ่านบทความฟรีของ #2readDaily ทุก 7 โมงเช้า
ซึ่งตอนนี้มี 8 คอลัมน์แล้ว สลับกันมาให้อ่านตั้งแต่วันจันทร์ - อาทิตย์เลย
ทั้งคอลัมน์ธุรกิจ หุ้น อสังหาฯ พัฒนาตัวเอง เมืองต่างๆ ประวัติศาสตร์ ตัวละคร และดวง
ชอบเรื่องไหน ก็ตามอ่านกันได้เลยที่แอป 2read ที่เดียว!
#2read #แอปที่มากกว่าการอ่านศูนย์กลางการอัพสกิล
ที่มาภาพและข้อมูล
โฆษณา