Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Son Pa'ed Channel
•
ติดตาม
8 ต.ค. 2021 เวลา 13:52 • บันเทิง
เล่าจากชีวิตจริง ในถ้ำ ป่า เขา และ เรื่องลี้ลับ
มหัศจรรย์แห่งถ้ำพญานาคา ตอนที่ 3
(เสียงเพรียกหาจากความมืด)
(โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพ)
หลังจากที่ได้เจอเหตุการณ์แปลกประหลาดจากตอนที่แล้ว ผมก็ได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ถ้ำแห่งนี้ อีกหลายครั้ง ทำให้รู้สึกผูกพันธ์ จนตัดสินใจว่าจะมาขอจำพรรษาที่ถ้ำแห่งนี้ กับหลวงพ่อท่าน
ผมจึงได้ขออนุญาตกับพ่อแม่และพระอาจารย์ที่ดูแลผมอยู่ในเวลานั้น ในตอนแรกก็มีเสียงคัดค้านจากผู้ใหญ่ถึงเรื่องความเป็นอยู่ อีกทั้งในเรื่องของการเดินทางไปเรียนนักธรรมโท ที่วัดอื่น มันค่อนข้างที่จะลำบาก แต่เมื่อผมยืนยันว่าจะทำให้ได้ ซึ่งก็ใช้เวลาในการพูดคุยอยู่หลายวันกว่าที่จะได้รับอนุญาต
หลังจากที่ผมได้ย้ายมาอยู่ที่ถ้ำแห่งนี้ หลวงพ่อท่านก็ได้พาทำกิจวัตรต่างๆ เช่น นำแกลอนน้ำมันที่ล้างแล้ว ลงไปกรอกน้ำที่บ่อน้ำยังตีนเขา ซึ่งห่างออกไปอีกประมาณ 1 กิโล เพื่อนำขึ้นไปใช้ข้างบนถ้ำ เป็นต้น
ช่วงเวลาที่ว่างๆ ก็ท่องหนังสือเรียนบ้าง ท่องบทสวดมนต์ต่างๆ บ้าง พอถึงช่วงเย็นๆ ก็ทำวัตรเย็นโดยที่มีเสียงฝูงค้างคาวที่พากันบินออกจากถ้ำ เพื่อไปหากินในตอน
กลางคืน สร้างบรรยากาศในการสวดมนต์ได้เป็นอย่างดี
เมื่อผมอยู่ได้สักระยะหนึ่ง ก็ปรับตัวได้ เริ่มอยู่คนเดียวในช่วงเวลากลางวันได้ โดยที่หลวงพ่อไม่อยู่ที่ถ้ำ เพราะท่านได้รับกิจนิมนต์ไว้ และจะกลับมาในช่วงเวลาใกล้ค่ำ ซึ่งก็เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง จนวันหนึ่งท่านก็ถามผมว่าถ้าหลวงพ่อกลับมาช้าหน่อยจะอยู่คนเดียวตอนกลางคืนได้รึเปล่า ผมก็ตอบด้วยความมั่นใจเลยว่า "ได้ครับ" เพื่อให้ท่านสบายใจไม่ต้องกังวลอะไร
ช่วงค่ำวันหนึ่งหลังจากทำวัตรเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ผมก็หาหนังสือมาอ่านรอหลวงพ่อกลับมาจากกิจนิมนต์ แม้จะเป็นช่วงหัวค่ำ แต่บรรยากาศก็เงียบสงัดเหมือน
ตอนดึก
ในระหว่างที่กำลังอ่านหนังสืออยู่นั้น ผมเหมือนจะได้ยินเสียงคนตะโกนเรียกมาจากข้างนอกถ้ำ แต่ว่าเสียงนั้น
แผ่วเบาจนผมเกิดความไม่แน่ใจว่าเป็นเสียงคนเรียกหรือเสียงสัตว์กลางคืนกันแน่ พอผมกำลังจะอ่านหนังสือ
ก็มีเสียงตะโกนเรียกอีกครั้ง
ซึ่งในครั้งนี้ชัดเจนขึ้นกว่าเดิม ชัดพอที่จะฟังเป็นคำ ได้ว่าเสียงนั้นตะโกนเรียกว่า "เณร" แต่เสียงไม่ได้อยู่ที่หน้าถ้ำ เสียงเหมือนมาจากที่ไกลๆ เหมือนเรียกอยู่ที่ตีนเขา
ความคิดแรกที่แว่บเข้ามาคือ "โยมจากที่ไหนมาหาในเวลามืดค่ำขนาดนี้" ในขณะที่คิดอยู่นั้นก็เสียงตะโกนเรียกขึ้นมาอีกครั้ง ว่า "เณร" ซ้ำๆ เหมือนจะเร่งให้ออกไป ผมก็กลับมาคิดอีกว่า หรือ อาจจะไม่ใช่โยม อาจจะเป็นหลวงพ่อกลับมาแล้วหรือเปล่า
แต่ปกติถ้าหลวงพ่อกลับมา ท่านก็จะขึ้นมาเลยไม่ได้ตะโกนเรียกแบบนี้ หรือว่าท่านมีสัมภาระกลับมาด้วย
แล้วจะให้ผมลงไปช่วยยกขึ้นมาบนถ้ำ พอคิดได้แบบนั้น ผมก็ลุกขึ้นกำลังจะเดินออกจากปากถ้ำ แต่ก็ต้องหยุดชะงักทันที
เพราะจู่ๆ ผมก็ฉุกคิดคำสั่งที่หลวงพ่อขึ้นมาได้ว่า"ถ้าจะออกจากถ้ำในช่วงเวลากลางคืน ให้ครองจีวรไปด้วยทุกครั้ง" เพราะตอนนั้นผม มีเพียงแค่ อังสะ กับ สบง เท่านั้น ผมจึงหันหลังกลับไปหยิบจีวรมาครอง แบบลวกๆ แต่เพื่อความมั่นใจขึ้นอีกขั้น หลวงพ่อได้ปลุกเสกสร้อยประคำให้ไว้ 1 เส้น เพื่อป้องกันสิ่งที่ไม่ดี
ผมจึงตั้งจิตอธิษฐาน เพื่อให้สิ่งศักด์สิทธิ์คุ้มครอง แล้วนำมาคล้องศีรษะ แล้วผมก็ออกจากถ้ำไปพร้อมกับไฟฉายอีก 1 กระบอก ในระหว่างทางที่ผมกำลังเดินลงไป ผมก็ตะโกนเรียกหลวงพ่อไปด้วย แต่ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมา เพราะปกติถ้าเรียกหลวงพ่อ ท่านจะตอบกลับมาว่า "เออ" สั้นๆ เพื่อให้รู้ว่าท่านได้ยินแล้ว
พอเดินลงไปถึงตีนเขา ผมก็กวาดไฟฉายไปยังจุดที่
คิดว่าหลวงพ่อจะยืนรออยู่ตรงนั้น พร้อมกับเรียกหาไปด้วย แต่ไม่พบใครและไม่มีเสียงตอบใดๆ มีเพียงแค่ความมืดสนิท ความเงียบสงัดเพราะสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัว คือภูเขา และ ป่า ทั้งนั้น
สิ่งที่อยู่ในหัวผมตอนนั้นคือ หลวงพ่ออยู่ที่ไหน
แล้วเสียงที่ตะโกนเรียกตอนแรกนั้นคือเสียงใคร
จะเอายังไงต่อดี จะกลับขึ้นไปรอหลวงพ่อที่ถ้ำ
เหมือนเดิม หรือว่าจะเดินออกไปข้างนอกเผื่อว่าจะเจอหลวงพ่อระหว่างทาง คิดวนไปวนมาสักพัก จึงตัดสินใจเดินออกไปข้างนอกจะดีกว่า
ในขณะที่เดิน หัวก็คิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่ก็ไม่ลืมว่าการเดินป่าในตอนกลางคืน
อย่าสาดไฟไปมา ให้ถือนิ่งๆ ส่องไปที่พื้นข้างหน้าประมาณ 45 องศา เพราะการสาดไฟไปมาอาจรบกวนสัตว์ที่หากินตอนกลางคืนได้ พอออกมาจากป่ากำลังจะเข้าสู่หมู่บ้านของชาวบ้าน ก็เปลี่ยนการครองจีวรที่เรียบร้อยขึ้นกว่าเดิม
จุดหมายที่ผมกำลังไปคือ สถานีรถไฟ เนื่องจากหลวงพ่อจะกลับมาทางรถไฟ ผมอาจจะพบหลวงพ่อที่สถานีรถไฟหรือระหว่างทางก็ได้
ผมได้เดินผ่านตัวหมู่บ้านจนถึงถนนเส้นหลักที่จะไปยังทางรถไฟ หลังจากผ่านตัวหมู่บ้านมาได้ระยะหนึ่ง ทางข้างหน้าจะมีวัดอยู่ทางด้านขวามือ หน้าวัดเปิดไฟนีออนยาว ไว้หนึ่งดวง แต่สิ่งที่ผมรู้สึกแปลกๆ ก็คือ อีกฝั่งนึงของถนนเหมือนกับมีคนนั่งยองๆ หันหน้าเข้าวัด ใส่เสื้อขาวกางเกงดำ
แต่ด้วยระยะห่างที่มองเห็นค่อนข้างไกล ทำให้ไม่รู้ว่าคนๆนั้นเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ผมเดินไปพร้อมกับมองร่างๆนั้นอยู่เรื่อยๆ พอเดินมาถึงหน้าวัด ปรากฏว่าไม่มีคนนั่งอยู่ ในใจก็คิดว่าเขาอาจมาขอส่วนบุญก็ได้ จึงได้ตั้งจิตแผ่ส่วนบุญในใจ พร้อมกับเดินไปเรื่อยๆ ขณะที่แผ่ส่วนบุญ ขนก็ลุกชูชันตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า พร้อมกับเตือนสติตัวเองว่า "อย่าวิ่งนะ อย่าวิ่ง" เพราะไม่อย่างนั้น สติเราอาจจะเตลิดได้ พอผ่านจากจุดนั้นมา ทุกอย่างก็กลับมาสู่สภาวะปกติ ในที่สุดผมก็เดินถึงสถานีรถไฟ และได้เข้าไปนั่งรอหลวงพ่อด้านในสถานี นั่งไปไม่นานก็มีรถไฟมาจอดเทียบสถานี แล้วหลวงพ่อก็ลงมาจากรถไฟ ทันทีที่เห็นผม หลวงพ่อก็ร้อง "อ้าว ทำใมมานั่งตรงนี้"
ผมก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ถ้ำให้ฟัง หลวงพ่อฟังก็เงียบๆ ไป ไม่ได้พูดถึงว่าสิ่งนั้นคืออะไร แต่ในใจผมคิดว่าท่านอาจจะรู้ แต่ไม่อยากบอก เกรงว่าถ้าบอกแล้วผมจะกลัวไม่กล้ากลับที่ถ้ำอีก
ความคิดส่วนตัว ผมวิเคราะห์ออกเป็น 2 ทางคือ
1. เสียงเรียกที่ยิน อาจเป็นเสียงของผีป่า
ที่ต้องการจะเรียกเพื่อประสงค์ร้ายอย่างใดอย่างหนึ่ง
แต่ด้วยความที่ผมได้ครองจีวร พร้อมทั้งห้อยลูกประคำออกไปด้วย เลยทำให้ไม่สามารถที่ทำร้ายใดๆ ผมได้
2. หรือเป็นความต้องการของเจ้าที่ เจ้าทาง ที่ดูแลรักษาถ้ำ ต้องการให้ผมออกจากถ้ำเพราะว่าอาจจะมีสัตว์เลื้อยคลานบางอย่างที่อันตรายกำลังจะผ่านมาทางที่ผมอยู่ และอาจจะมาทำร้ายผม จึงได้ส่งเสียงเรียกให้ผมออกไปข้างนอก (ความรู้สึกตอนที่ยืนคิดตรงตีนเขาว่าจะกลับขึ้นไปหรือไปข้างนอก มันเหมือนมีคนมาดันหลังเบาๆ เพื่อให้เดินออกไปเร็วๆ) คล้ายกับที่หลายคนมักเรียกว่า "เหมือนมีอะไรมาดลใจ"
ถ้าถามว่าเจอเหตุการณ์ที่น่ากลัวแบบนี้ทำใมผมยังกล้าที่กลับไปยังถ้ำอีก นั่นเป็นเพราะผมไม่ได้เกิดความรู้สึกกลัว อีกทั้งยังมีความเชื่อมั่นว่าหลวงพ่อสามารถช่วยเหลือผมได้ และถ้ำแห่งนี้ก็ยังมีความศักดิ์สิทธิ์ที่ให้วางใจได้ อุ่นใจเสมอที่อยู่ที่ถ้ำแห่งนี้
สายพญานาค ห้ามพลาด กับการปรากฏให้เห็นด้วยตาเนื้อ
มหัศจรรย์แห่งถ้ำพญานาคา ในตอนต่อไป
กดติดตามไว้เลยนะครับ 🗣🙏🏼🥰
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย