9 ต.ค. 2021 เวลา 01:30 • ความคิดเห็น
Hometown Cha Cha Cha กับบริบทการจัดการท้องถิ่นที่อยากให้มินิฮาร์ท
1
สารภาพว่าเป็นเรื่องที่เห็นหน้าปกและชื่อเรื่องแล้วปล่อยผ่านไปก่อน เพราะโดยส่วนตัวแอดชอบซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวน พวกวิ่งหนีซอมบี้หรือแบบต้องเอาตัวรอดนี่ยิ่งชอบใหญ่ แต่ว่ากระแสของหัวหน้าฮงดีเหลือเกินเลยต้องขอลองเปิดใจดูซักหน่อยละกัน
Hometown ​Cha Cha Cha ว่าด้วยเรื่องของหมอฟันสาวในกรุงโซลที่อยู่มาวันนึงจับพลัดจับผลูมาเปิดคลีนิคอยู่ในชนบท และด้วยความเป็นปัจเจคนิยมบวกกับวัตถุนิยมของคนเมืองที่มีอยู่สูงมากในตัวนางเอก มาเจอกับความเป็นอยู่ สภาวะแวดล้อม สังคม และการอยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะ เกื้อกูลกันแบบสังคมชนบทแบบต่างกันสุดขั้ว เรื่องราวความวุ่นวาย ความคับข้องใจต่างๆ เพื่อการจูนเข้าหากัน มันก็เลยเกิดขึ้น
สารภาพว่าตอนแรกเปิดดูด้วยความไม่คาดหวังอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าซีรีส์เรื่องนี้กลับมีเสน่ห์​และแรงดึงดูด​แบบไม่มากจนเกินไปให้เราคาดหวังอะไรใหญ่โต แต่ก็ทำให้เรากดปุ่มดูตอนต่อไปอย่างไม่ลังเล
Himetown Cha Cha Cha ทำให้เราสามารถเชื่อมถึงความอบอุ่นแบบชนบทๆ บ้านเรา บรรยากาศ​ดีๆ ผู้คนรู้จักกันหมด และเมื่อมีคนใหม่เข้ามาอยู่ในหมู่บ้าน มันคือเรื่องใหญ่ระดับที่ทุกคนต้องรู้ให้ได้ว่าคนๆ นี้เป็นใคร มาจากไหน มีนิสัยใจคอยังไง จนพาลคิดในบริบทที่กว้างขึ้นว่า นี่อาจจะเป็นเสน่ห์​ของความเป็น 'เมืองในแบบเอเชีย' ก็ได้นะ
หลังจากนี้จะมีการสปอยล์​เนื้อหาบางส่วนนะคะ
Hometown​ Cha Cha Cha สะท้อนออกมาให้เราเห็นทั้งเรื่องของการอยู่ร่วมกันของสังคมมนุษย์​ความเข้มแข็งของชุมชนและการจัดการเมืองของเมืองกงจินออกมาอย่างแยบคาย ไม่ว่าจะเป็นการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมของทุกคนในชุมชนทั้งคนหนุ่มสาวและคนสูงอายุ นโยบายการจัดการขยะ การป้องกันอุบัติเหตุ ฯลฯ
ซีรีส์เรื่องนี้แสดงให้เห็นการพัฒนาท้องถิ่นว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องการเอานโยบายจากส่วนกลางแล้วส่งต่อไปยังภูมิภาค แต่มันคือการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนทั้งแนวตั้ง (top-down and bottom-up) และแนวนอน (ในชุมชนด้วยกันเอง) ตอนที่ทุกคนออกมาช่วยกันเก็บกวาดขยะนี่ก็ชอบมาก มันแสดงให้เห็นว่าเออนี่ชุมชนเค้าเข้มแข็งมันเป็นแบบนี้ แบบที่ทุกคนมองว่านี่คือหน้าที่ของตัวเอง
และที่แอดชอบมากคืองานเลี้ยงผู้สูงวัย นี่สะท้อนให้เห็นความสำคัญและคุณค่าของผู้สูงวัย ในแง่นี้หมายถึงการมีอยู่และเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ไม่ใช่แค่เรื่องของความอาวุโสเท่านั้น (เมืองที่แอดเคยไปเที่ยวและเห็นว่าให้ความสำคัญกับผู้สูงวัยคือที่ไต้หวัน เพราะเค้ามีนโยบายให้คนวัยเกษียณมาทำงานอาสาสมัครตามสถานีรถไฟและที่ต่างๆ ซึ่งแอดมองว่าดีมาก)
ส่วนที่จะไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้คือถุงผ้าคลุมกระเป๋านักเรียนสีสะท้อนแสงกับป้ายกลมๆ ที่มีเลข 30 อยู่ด้านบนใน Ep.1 แอดมองว่าคนคิดแคมเปญ​นี้ไอเดียดีมากๆ ความหมายของถุงคลุมกระเป๋านี้คือการบอกให้คนขับรถมีความระมัดระวัง และขับไม่เกิน 30 เมื่อเห็นสัญลักษณ์​นี้เพื่อป้องกันไม่ให้ขับรถชนเด็กๆ ที่ใช้การเดินเท้าเพื่อไป-กลับโรงเรียน
1
นอกจากนี้เรายังชอบตรงที่ซีรีส์แฝงประเด็นเรื่อง ความเท่าเทียมทางเพศ​ไว้อีกด้วยเพราะผู้นำชุมชนที่เป็นผู้หญิงนี่มีความแข็งแกร่ง ชัดเจน และมีภาวะผู้นำสูงมากๆ
1
ประเด็นการอยู่ร่วมกันของสังคมมนุษย์​น่าจะเป็นเรื่องที่ชัดที่สุดเลย นางเอกจากที่คุ้นชินกับความเป็นปัจเจคบุคคล ความทันสมัย วัตถุนิยม เรียกได้ว่ามองจากที่ไกลๆ ก็รู้ว่าเป็นคนเมือง เมื่อมาอยู่ในสังคมที่มีการเกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่นแบบนี้ ครั้นจะใช้ชีวิตแบบเดิมก็คงจะอยู่ร่วมกันกับคนอื่นไม่ได้ คลีนิคของคุณหมอยุนน่าจะเจ๊งแน่นอนค่ะ
นี่ที่พูดมาทั้งหมด คือการเล่าจากที่เห็นใน 2 ep แรกเองค่ะ คิดว่าถ้าดูต่อไปเรื่อยๆ น่าจะมีไรมาเล่าได้อีกเยอะ โดยสรุปคือแอดชอบมากค่า
โฆษณา