Blockdit Logo (Mobile)
ลงทุนเกิร์ล
ยืนยันแล้ว
•
10 ต.ค. 2021 เวลา 03:30 • อาหาร
รู้จัก บาร์ฟ เทรนด์การให้อาหารดิบ กับน้องหมาน้องแมว ที่กำลังมาแรง ในแคนาดา
เทรนด์การให้อาหารดิบกับน้องหมาน้องแมวในไทย เริ่มเป็นที่พูดถึงในเฉพาะแค่คนบางกลุ่ม แต่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะ แคนาดา ถือว่าเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงมาก ๆ
ลงทุนเกิร์ลจะพาทุกคนมารู้จักกับ “บาร์ฟ” หรือเทรนด์การให้อาหารดิบกับน้องหมาน้องแมว ว่าคืออะไร มีประโยชน์และมีข้อควรระวังอย่างไร แล้วทำไมถึงเป็นเทรนด์ที่มาแรงในต่างประเทศ
เรามาเริ่มจากทำความเข้าใจว่า บาร์ฟ คืออะไรกันก่อน
บาร์ฟ หรือ B.A.R.F ย่อมาจาก Biologically Appropriate Raw Food หมายถึง อาหารดิบที่มีโภชนาการและต้องไม่ผ่านกรรมวิธีทางความร้อน ซึ่งเหมาะสมต่อน้ำหนักและสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยง
โดยผู้คิดค้นการให้อาหารวิธีนี้ ก็คือ ดร. Ian Billinghurst สัตวแพทย์และนักโภชนาการ ซึ่งเขาก็ได้ยืนยันว่า “อาหารดิบ” ที่ประกอบด้วยเนื้อสัตว์, กระดูก, เครื่องใน และผักสด เป็นอาหารที่เหมาะสมที่สุดสำหรับน้องหมาน้องแมวในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นการให้อาหารตามวิวัฒนาการทางธรรมชาติของสัตว์เลี้ยง
ซึ่งอาหารบาร์ฟที่ดี ควรอุดมไปด้วยโปรตีน มีไขมันปานกลาง และมีคาร์โบไฮเดรตที่ต่ำ
โดยส่วนประกอบหลัก ๆ มี 3 อย่าง คือ
1) เนื้อและเครื่องใน
2) กระดูกเนื้อ
3) ผักและผลไม้
โดยประโยชน์ของการให้สัตว์เลี้ยงกินอาหารบาร์ฟ ก็เช่น ดีต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้มูลสัตว์มีขนาดและกลิ่นลดลง, สุขภาพแข็งแรงและเพรียวบาง, ช่วยทำให้ขนเงางาม ลดปัญหาขนร่วง สุขภาพผิวหนังดี, ฟันสะอาด เหงือกแข็งแรง ไม่มีกลิ่นปาก
แต่ถึงแม้ประโยชน์จะมาก แต่ก็มีข้อควรระวังด้วยเช่นกัน
เนื่องจากอาหารบาร์ฟสำหรับสัตว์เลี้ยง สามารถซื้อแบบแช่แข็งและทำเองได้
 
ความเสี่ยงจึงอาจเกิดจากการที่เจ้าของปรุงอาหารดิบเอง โดยคำนวณสัดส่วนวัตถุดิบ ที่ไม่เหมาะสมต่อน้ำหนักและสายพันธุ์ของสุนัข ซึ่งอาจทำให้สัตว์เลี้ยงเกิดภาวะขาดสารอาหารได้
นอกจากนั้นหากไม่ได้มีการจัดเก็บวัตถุดิบในอุณหภูมิที่ถูกต้อง หรือไม่สะอาด ก็อาจทำให้กินแล้วเกิดโรคติดเชื้อได้
ดังนั้น การปรุงอาหารดิบให้กับน้องหมาน้องแมว ผู้เลี้ยงจะต้องศึกษาอย่างละเอียดถี่ถ้วน หรือต่อให้ซื้ออาหารบาร์ฟสำเร็จรูปจากร้านค้า ก็ควรตรวจสอบด้วยว่า ขั้นตอนการผลิตและการเก็บรักษา มีการควบคุมอุณหภูมิอย่างถูกต้องหรือไม่
แล้วอะไรที่ทำให้วิธีทำอาหารที่ดูเหมือนจะยุ่งยากเหล่านี้ กลายมาเป็นเทรนด์ที่กำลังนิยมในต่างประเทศ ?
สาเหตุของเรื่องนี้ก็มาจาก ผู้คนมองย้อนไปถึงบรรพบุรุษเริ่มต้นของสายพันธุ์สุนัขต่าง ๆ ที่มีมากว่า 1,000 ปี แล้วมีแนวคิดว่า
1
วิถีการกินดั้งเดิมของสุนัขและแมว เริ่มต้นมาจากการเป็นสัตว์ที่ล่าอาหารตามธรรมชาติ
ดังนั้น การให้อาหารดิบกับสัตว์เลี้ยง ก็น่าจะดีกว่าอาหารเม็ดที่ผ่านการแปรรูปอย่างในปัจจุบัน
1
เมื่อความต้องการใหม่เกิดขึ้น จึงกลายเป็นผลพลอยได้ของบริษัทอาหารสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในประเทศแคนาดา
Dane Creek Capital คือหนึ่งในนั้น โดยเป็นบริษัทบริหารจัดการเงินลงทุน ที่มุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง และมักจะเข้าซื้อกิจการ, ลงทุน และให้การสนับสนุนแก่ธุรกิจเกี่ยวกับตลาดสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ในแคนาดาและสหรัฐอเมริกา
ซึ่งในปี 2560 Dane Creek Capital ก็ได้เริ่มเข้าซื้อบริษัทอาหารสุนัขดิบทั่วแคนาดา เช่น United Raw, Mountain Dog Food, Pets 4 Life, Spring Meadows, Naturawls และ Tollden Farms
และปัจจุบัน Dane Creek ยังเป็นเจ้าของหุ้นส่วนใหญ่ ในบริษัทอาหารดิบและอาหารสัตว์ Rawpaw, True Raw Choice, BaieRun และ Bonnie & Clyde
Mark Warren ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Dane Creek ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า
“ฉันสังเกตเห็นว่า การเติบโตของส่วนแบ่งตลาดอาหารเม็ดสำหรับสัตว์เลี้ยง เริ่มลดลงประมาณ 8% ต่อปี ส่วนอาหารกระป๋องแบบดั้งเดิมก็ทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ตลาดอาหารดิบแช่เย็นและแช่แข็งสำหรับสัตว์เลี้ยง เติบโตขึ้นอย่างมาก
โดยเขาคาดการณ์ว่า อาหารดิบแช่เย็นและแช่แข็งสำหรับสัตว์เลี้ยง จะเติบโตถึง 25% ภายในปี 2564
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วการให้อาหารดิบกับน้องหมาน้องแมว มันดีจริงหรือไม่ ?
จริง ๆ แล้วเราอาจเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ว่า การที่มนุษย์เราทานอาหารแปรรูปเป็นประจำ เช่น ไส้กรอก, ฮอตด็อก, เบคอน หรือคุกกี้ ยังส่งผลเสียต่อร่างกาย เพราะก่อให้เกิดโรคอ้วนและโรคมะเร็ง
สำหรับน้องหมาน้องแมวที่เรารักก็คงไม่ต่างกัน
ถ้าเราให้พวกเขากินแต่อาหารเม็ดก็อาจทำให้ร่างกายได้รับผลเสียจากกระบวนการแปรรูป ซึ่งการกินอาหารบาร์ฟ ก็เป็นอีกทางเลือกของเจ้าของสัตว์เลี้ยง ที่สามารถนำไปปรับใช้กันได้
เรียกได้ว่าการให้อาหารบาร์ฟ ก็เป็นอีกเทรนด์ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นในมุมของผู้เลี้ยง หรือในฝั่งของผู้ประกอบการที่มองหาโอกาสทางธุรกิจ
ปิดท้ายด้วยข้อมูลน่ารัก ๆ จาก TikTok ช่อง furryfritz ที่ได้ถ่ายทำการทดลอง โดยให้แมวเลือกระหว่าง “เนื้อวัวทั่วไป” กับ “เนื้อวากิว”
ซึ่งผลสรุปคือ ตอนแรกเจ้าแมวชิมเนื้อวัวทั่วไป แต่พอหันไปชิมเนื้อวากิว ก็กินจนหมดเกลี้ยง แล้วไม่สนใจเนื้อวัวธรรมดาอีกเลย..
นี่จึงอาจสรุปได้ว่า การให้อาหารที่ดีที่สุดกับเพื่อนสี่ขาของเรา นอกจากจะดีต่อสุขภาพของพวกเขาแล้ว ยังดีต่อใจของพวกเขาอีกด้วย..
โฆษณา