7 ต.ค. 2021 เวลา 06:55 • นิยาย เรื่องสั้น
ธิดามังกรน้อย
เจ้าสำนักสุสานโบราณ รุ่นที่ 3️⃣
…….
🕊🕊
เซียวเล้งนึ่งเป็นตัวละครหญิงที่ข้าพเจ้านิยมชมชอบมากสุด
เนื่องจากเป็นผุ้มีจิตใจที่บริสุทธิ์ดุจดั่งหยกใส
.
เซียวเล้งนึ่งในเรื่องมังกรหยกภาคสองจัดว่าเป็นผู้ไม่รู้จักวัฒนธรรม
และประเพณีใดๆ ของสังคมมนุษย์ในยุคนั้น
.
เซียวเล้งนึ่งเป็นผู้ที่ฝึกตนตามปรัชญาเต๋า ☯️
จนแทบจะดำรงอยู่ในโลกของเซียนผู้วิเศษตามคติของฝ่ายลัทธิเต๋าแล้ว
.
ทำให้เซียวเล้งนึ่งเป็นคนที่ไม่นิยมชมชอบอยู่วุ่นวายกับสังคมมนุษย์
แต่หากว่าเซียวเล้งนึ่งนั้นมีห่วงประการหนึ่งนั้นคือ “เอี้ยก่วย”
.
เพราะนางเป็นผู้เดียวที่เข้าใจในตัวเอี้ยก่วย เซียวเล้งนึ่งจึงพยายามคล้อยตามเอี้ยก่วย ที่จะอยู่ในสังคมมนุษย์ร่วมกับชายที่ตนรัก แต่ด้วยทั้งคู่ประสบเคราะห์กรรมมากจนเกินไป โดยเฉพาะเซียวเล้งนึ่งถึงกับสูญเสียความบริสุทธิ์ทางร่างกายไป
.
ประกอบกับการบาดเจ็บที่แสนสาหัส ทำให้นางต้องใช้ชีวิตอย่างวิเวกโดดเดี่ยวในก้นหุบเหวเป็นเวลาถึง 16 ปี
สายใยพันผูก วาสนาสัมพันธ์ 🎏
.
เซียวเล้งนึ่งยามเมื่อเอี้ยก่วยแรกพบ ซึ่ง ณ ขณะนั้นทั้งคู่ยัง
มิอาจรู้ได้ว่ามีวาสนาผูกสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง
.
เมื่อเอี้ยก่วยหลบหนีจากการตามล่าของสำนักช้วนจินไปยัง สุสานโบราณ พลันพบหญิงสาวนางหนึ่ง สดใสสะคราญจนไม่อาจจับจ้องมองตรงๆ
นับว่าบริสุทธิ์ดั่งหิมะ ทว่า สีหน้ากลับกระด้างเย็นชาราวน้ำแข็ง
.
มาตรแม้นน้ำเสียงสดใสนุ่มนวล แต่ในน้ำเสียงคล้าย
ปราศจากความอบอุ่นแม้แต่น้อย
.
เซียวเล้งนึ่ง ตอนนั้น มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ นางเพียงแต่อาศัยอยู่ในสุสานโบราณไม่เห็นแสงตะวัน วิชากำลังภายในที่นางฝึกปรือ
เป็นแนวทางหักห้ามอารมณ์ความรู้สึก
.
(หักห้ามอารมณ์ทั้ง 7 กามคุณทั้ง 6 อารมณ์ความรู้สึกของคนประกอบด้วย ยินดี เดือดดาล เศร้าโศก สุขสันต์ ความรัก ความชัง และความปรารถนารวมเป็นอารมณ์ทั้งเจ็ด ส่วนกามคุณของคนเกิดจากการรับรู้ทางจักษุ โสต ฆาน ชิวหา กายา และใจ ก่อเกิดเป็นความต้องการต่อรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ทางมโนสำนึกขึ้น)
.
หากเปรียบเทียบกับดรุณีรุ่นราวคราวเดียวกัน
เซียวเล้งนึ่งจะคล้ายอายุอ่อนกว่าหลายปี
.
ด้วยการเสียสละของซุนพั่วพั้ว จึงขอร้องเซียวเล้งนึ่ง ให้ดูแลเอี้ยก่วยชั่วชีวิต เซียวเล้งนึ่งนั้นเห็นแก่บุญคุณที่ชุบเลี้ยงตนมาจึงรับปากหญิงชราผู้เปรียบดุจดั่งแม่นมของนาง ทำให้ต่อมานางมีพันธะฉันท์ศิษย์อาจารย์กับเอี้ยก่วย
เป็นพันธะแรก
.
นางเมื่อเป็นเจ้าสำนักสุสานโบราณวิชาฝีมือจึงมีลักษณะ คล่องแคล่ว
อ่อนช้อย และวิชาฝีมือซึ่งเป็นวิชาที่สำคัญซึ่งลิ้มเชี้ยวเอ็งบัญญัติคือ
.
เคล็ดวิชาสุรางคนางค์ (เง็กนึ้งซิมเก็ง) 🌟
.
เห็นได้จากการเซียวเล้งนึ่งปะทะกับฮักไต้ทง ฉายาผู้ไพศาล (ก้วงเล้งจื้อ) 1 ใน 7จอมยุทธแห่งสำนักช้วนจิน อาวุธที่นางใช้คือ #ถุงมือไหมดิบสีเงิน
และ แพรขาวชิ้นหนึ่ง เมื่อตวัดมือ พลันปรากฏสายรัดแพรสีขาวเส้นหนึ่ง
คลี่สะบัดออก จู่โจมถึงเบื้องหน้าฮักไต้ทง ความเคลื่อนไหวนี้ไร้สุ้มไร้เสียง
.
ก่อนหน้านี้ไม่มีวี่แววล่วงหน้า ภายใต้แสงแห่งเปลงเทียนที่สาดส่อง
สามารถเห็นส่วนปลายของสายรัดแพรผูกไว้ด้วยลูกกลมสีทองลูกหนึ่ง
ฮักไต้ทงเห็นนางใช้กระบวนท่าอย่างรวดเร็ว อาวุธที่ใช้ก็ประหลาดพิสดาร
.
ยามกะทันหันไม่ทราบต้านทานอย่างไร ท่านมีอายุสูงวัน
กระทำการด้วยความสุขุมหนักแน่น มาตรแม้นถือดีว่า
พลังฝีมือเหนือล้ำกว่า
.
ยังไม่รับกระบวนท่าโดยวู่วาม ยามนั้นถลันร่างหลบหลีกมาทางซ้าย
มิคาดสายอาวุธรัดแพรของเซียวเล้งนึ่ง กลับสามารถวกอ้อมกลางอากาศ เมื่อฮักไต้ทงกระโดดไปทางซ้าย สายรัดแพรก็วกไปทางซ้าย
.
ฮักไต้ทงพลันได้ยินเสียง ติง❗️ ติง❗️ ติดต่อกันสามครั้ง
🟡ลูกกลมสีทองสั่นสะท้านสามครา
แยกย้ายพุ่งใส่จุดบนใบหน้าฮักไต้ทงถึงสามแห่ง
ความรวดเร็วของการลงมือ ความแม่นยำของการจำแนกจุดของฝีมือ
สกัดจุดทั้งสามครั้งนี้ นับเป็นวิชาฝีมือชั้นแนวหน้าของยุทธจักร
กอปรกับในลูกกลมสีทอง บังเกิดเสียง ติง❗️❗️ สุ้มเสียงแม้ไม่ดังมาก
แต่ก็ประหลาดพิสดาร พอกระทบโสตสั่นไหวจิตโยกคลอนวิญญาณผู้คน
.
เมื่อหักล้างหลายสิบกระบวนท่า แม้ฮักไต้ทงใช้กระบี่
ยังมิได้เปรียบเซียวเล้งนึ่งแต่อย่างใด ฮักไต้ทงอดร้อนรุ่มใจ
มิได้
.
เพลงกระบี่พลันแปรเปลี่ยนกลับกลาย จากรวดเร็วเป็นเชื่องช้า
มาตรว่ากระบวนท่าเชื่องช้าลง พลังกระบี่กลับเพิ่มพูนอีกหลายเท่าตัว
ยามนี้เมื่ออานุภาพเพิ่มพูนจึงฟันใส่สายรัดแพรง
ผ่านไปอีกหลายกระบวนท่า ลูกกลมกับกระบี่จึงปะทะกัน
.
ฮักไต้ทงมีกำลังภายในลึกล้ำ จึงกระแทกลูกกลมสีทองกระดอนกลับ
พุ่งใส่ใบหน้าเซียวเล้งนึ่ง จากนั้นฉกฉวยสภาวะบุกจู่โจมใส่ข้อมือของ
เซียวเล้งนึ่ง เข้าใจว่านางมิอาจไม่คลายมือทิ้งสายรัดแพร
ไม่เช่นนั้นข้อมือต้องถูกกระบี่แทงใส่
มิคาดเซียวเล้งนึ่งพลิกมือขวาอย่างว่องไว ตะปบคว้ากระบี่ไว้เสียงแกรก
เมื่อกระบี่ยาวหักกลางเป็นสองท่อน
.
นี่เป็นถุงมือถักทอจากเส้นใยทองคำขาวอันเล็กละเอียดและหยุ่นเหนียว
เป็นอาวุธที่ลิ้มเชี้ยวเอ็งตกทอดทิ้งไว้ แม้อ่อนนุ่มเบาบาง
.
แต่ดาบทวนไม่ระคาย ต่อให้เป็นดาบวิเศษยอดกระบี่
ก็ยากที่จะแทงทะลุ เมื่อคมกระบี่ถูกนางตะปบคว้าไว้
ก็ใช้พลังแยบคายบิดหักไป แม้แต่ฮักไต้ทง
ศิษย์แห่งเฮ้งเต้งเอี้ยงยังปราชัยแก่นาง
……….
#ฝึกปรือยอดวิชา #สูญเสียพรหมจารี🥀🥀
.
เมื่อมีเอี้ยก่วยมาอยู่ด้วยการฝึกปรือเคล็ดวิชาสุรางคนางค์
ซึ่งเซียวเล้งนึ่งฝึกปรือได้เพียงขั้นแรก ขั้นที่สอง
และสามเมื่อมีคนฝึกร่วมกันจึงสามารถกระทำได้
เคล็ดวิชาสุรางคนางค์ต้องฝึกปรือด้วยกัน 2 คน
จึงจะเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน โดยที่คนหนึ่งต้องใช้วิชาของ
สำนักสุสานโบราณ อีกคนหนึ่งต้องใช้วิชาของสำนักช้วนจิน
.
แต่การฝึกนี้ย่อมมีปัญหาระหว่างศิษย์กับอาจารย์คู่นี้บ้าง
เหตุเพราะขณะที่ฝึกลมปราณตลอดทั้งร่าง
ปรากฏไอร้อนระเหยออกต้องเลือกพื้นที่วงกว้างไร้ผู้คน
สยายเสื้อผ้าทั้งร่างออกฝึกปรือเพื่อขับเคลื่อนความร้อนออกไป
โดยไม่เกิดอาการสะดุดติดขัด ไม่เช่นนั้นจะย้อนกลับมาสั่งสมอยู่ภายในกาย หากเป็นสถานเบาต้องป่วยหนัก สถานหนักต้องเสียชีวิต
เมื่อถึงตอนท้ายทั้ง 2 จะชักจูงกำลังภายในคุ้มครองกันและกัน
ซึ่งเอี้ยก่วยและเซียวเล้งนึ่งเป็นบุรษสตรี
จึงนับว่ามีอุปสรรคในการฝึก
.
เอี้ยก่วยจึงเสนอทางออกของปัญหาคือ การฝึกในพุ่มดอกไม้แดง
เป็นแนวยาว รอบข้างมีพุ่มพฤกษาห้อยย้อยคล้าย
เป็นอาคารพฤกษาบ้านดอกไม้ตามธรรมชาติ 🌺🥀
.
เซียวเล้งนึ่งจึงเห็นชอบด้วยในการฝึกเคล็ดวิชาสุรางคนางค์
เหตุนี้ทำให้นางกลับพบพานบุรุษผู้หนึ่งซึ่งนำมา
ซึ่งเคราะห์ร้ายของนางคือ #อิงจี่เปี้ย
อิงจี่เปี้ยนั้นถกเถียงกับเตี่ยจี่เก่งและ
พบเห็นทั้งคู่อยู่ในพุ่มดอกไม้แดงดังกล่าว
อันคัมภีร์สุรางคนางค์ (เง็กนึ้งซิมเก็ง) นี้
ถ้าหากฝึกหัดแต่เพียงลำพังผู้เดียวผู้เป็นหญิงสามารถมีกำลังรุดหน้า
แต่หากฝึกหัดด้วยกันทั้งคู่จะทำให้ผู้ฝึกหัดที่เป็นชายถอยลง
เพราะหากฝึกคนเดียวเป็นลักษณะ " #เย็นรุกหน้า ” ❄️
.
หากฝึกร่วมกันคือ “ #ร้อนถดถอย "🔥
ที่เอี้ยก่วยฝึก คือหลักร้อนถอยพร้อมที่จะพักผ่อนได้ในทุกเวลา
แต่เซียวเล้งนึ่งฝึกคือเย็นรุก จะต้องฝึกให้สำเร็จในรวดเดียว
ไม่อาจถูกก่อกวนให้ชะงักกลางคันเด็ดขาด
เมื่อเอี้ยก่วยเห็นเตี่ยจี่เก่งลอยตัวใกล้เซียวเล้งนึ่ง
จึงใช้มือซ้ายลอดใต้ฝ่ามือขวา ใช้ออกด้วยกระบวนท่า
“ #ขว้างลูกแพรเลือกคู่ครอง” สลัดเหวี่ยงร่างเตี่ยจี่เก่งไปไกล
แต่เนื่องจากใช้พลังรุนแรงเกินไป ไม่อาจทรงกายมั่น
ร่างไหวโอนเอน เท้าซ้ายเหยียบถูกกิ่ง 1 ท่อน
กิ่งดีดสะท้อนกลับถูกใบ้หน้าเซียวเล้งนึ่ง
เพียงกระทบเบาๆ เซียวเล้งนึ่งบังเกิดความตื่นตระหนกตกใจ
หลังเหงื่อโซมกาย 🥶พลังลมปราณที่โคจรหมุนเวียนสะดุด
หยุดอยู่ที่ตั้งชั้งไม่หวนคืนกลับ
นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงยิ่งสำหรับเซียวเล้งนึ่ง
ทำให้นางบาดเจ็บสาหัสยิ่งนัก
.
ต่อมาเมื่อลี้มกโช้วบุกรุกเข้ามาที่สุสานโบราณ
ประกอบกับอาการบาดเจ็บทำให้คิดว่าตนเองต้องตายอย่างแน่นอน
เซียวเล้งนึ่งจึงให้เอี้ยก่วยนำตนเองไปวางยังโลงหินใบหนึ่ง
ขณะที่เปิดฝาโลก พลันพบอักษรที่เฮ้งเต้งเอี้ยงเขียนไว้ว่า
.
“เดชคัมภีร์สุรางคนางค์
.
สยบแนวทางล้วนจริงยากต้านติด
.
จอมยุทธเต้งเอี้ยงชั่วชีวิต
ไม่คิดอ่อนด้อยกว่าผู้ใด”
.
เป็นวิชาเก้าอิมจินเก็งที่ปรมาจารย์แห่งสำนักช้วนจินเขียนขึ้น
และทำให้ทั้งคู่พบหนทางออกจากสำนักสุสานโบราณ
การออกมาข้างนอกสุสานโบราณครั้งนี้
ทำให้นางพบกับอาวเอี้ยงฮงซึ่งจี้สกัดจุดนางด้วยคัมภีร์เก้าอิมทวนทิศ
.
เซียวเล้งนึ่งล้มระทวยกับพื้นในใจทั้งขุ่นเคืองทั้งขบขัน
นางแม้มีฝีมือถึงขั้นล้ำลึกจะอย่างไรขาดประสบการณ์ต่อสู้
กระทั่งถูกลอบทำร้ายและจู่โจมใส่
.
นางแม้ใช้เคล็ดวิชาที่เฮ้งเต้งเอี้ยงเขียนไว้ (เก้าอิมจินเก็ง)
ทะลวงคลี่คลายคิดหมายหลุดพ้นกลับหนักหนากว่าเดิม
ทดลองอยู่หลายคราย่อมไร้ผล
เซียวเล้งนึ่งจึงไม่ใส่ใจ และไม่ร้อนรุ่มใจ
เงยหน้ามองดูดาราท้องนภาอยู่ครู่หนึ่งก็พริ้มลงหลับใหล
ผ่านไปเนิ่นนานบนดวงตามีวัตถุกระทบถูก
นางแม้อยู่ในยามวิกาลสามารถมองเห็นเช่นตอนกลางวัน
ยามนี้กลับไม่เห็นสิ่งใด
.
ที่แท้ 2 ตาถูกผู้คนใช้ผ้าผูกปิดไว้ จากนั้นพบว่า
มีคนกางแขนโอบกอดนาง
คนผู้นี้ตอนโอบกอดแรกเริ่มหวาดหวั่นขลาดเขลา
ต่อมากำเริบเสิบสานทีละน้อยจนกลายเป็นบังอาจ
สร้างความตื่นตระหนกแก่เซียวเล้งนึ่งยิ่ง
อ้าปากหมายส่งเสียงร้องจนที่ปากและลิ้นยากขยับเขยื้อน
นางรู้สึกว่าคนผู้นั้นใช้ริมฝีปากจูบข้างแก้มนาง
ตอนแรกนางเข้าใจว่าเป็นอาวเอี้ยงฮงคิดขืนใจ
แต่เมื่อใบหน้าคนผู้นั้นกระทบกระทั่งถูกนางรู้สึกว่า
ใบหน้านั้นเรียบลื่นต้องมิใช่อาวเอี้ยงฮงที่ไว้หนวดเครารกครึ้ม
.
นางบังเกิดจิตวาบหวาม ความหวาดหวั่นพรั่นพรึง
ค่อยผ่อนคลายกลายเป็นอารมณ์พิศวาสขึ้นแทนที่🌷🌷
นางคาดว่าเป็นเอี้ยก่วยหยอกเย้านาง
รู้สึกว่า 2 มือของเขายิ่งมายิ่งไม่เรียบร้อย
เปลื้องเสื้อผ้าแก้สายรัดให้แก่นาง
.
อย่างแช่มช้า เซียวเล้งนึ่งไม่สามารถขยับเคลื่อนไหว
ได้แต่ปล่อย่ให้อีกฝ่ายกระทำการตามอำเภอใจ
ในใจนางทั้งตื่นเต้นยินดี ทั้งอุธัจเอียงอาย
.
ต่อมานางได้ยินเสียงเอี้ยก่วยร้องเรียก “โกว โกว”
และยื่นมือแก้ผ้าที่ผูกตาตนเอง
.
มันพลันถามว่า “โกว โกว ผู้ใดผูกผ้าผืนนั้นบนดวงตาท่าน”
เซียวเล้งนึ่งไม่ตอบคำ ดวงตาทอแววตำหนิติเตียนอยู่บ้าง
เอี้ยก่วยเห็นร่างนางอ่อนระทวยคล้ายถูกผู้คนจี้สกัดจุดไว้
จึ่งยื่นมือฉุดดึงนางแล้ว ตบคลายจุดให้
หาคาดไม่ว่าขณะที่เซียวเล้งนึ่งถูกจี้สกัดจุดตลอดทั้งร่างอ่อนระทวย
แต่เมื่อเอี้ยก่วยคลายจุดให้นางยังแอบอิงระทวยกับร่างเอี้ยก่วย
คล้ายกับโครงกระดูกทั่วด้านหลอมละลายไปสิ้น
เซียวเล้งนึ่งม้วนแขนเสื้อขึ้นเผยเห็นข้อแขนที่ขาวราวเหง้าบัวหิมะ
เห็นความขาวผ่องราวกับหยกปราศจากไฝฝ้าแม้แต่น้อย
🔴ชาดพรหรมจรรย์สีแดงสดไม่ทราบอันตรธานไปที่ใด‼️
ด้วยเหตุนี้จึงสร้างความเข้าใจผิดแก่บุคคลทั้งสองอย่างยิ่ง
เซียวเล้งนึ่งเข้าใจว่าเป็นเพราะเอี้ยก่วยทำให้นางเสียความบริสุทธิ์
ในขณะที่เอี้ยก่วยนั้นไม่รู้เรื่องรู้ราวมาก่อน
ทำให้ทั้งสองเกิดความเข้าใจผิด เป็นเหตุให้ต้องพลัดพรากจากกันทั้งๆที่
ในใจเปี่ยมด้วยความรัก
……….
งามล้ำปานเทพธิดา หยาดฟ้าสู่แดนดิน 👸
.
ต่อมาเซียวเล้งนึ่งได้ข่าวว่ามีงานเลี้ยงชุมนุมผู้กล้า
ณ คฤหาสน์ตระกูลเล็ก ด่านไต้เซ่งกวน
.
เซียวเล้งนึ่งปรากฏเง่าร่างขึ้นอย่างเงียบเชียบ
นางเมื่อปรากฏกายขึ้นระหว่างที่จูจือลิ้ว กำลังต่อสู้กับราชบุตรฮั่วตู
เหล่าผู้กล้าความจริงกำลังจับจ้องมองการประลองของทั้งคู่
.
พอเซียวเล้งนึ่งเดินเข้ามา ทุกผู้คนอดเหลียวมองนางมิได้
เห็นนางหน้าขาวซีดคล้ายกับอมโรค มาตรแม้นแสงเทียนเรืองรอง
พอส่องต้องใบหน้านาง ยังไม่มีสีเลือดแม้แต่น้อย
ยิ่งเน้นถึงลักษณะราศีอันงามพิลาสล้ำ
.
ชนชาวโลกมักใช้คำ “งามปานเทพธิดา” เปรียบเปรยความงามของอิสตรี แต่ที่แท้เทพธิดางามสะคราญปานใด ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่ทราบ
ยามนี้พอพบเห็นหญิงสาวนั้น ในใจผู้คนล้วนประหวัดนึกถึงคำงดงามปานเทพธิดา เห็นรอบกายของนางคล้ายคลี่คลุมด้วยหมอกเบาบาง🌫🌫
ควันอ่อนจางชั้นหนึ่ง คล้ายจริงคล้ายมายา หาใช่คนในโลกียวิสัยไม่
เซียวเล้งนึ่งเมื่อมาถึงแล้วเพียงสนทนากับเอี้ยก่วย กระซิบกระซาบสนทนา
มิเพียงไม่แยกแสสนใจสภาพการต่อสู้ กระแสลมที่ราชบุตรฮั่วตูก่อกวนขึ้น
ก็ไม่กระทบถึงนางและเอี้ยก่วย
.
ชายเสื้อเซียวเล้งนึ่งพัดกระพือในกระแสลมแรง
ตัวนางคล้ายกลับไม่มีเรื่องราวใด
เพียงจับจ้องมองเอี้ยก่วยด้วยความรักอันตราตรึง
.
ตอนนี้เซียวเล้งนึ่งมีอายุเกิน 20 ปีแล้ว แต่เนื่องจากนางเติบโตขึ้นในสุสานโบราณ ไม่เห็นแสงตะวัน ผิวพรรณละเอียดอ่อนเป็นพิเศษ
ทั้งมีพลังการฝึกปรือสูงล้ำ ดูไปคล้ายมีอายุเพียง16-17 ปีเท่านั้น
.
ก่อนที่นางจะพบกับเอี้ยก่วย น้อยครั้งจะบังเกิดความรักโลภโกรธหลง
ซึ่งอารมรณ์ทั้ง 7 และกามคุณ 6 ซึ่งมีส่วนกระทบกระเทือนร่างกาย
และรูปโฉมผู้คน ดังนั้นนางผ่านเวลาสองปี เท่ากับปุถุชนทั่วไปผ่านวันเวลาหนึ่งปี หากแม้นนางสามารถปฏิบัติตามคำสอนของซือแป๋
.
🧘‍♀️สงบจิตบำเพ็ญใจมิเพียงอายุขัยถึง100 ปี สภาพร่างกาย
เเละรูปโฉมโนมพรรณหาแตกต่างกับคนอายุ 50 ปีไม่
.
ดังนั้นในสายตาผู้อื่นเซียวเล้งนึ่งกลับอ่อนเยาว์กว่าเอี้ยก่วย
มิหนำซ้ำอากับกิริยาที่อ่อนช้อย บริสุทธิ์ไร้เดียงสา
เปรียบกับก๊วยพู้ยังเด่นชัดยิ่งกว่า เหล่าผู้กล้าจึงยึดถือนางเป็นเด็กเยาว์วัย
แต่เมื่อเศษชิ้นส่วนของพายของชาวประมงเตียมชัง ศิษย์อิดเต็งไต้ซือ
ถูกนิ้วเท้าข้างซ้ายของนาง นางจึงเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่งจนสีหน้าปรากฏแววปวดร้าว ทำให้เอี้ยก่วยถึงกับเดือดดาลเป็นการใหญ่
ทำให้ออกไปต่อสู้กับราชบุตรฮั่วตูกับตาเอ่อปา ซึ่งเป็นศิษย์ของราชครูกิมลุ้น
สำแดงวิชาฝีมือสำนักสุสานโบราณ 🤸‍♀️
ต่อมาศิษย์ 2 คนของราชครูกิมลุ้นพ่ายแพ้แก่เอี้ยก่วย กิมลุ้นก๊กซือจึงถามว่า
.
“ซือแป๋เจ้าเป็นใคร ?”
.
เอี้ยก่วยพลันชี้มือมาที่ตนเอง
ในสายตาและความเห็นของกิมลุ้มก๊กซือ เซียวเล้งนึ่งอ่อนช้อย
งดงามเปรียบกับเอี้ยก่วยยังเยาว์วัยกว่า
.
จึงไม่เชื่อ อดครุ่นคิดมิได้ว่า “ชาวฮั่นแผ่นดินตงง้วนเจ้าเล่ห์เพทุบาย
แต่ยังไม่อาจหลอกลวงเราได้ “
.
ผุดลุกขึ้นล้วงจักรสีทองจากในจีวร
ปรากฏเสียงจักรทองดัง กราว กราว ราชครูกิมลุ้นพลันถามว่า
.
“โกวเนี้ยน้อย ขอเพียงท่านรับจักรทองได้ 10 กระบวนท่า
อาตมาจะยอมรับเจ้า”
.
เมื่อเซียวเล้งนึ่งได้ยินเสียงตึงตังเร่งร้อน เบื้องหน้าสายตา
ปรากฏประสายสีทองพร่าพราย🌟 จักรสีทองของฝ่ายตรงข้าม
จู่โจมเบื้องหน้าห่างเพียงเชียะเศษ
คราครั้งนี้นับเป็นการเปลี่ยนแปลงไม่คาดคิด
อย่าว่าแต่ปิดป้องต้านทาน คิดถลันหลบยังไม่ทันกาณ์
ยามรีบร้อนคับขัน พลันขยับข้อมือ บังคับสายรัดแพรวกอ้อมกลับมา
ลูกกลมกระแทกใส่จุดฮวงตี้ที่กลางศีรษะด้านหลังของกิมลุ้มก๊กซือ
.
กิมลุ้นก๊กซือย่อมไม่ต้องการเสี่ยงชีวิตกับนาง จึงก้มศีรษะหลบเลี่ยง
การก้มครั้งนี้ จักรในมือที่เสือกส่งออกไปต้องเชื่องช้าวูบหนึ่ง
เซียวเล้งหนึ่งอาศัยโอกาสนี้ รั้งสายรัดแพรกลับ เสียงติง ตัง ‼️
เมื่อลูกกลมกับจักรทองกระทบกัน คลี่คลายท่าจู่โจมของจักรทองไปได้
นับว่านางผ่านห้วงความเป็นตายมารอบหนึ่ง
สร้างความตื่นตระหนกจนหน้าแปรเปลี่ยนกลับกลาย
.
กระบวนท่าต่อมาเมื่อต้องปะทะกับจักรทองของกิมลุ้นก๊กซืออีก
นางจึงทุ่มเทวิชาตัวเบาพลิ้วร่างใสห้องโถงสายรัดแพรในมือโบกสะบัด
ลูกกลมหมุนเร่งร้อน ก่อเกิดเป็นหมอกสีขาวกลุ่มหนึ่ง
และประกายเหลืองสายหนึ่ง ลุกกลมสีทองบังเกิดเสียงติงๆ
บัดเดี๋ยวเร่งร้อนบัดเดี๋ยวเชื่องช้า คล้ายท่องทำนองดนตรีก็มิปาน
.
ระหว่างที่นางอยู่ในสุสานโบราณ เคยหัดดีดพิณตามโน้ตเพลง🎼🎼
ที่ลิ้มเชี้ยวเอ็งตกทอดทิ้งไว้ ล่วงรู้หลักดนตรีกาล
ภายหลังฝึกปรือวิชาสายรัดแพรกับลูกกลม
ฟังออกว่าเสียงที่ดังจากในลูกกลม แฝงท่วงทำนองดนตรี
ด้วยอารมณ์ของเด็กหญิง กลับสอดแทรกเสียงดนตรีอยู่ในวิชาฝีมือ
.
อันช่วงเวลาแห่งการเคลื่อนคล้อยของฟ้าดิน🌎 ความเจริญของแมกไม้🌴 ตลอดจนเสียงลมหายใจและจังหวะชีพจรของร่างกายผู้คนล้วนแฝงจังหวะจะโคนที่แน่นอน เสียงดนตรีประกอบจากสำเนียงฟ้า
และจังหวะตามธรรมชาติบนร่างกายของผู้คน🧘‍♂️
.
เสียงดนตรีฟังดูไพเราะหู สรรพเสียงเซ็งแซ่สร้างความขัดข้องเคืองขุ่น
เมื่อวิชาฝีมือของเซียวเล้งนึ่งหลอมรวมเข้ากับเสียงดนตรี
ยามใช้ออกมายิ่งอ่อนช้อยนุ่มนวล คล่องแคล่วถนัดมือกว่าเดิม
.
กอรปกับวิชาตัวเบาของสำนักสุสานโบราณ เป็นสุดยอดหนึ่งของบู๊ลิ้ม
สุดที่วิชาตัวบาของสำนักใดจะเทียบเทียมได้ ขณะที่อยู่บนท้องทุ่งไพรกว้าง ยังไม่เห็นถึงปมเด่น ยามนี้เซียวเล้งนึ่งใช้ในห้องโถงนับว่าแผ่วพลิ้วสวยงาม เปลี่ยนแปรไม่สิ้นสุด ในชีวิตนางฝึกปรือฝีมือในห้องศิลา
.
แม้อยู่ในพื้นที่อันคับแคบจำกัด ยังสามารถรุกถอยตามใจปรารถนา
แต่นางเอาแต่กระโดดโลดเต้น 🤸‍♀️
กิมลุ้นก๊กซือกลับไม่สามารถทำอย่างไรแก่นางได้
ด้วยความช่วยเหลือของเอี้ยก่วย
เซียวเล้งนึ่งจึงสามารถขับไล่กิมลุ้นก๊กซือไปได้
.
ก๊วยเจ๋งและอึ้งย้ง จึงจัดงานเลี้ยงให้เซียวเล้งนึ่งและเอี้ยก่วย
ด้วยความมีนิสัยเปิดเผยของก๊วยเจ๋ง
ไม่เลียงเคียงถามไถ่ให้กระจ่างชัดระหว่างกลางงานเลี้ยง
กล่าวกับเซียวเล้งนึ่งว่า
.
“เล้งโก้วเนี้ย บิดาที่ลาโลกไปของก่วยยี้เคยสาบานเป็นพี่น้องกับข้าพเจ้า ตระกูลเอี้ยกับตระกูลก๊วยสนิทชิดชอบมาหลายชั่วอายุ
ข้าพเจ้ามีธิดาคนเดีย รูปโฉมโนมพรรณและพลังฝีมือยังพอใช้ได้
ข้าพเจ้าคิดยกธิดาให้แก่ศิษย์ท่าน”
.
เซียวเล้งนึ่งส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า
“ ข้าพเจ้าเองจะเป็นภรรยาก่วยยี้ เขาจะไม่ตบแต่งกับธิดาของท่าน”
คำตอบของนางดั่งสายฟ้าผ่ากลางงานเลี้ยง⚡️
เซียวเล้งนึ่งใช้ชีวิตอยู่ในสุสานโบราณไม่ได้เห็นแสงตะวัน
จึงไม่เข้าใจขนบธรรมเนียมประเพณีอันใด
.
ก๊วยเจ๋งได้ฟังถึงกับตื่นตระหนกว่า อาจารย์ศิษย์คู่นี้กับคิดแต่งงานกัน
ทำให้ถึงกับคิดทำร้ายเอี้ยก่วย
เซียวเล้งนึ่งจึงชักชวนเอี้ยก่วยออกจากงานเลี้ยงไป
.
ตอนหน้ามาต่อกันครับ กับการผนึกกระบี่คู่ของเอี้ยก่วยกับเซียวเล้งนึ่ง....
🎋 🎋 🎋
ขอคารวะชาวยุทธทุกท่าน👏
อนันตทวิ☯️
ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ตครับ
โฆษณา