7 ต.ค. 2021 เวลา 12:23 • หุ้น & เศรษฐกิจ
รีวิวกองทุน IPO – SCBJAPAN
[ลงทุนในกองทุนเน้นหุ้นเติบโตในญี่ปุ่นช่วง Regrowth Stage และมีผลงานดีอย่างต่อเนื่อง]
🇯🇵 สิ่งที่ได้จากบทความนี้
1. มุมมองการลงทุนตลาดหุ้นญี่ปุ่น
2. หุ้นญี่ปุ่นน่าสนใจอย่างไร
3. รู้จักปรัชญาและวิธีการทำงานของกองทุนหลักของ SCBJAPAN
4. ผลการดำเนินงาน และลักษณะพอร์ตการลงทุน
5. สรุปกองทุนหุ้นญี่ปุ่น SCBJAPAN เหมาะกับใคร จัดเป็นส่วนไหนของพอร์ตดี?
1️⃣ มุมมองการลงทุนตลาดหุ้นญี่ปุ่น
ผลงานของตลาดหุ้นญี่ปุ่นค่อนข้าง laggard หรือตามหลังตลาดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วในปีนี้ เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าและมีการ Lock Down หลายครั้ง อย่างไรก็ตามญี่ปุ่นได้มีการเร่งฉีดวัคซีนในระดับที่สูง คาดว่าจะถึง 60-70% ของประชากรทั้งหมดภายในปลายปีนี้ ต่อด้วยการเปิดประเทศเพื่อความต่อเนื่องของเศรษฐกิจ ด้านการเมือง ญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่จะเข้ามาสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ และค่อนข้างแน่ชัดว่าจะมีการสนับสนุนนโยบายทางการเงินและการคลังครั้งใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประเทศ
2️⃣ หุ้นญี่ปุ่นน่าสนใจอย่างไร
ประเทศญี่ปุ่นให้ความสำคัญการพัฒนาความยั่งยืน แผนพัฒนาประเทศ ตั้งเป้า Carbon Net Zero เช่นเดียวกับ USA ที่ปี 2050 ซึ่งเป้าหมายที่ท้าทายมาก ดังนั้นการลงทุนแบบ ESG ญี่ปุ่นคาดการณ์ว่าจะมีการนำพลังงานทางเลือกมาใช้กว่า 50-60% ภายในปีดังกล่าว ทั้งหมดนี้จึงเป็นโอกาสมหาศาลของธุรกิจที่เน้นความยั่งยืนและพลังงานสะอาด
บริษัทญี่ปุ่นอยู่ในช่วงปรับเปลี่ยนธุรกิจให้สอดคล้องกับอุตสาหกรรมยุคใหม่ เช่น Factory Automation, 5G, Fintech และ E-Commerce จากเดิมที่เคยเป็น Traditional Automobile, Banks และ Consumer Electronics เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว รักษาการแข็งขันและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งมีความเป็น Globalization อยู่แล้ว และบริษัทญี่ปุ่นนั้นมีตลาดทั้งในและนอกประเทศ โดยจุดแข็งคืออุตสาหกรรมการผลิต แต่ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ทันโลก เป็นที่มาของการปรับเปลี่ยนธุรกิจ ซึ่งโอกาสอยู่ในบริษัทที่พร้อมจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคใหม่
3️⃣ รู้จักปรัชญาและวิธีการทำงานกองทุนหลักของ SCBJAPAN
ทีมบริหารการลงทุน กองทุน Goldman Sachs Japan Equity Partners Portfolio ที่ SCBJAPAN เลือกเป็นกองทุนหลักนั้น ประกอบด้วยทีมงานมืออาชีพในสาย Portfolio Management และ นักวิเคราะห์ Equity Team ที่มีความเชี่ยวชาญครอบคลุมทุก sector ของตลาดหุ้นญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่เป็น Native Japanese
ปรัชญาการลงทุนของทีม เลือกลงทุนในบริษัทที่อยู่ในช่วง Regrowth Stage ซึ่งมีลักษณะ
(1) เป็นหุ้นขนาดใหญ่กลางมีความมั่นคงและสภาพคล่องสูง
(2) กำลังขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ
(3) มีการขยายธุรกิจที่เชี่ยวชาญไปต่างประเทศ
(4) และมีสัดส่วนรายได้ในประเทศที่สูงเพื่อเป็นฐานรายได้ที่มั่นคงให้กับบริษัท
ภาพรวมกลยุทธ์การลงทุน เกิดจากการทำ Bottom-up จาก Investment Universe กว่า 2,000 บริษัท คัดเลือหุ้นพื้นฐานดี และเข้าสู่ Team Discussion โดยทีมมีการตั้งกฎ “Three-Day Rule” ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและไอเดียของหลักทรัพย์รายตัวอย่างมีวินัยและเคร่งครัด มีการเตรียมตัวก่อนเข้าประชุมเป็นอย่างดีก่อนเข้าไปประชุม เพื่อให้ได้เกิดการแลกเปลี่ยนในวันประชุมทีมอย่างเต็มที่ และได้ข้อสรุปจากการประชุม จริงจังและมืออาชีพสมกับเป็นทีมงานญี่ปุ่นจริงๆ !!
4️⃣ ผลการดำเนินงาน และลักษณะพอร์ตการลงทุน
จากการทำ Bottom-up research จนเข้าสู่กระบวนการ Portfolio Management พอร์ตการลงทุนจะประกอบด้วยหุ้นที่มีศักยภาพ 25-40 ตัว ที่มีความ High Conviction โดย 10 ตัวแรกของพอร์ตการลงทุนนั้นเป็นสัดส่วนประมาณ 50% ของพอร์ต พอร์ตมีความ active และ Turnover ratio สูงถึง 88% โดยผลตอบแทนย้อนหลังของ กองทุน Goldman Sachs Japan Equity Partners Portfolio Class I Shares (acc) ทำผลตอบแทนในระยะ 1, 3 และ 5 ปี ได้ที่ 29.30% ต่อปี, 14.13% ต่อปี และ 17.14% ต่อปี ตามลำดับ ชนะ TOPIX Total Return ได้ทั้งหมด ได้รับการจัดอันดับ Morningstar Rating Overall 5 ดาว
ข้อมูล ณ 31 สิงหาคม 2564 กองทุน Goldman Sachs Japan Equity Partners Portfolio
สัดส่วนกระจายตัวในกลุ่มหลักๆ ดังนี้
Industrials 25.4%
Information Technology 17.0%
Health Care 16.9%
Consumer Discretionary 15.6%
Financials 6.6%
เราขอแนะนำให้รู้จักหุ้นญี่ปุ่น 10 อันดับแรกจากกองทุนหลัก ให้รู้จักดังนี้
1. Hoya Corp (7.0%) บริษัททำเครื่องมือแพทย์ เครื่องฉายแสง และเลนส์
2. Sin-Etsu Chemical Co Ltd (5.7%) บริษัทเคมีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เน้นซิลิโคนและพื้นผิว Semi-Conductor
3. Nidec Corp (5.7%) บริษัทผลิตและส่งออกเครื่องจักรมอเตอร์ไฟฟ้า
4. Sony Group Corp (5.6%) บริษัทนี้เรารู้จักกันดีในเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าและเกม
5. Recruit Holdings Co Ltd (5.1%) บริษัทให้บริการการจัดหางาน จัดหาตำแหน่งงานและอาชีพเฉพาะให้กับบริษัท
6. Nitori Holdings Co Ltd (5.1%) บริษัทขายปลีกเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งบ้านใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
7. Olympus Corp (5.0%) บริษัทผู้ผลิตเลนส์ออพติกและอุปกรณ์ทางการแพทย์
8. AGC Inc (4.6%) บริษัทกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก
9. Obic Co Ltd (4.3%) บริษัทที่ปรึกษาด้านไอทีและซอฟท์แวร์
10. SMC Corp (4.1%) บริษัทผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ควบคุมที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม
5️⃣ สรุป
ผลงานของตลาดหุ้นญี่ปุ่นค่อนข้าง laggard หรือตามหลังตลาดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วในปีนี้ อย่างไรก็ตามญี่ปุ่นได้มีการเร่งฉีดวัคซีนและเปิดประเทศเพื่อความต่อเนื่องของเศรษฐกิจ และกำลังอยู่ในช่วงเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่จะเข้ามาสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ และค่อนข้างแน่ชัดว่าจะมีการอัดฉีดสภาพคล่องครั้งใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งจากนโยบายการเงินและการคลัง
บริษัทญี่ปุ่นอยู่ในช่วงปรับเปลี่ยนธุรกิจให้สอดคล้องกับอุตสาหกรรมยุคใหม่ เช่น Factory Automation, 5G และ E-Commerce เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาวและความต้องการของผู้บริโภค กองทุน SCBJAPAN เหมาะสำหรับผู้ที่มองหากองทุนหุ้นญี่ปุ่นที่เน้นหุ้นเติบโต พร้อมกับทีมผู้จัดการกองทุนและนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญจาก Goldman Sachs Asset Management Fund พร้อมการบริการกองทุนแบบ Active และ High Conviction มีผลงานย้อนหลังดีเป็นการให้ความมั่นใจระดับหนึ่งว่าการบริหารกองทุนนี้ได้มีแนวทางที่ถูกต้องและหาผลตอบแทนเหนือตลาดได้ (อย่างไรก็ตามผลงานในอดีตไม่ได้การันตีผลงานในอนาคต) เราแนะนำว่าสามารถมีกองทุน SCBJAPAN ได้ในสัดส่วน 10-15% ของ Core Port สำหรับการลงทุนระยะยาว โดยมีกองทุน SCBJAPAN(A) ชนิดสะสมมูลค่า และ SCBJAPAN(SSF) กองทุนลดหย่อนภาษีให้เลือกลงทุนได้คามความชอบและวัตถุประสงค์ที่ต้องการ
................................................................
โฆษณา