7 ต.ค. 2021 เวลา 15:11 • หุ้น & เศรษฐกิจ
บทความสำหรับมือใหม่ โดย คุณ ฮง สถาพร : สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
กระทู้คุณภาพจากคุณ amornkowa
บทความสำหรับมือใหม่ตอน 1
(มีประมาณ 4ตอน)
พอดีมีเด็กรุ่นใหม่คือกลุ่มที่เพิ่งเรียนจบ แล้ว หลายคนถามผมเรื่องการลงทุนหรือการสร้างเนื้อสร้างตัวบทความ series นี้เลยเป็นบทความที่เขียนให้กลุ่มคนรุ่นใหม่อ่านนะครับ. คนที่อยู่ในตลาดมานานข้ามบทความนี้ไปได้เลยนะครับเพราะเป็นบทความอ่านเพลินๆ แนวบอกเล่ามากกว่าลงเนื้อหาจริงจัง
ตอนผมเริ่มลงทุนใหม่ใหม่ถ้าเทียบกับยุคนี้สิ่งที่ผมพอจำได้
1. ยุคที่ผมเริ่มต้นสมัยนั้นยังใช้วิธีการซื้อขายโดยการโทรหา Marketing เป็นหลังสมัยนั้นประมาณช่วงปี 2004 ถึง 2005 จำได้ว่า ยังไม่เคยเห็นคนซื้อขายหุ้นโดยไม่ผ่าน Marketing ผมเคยไปนั่งที่ห้องค้าด้วย
เจำได้ว่าสมัยนั้นอยากรู้ราคาหุ้นก็โทรถาม Marketing เวลาซื้อขายค่อนข้างร้อนรนนิดหน่อย เพราะถ้าตั้งบิดเอาไว้เราก็ไม่ได้ดูราคาที่ซื้อขายกันด้วยตัวเอง เพราะเราไม่ได้อยู่ที่ห้องค้าทำให้ไม่ค่อยมีสมาธิเรียนเท่าไหร่เพราะไม่รู้ว่าเราซื้อหุ้นได้หรือขายหุ้นได้หรือยัง
1
ผมคิดว่าคนยุคนี้น่าจะจินตนาการภาพพวกนี้ไม่ออกแล้ว จำได้ว่า iPhone เครื่องแรกน่าจะออกมาประมาณปี 2007 แต่ผมน่าจะได้ใช้ iPhone เป็นครั้งแรกตอนปี 2010 แล้วก็รู้สึกว่าสะดวกสบายสุดยอดนี่เป็นอาชีพที่ไปไหนมาไหนก็ทำได้ โดยที่เราไม่ต้องคอยอารมณ์เสียว่า Marketing เราไม่รับโทรศัพท์สายไม่ว่าง ฮ่า
2. เรื่องของการเรียนรู้สมัยนั้นจำได้ว่ามีหนังสือของหุ้นออกมาน้อยมาก ตอนนั้นผมเคยซื้อหนังสือเล่มหนึ่งชื่อคัมภีร์หุ้นแล้วถ้าจำได้ ก็มีหนังสือของเครือตลาดหลักทรัพย์มั้ง ชื่ออยากรวยต้องรู้ สมัยนั้นการเรียนรู้หลักหลักคือต้องเข้าเว็บบอร์ดกับเดินทางออกไปสัมมนาเป็นหลัก เอาจริงๆยุคนั้นผมว่าคนไทยยังน่าจะเล่น YouTube กันไม่เยอะเลยยิ่งถ้าเป็น YouTube เกี่ยวกับเรื่องการลงทุนไม่ต้องหาเลยแทบไม่มี ตอนนั้นเวลาไปเรียนที่ไหนจำได้พกเครื่องอัดเสียงเครื่องเล็กๆสีขาวๆไป ตอนนั้นยังใส่ถ่านอยู่เลยจำได้ว่าเคยไปอัดที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติแล้วแบตใกล้หมด แทบจะวิ่งหาซื้อตาเหลือกกลัวไม่ได้อัดเสียง สมัยนี้เรียนรู้ง่ายมากจริงๆกด YouTube ฟังซ้ำกี่รอบก็ได้ เครื่องอัดเสียงดูเหมือนเป็นอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นไปเลย
5
3.สมัยนั้น ออฟเดย์. ยังไม่มีการบันทึกคือ คนที่ไปฟังสดได้จะได้เปรียบมาก นักศึกษาอย่างผมก็ถือว่าพอไปฟังได้บ้างเป็นครั้งคราว ถ้าไม่ได้ไปบางทีก็รอในเว็บบอร์ดว่าคนที่ได้ไปจะมาอัพเดทว่ายังไง ในขณะที่ทุกวันนี้ยังไงคนก็ฟังสดได้พร้อมกัน ยุคสมัยนี้ผมคิดว่า YouTube น่าจะเป็นโรงเรียนสอนทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ คุณสามารถที่จะเรียนรู้อะไรได้เยอะมากโดยที่คุณไม่ต้องออกจากบ้านเลยก็ได้ ถ้ามองในแง่นี้ประสิทธิภาพการเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่ควรจะสูงกว่าคนรุ่นเก่ามาก อย่างน้อยก็ไม่ต้องเสียเวลาอยู่บนท้องถนนเพื่อที่จะไปตามสถานที่ต่างๆหาความรู้
4 มูลค่าหุ้นช่วงที่ผมเข้ามาตลาดใหม่ใหม่ จำได้ว่าช่วงนั้นหุ้นที่อยู่ในตลาดเอ็มเอไอหลายตัวมีพีอีที่ต่ำมาก สี่ถึงห้าเท่าคือเป็นเรื่องปกติมากกำไร 1 บาทราคา4- 5 บาท เจอแบบนี้หลายตัวเงินปันผลในช่วงนั้นหาหุ้นปันผลมากกว่า 6% ไม่ได้ยากมาก ปันถึงระดับ 8% ก็พอหาได้ถ้าเทียบกับทุกวันนี้หุ้น ที่จะปันผลสูงส่วนใหญ่มักอยู่ในอุตสาหกรรมที่คนมองไม่ดี พีอีจึงต่ำ ส่วนหุ้นเติบโตส่วนใหญ่แทบไม่ต้องมองหาปันผล สำหรับยุคนี้ในขณะที่ยุคที่ผมเข้าตลาดใหม่ใหม่หุ้นเติบโตที่ยังมีปันผลระดับสี่ถึง 5% หาได้ค่อนข้างไม่ยากเลย
5
เรื่องการไปลงทุนต่างประเทศ สมัยผมเข้ามาลงทุนในไทยไม่น่ามีใครคิดเรื่องการออกไปลงทุนต่างประเทศเท่าไหร่ คือองค์ความรู้เรื่องการลงทุนในยุคนั้นเป็นยุควีไอเพิ่งเริ่มต้นไม่นานคนยังไม่ค่อยเข้าใจเลยว่าอะไรคือการลงทุนแบบเน้นคุณค่ายังไม่ต้องคิดถึงออกไปลงทุนนอกประเทศและในช่วงนั้นถ้าจะทำก็ไม่รู้จะออกทางช่องทางไหน
1
ที่ผมกล่าวมาเบื้องต้นผมเล่าสภาพแวดล้อมช่วงที่ผมลงทุนใหม่ใหม่ก่อน ต่อไปนี้คือความคิดเห็นของผมที่จะแนะนำคนรุ่นใหม่หรือคนรุ่นกลางที่พึ่งสนใจลงทุนในหุ้น
ดัชนีตลาดหุ้นผมคิดว่าระยะยาวจากค่อนข้างสัมพันธ์กับทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ ดังนั้นถ้าเศรษฐกิจเติบโตได้ดีตลาดหุ้นของประเทศนั้นก็น่าจะมีอนาคตที่สดใสแต่ถ้าเศรษฐกิจเติบโตน้อยการจะทำผลตอบแทนได้สูง ผมคิดว่าเราต้องมีความสามารถในการขุดหุ้นหลายตัวที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของคนในตลาดมาก ซึ่งผมคิดว่าถ้าเราขยันมากพอก็ยังหาผลตอบแทนที่ดีได้ แต่อาจจะยากกว่าช่วงเวลาที่ผมลงทุนก่อนหน้านี้ การทำผลตอบแทนให้ดีในสภาวะแบบนี้
เราอาจจะต้องเจอหุ้นเติบโตเป็นคนแรกแรกหรือเราอาจจะซื้อหุ้นที่ตลาดมองว่าไม่ดีแต่ความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดคิดมุมมองสองอย่างนี้ผมคิดว่าเป็นปัจจัยกว่าในการที่เราจะทำผลตอบแทนได้มากกว่าดัชนีตลาด
1
แต่หัวข้อนี้เป็นหัวข้อแนะนำมือใหม่แบบกว้างกว้างดังนั้นผมจึงไม่อยากจำกัดอยู่ที่เพียงตลาดหุ้นไทยโดยรวม ทุกวันนี้การไปลงทุนต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นเวียดนามหุ้นจีนหุ้นอเมริกาผมคิดว่าโบรเกอร์ในไทยที่พร้อมจะให้บริการมีค่อนข้างจะเยอะ ผมคิดว่าโลกเปิดกว้างกว่าสมัยที่ผมเพิ่งมาลงทุนใหม่ใหม่เยอะ
1
ถ้าให้เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย ผมคิดว่าข้อดีของตอนที่ผมมาลงทุนคือตลาดหุ้นโดยรวมค่อนข้างถูกและคนเข้ามาลงทุนยังไม่มาก ผมจำได้ว่าตอนนั้นมีหุ้นอยู่ตัวนึง จ่ายปันผล 8% จ่ายทั้งหมดของกำไรที่ทำได้และประกาศกำไรเติบโต 60% หลังจากประกาศกำไรมาประมาณสองอาทิตย์ได้หุ้นยังไม่ค่อยขึ้นเลยอันนี้คือเหตุการณ์ซักประมาณปี 2548 นะครับ ถ้าเป็นเดี๋ยวนี้ทันทีที่งบออกจะมี Pages หุ้นเอามาลงแล้วคนก็จะรับรู้ทั่วถึงกันภายในเวลาสั้นมาก คือราคาเปิดอาจจะกระโดดไปในราคาที่ใกล้เคียงกับระดับกำไรที่ออกมาในเบื้องต้นเลย
2
ผมเล่ามาเบื้องต้นคุณอาจจะเริ่มเห็นภาพว่าสภาพแวดล้อมการลงทุนยุคที่ผมเริ่มเข้ามาในตลาดแตกต่างจากทุกวันนี้อย่างไร
สมัยผมยังเด็กการฝากเงินในแบงค์เคยได้ผลตอบแทนระดับ 15% คือถ้าคนมีเงินก้อนแค่ฝากแบงค์ไปเรื่อยเรื่อย คุณก็แทบไม่ต้องออกไปหางานทำแล้ว แต่ยุคที่ผมเข้ามาลงทุนตอนนั้นดอกเบี้ยน่าจะอยู่ระดับ2% ถึง 3% ได้ถ้าผมจำไม่ผิด
1
ตอนนั้นหาหุ้นที่จ่ายปันผลได้ดีได้ง่ายมากคำว่าดีคือ 5% ขึ้นไป ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า ยุคนั้นคนสนใจเรื่องการลงทุนยังมีน้อยมากถ้าผมจำไม่ผิด(ไม่ชัว) ยุคที่ผมเพิ่งเริ่มลงทุนน่าจะมีคนเปิดบัญชีลงทุนในหุ้นทั้งประเทศซัก 5- 600,000 คน แต่ดูเหมือนล่าสุดจะมีคนเปิดบัญชีลงทุนในหุ้นประมาณ 4,000,000 กว่าคนสำหรับประเทศไทย คนเข้ามาซื้อหุ้นมากขึ้นผลตอบแทนจากเงินปันผลก็น้อยลงเพราะระดับราคาโดยรวมสูงขึ้น
1
สิ่งที่เปลี่ยนไปมากคือยุคนี้ผู้คนสนใจลงทุนกันเยอะมากจริงๆผมไปทำสปาที่โรงแรมห้าดาวพนักงานสปาก็ถามผมเกี่ยวกับหุ้นตัวนั้นตัวนี้ ไปหาหมอหมอก็ถาม ไปวัดโยมที่วัดก็ถาม
1
คือ ดอกเบี้ยออมทรัพย์ตอนนี้ 0.25% คือต่ำจนคนต้องหาทางเลือกใหม่ๆ ผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนหันมาสนใจการลงทุนกันมากขึ้นเมื่อเทียบกับสมัยก่อนโดยเฉพาะถ้าย้อนไปถึงเมื่อซัก 30 ปีที่แล้วที่ดอกเบี้ยอยู่ซัก 15% ฝากเฉยเฉยได้มากขนาดนั้นคนเลย ไม่ได้สนใจเรื่องการลงทุนเยอะมาก
1
บทความนี้จริงๆเป็นบทความแยกภาคมาของบทความเต็มที่ผมจะเขียน คือตั้งใจจะเขียนเกี่ยวกับเรื่อง การหาเงินในโลกยุคปัจจุบัน พอจะเขียนแนวนี้ก็เลยต้องเขียนเกริ่นก่อนว่าในอดีตสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไรและปัจจุบันเปลี่ยนไปอย่างไรเพื่อให้คนเห็นภาพในการปรับตัวเข้าสู่แนวโน้มอนาคต
บทความต่อไปจะเป็นภาพรวมของการลงทุนในแนวทางอื่นๆด้วย และรวมถึง คำแนะนำเกี่ยวกับการมีมายด์เซ็ทและการหาแนวทางของตัวเอง
ร่วมอ่านและแสดงความคิดเห็นได้ที่กระทู้
ประชาสัมพันธ์ - ตอนนี้เว็บบอร์ด ThaiVI เปิดให้สมัครสมาชิกและทดลองใช้ได้ฟรี 30 วันแล้ว! เข้าไปสมัครกันได้เลยครับที่ www.ThaiVI.org
โฆษณา