"นกดีต้องรู้จักเลือกกิ่งไม้เกาะ คนฉลาดต้องรู้จักเลือกนาย"
ในสามก๊ก ชื่อ เตียวสง หลายท่านอาจจะจำไม่ค่อยได้ แต่เป็นบุคคลสำคัญที่เปิดประตูให้เล่าปี่เข้าสู่เสฉวน และยึดเป็นอาณาจักรจ๊กก๊ก กลายเป็นหนึ่งในสามก๊กได้ในภายหลัง
ก่อนที่เล่าปี่จะได้ครองแคว้นเสวน มีเจ้าเมืองเมืองฮันต๋ง ชื่อ เล่าเจี้ยง กำลังจะถูกรุกรานจาก เตียวฬ่อ เจ้าเมืองฮั่นจง จึงคิดหาให้คนมาช่วยขจัด จึงส่งเตียวสงไปเป็นผู้ชักจูงแม่ทัพนายกองที่มีความสามารถมาช่วยให้เล่าเจี้ยงพ้นภัย
เตียวสงเองเป็นคนเก่งฉลาด เขามุ่งหน้าไปหาโจโฉ เพราะตอนนั้นถือว่าโจโฉเข้มแข็งและยิ่งใหญ่มาก
ถึงแม้เตียวสงเป็นคนดีมีสติปัญญา แต่ทว่าโจโฉกลับไม่ชอบเตียวสงเอาเสียเลย ทั้งด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ไม่ชวนน่ามองและกิริยาท่าทางการพูดจาที่ดูโอ้อวด โจโฉไล่เตียวสงออกจากเมืองอย่างน่าอับอาย
ระหว่างทางกลับเสฉวน ต้องผ่านเมืองเกงจิ๋ว ซึ่งตอนนั้นเล่าปี่เป็นเจ้าเมืองอยู่ ขงเบ้งทราบข่าวว่าเตียวสงกำลังผ่านมาทางนี้ จึงจัดแจงให้เล่าปี่ออกไปรับที่ประตูเมือง แล้วเลี้ยงดูเป็นอย่างดี 3 วัน 3 คืน ไม่เอ่ยถึง “ของสำคัญ” ที่ติดตัวเตียวสงแม้แต่นิดเดียว ซึ่งก็คือ “แผนที่แคว้นเสฉวน”
แคว้นเสฉวนถือว่ามีความซับซ้อนจากภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูง คล้ายกับเป็นป้อมปราการธรรมชาติ การที่คนนอกแคว้นจะเข้าไปรุกราน จึงเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ในสมัยนั้น
ดังนั้น แผนที่แคว้นเสฉวนถือเป็นสมบัติล้ำค่าในการเข้าครอบครองดินแดนแห่งนี้
เตียวสงเป็นคนเฉลียวฉลาด ถึงแม้จะทำงานกับเล่าเจี้ยง แต่เล่าเจี้ยงเป็นผู้นำที่ไม่เก่ง ไม่สามารถปกครองเมืองและลูกน้องต่อไปในภายภาคหน้าได้ จึงคิดอยู่เสมอว่ามีโอกาสก็ต้องหานายดีไว้เช่นกัน
เมื่อถึงวันกลับ เล่าปี่ออกมาส่งเตียวสงที่นอกเมือง จนสุดท้ายก่อนจะต้องแยกจากกัน เตียวสงได้มอบแผนที่แคว้นเสฉวนให้เล่าปี่อย่างเต็มใจ และบอกแผนการที่จะแปรพักตร์เข้าด้วยเล่าปี่ พร้อมกับทหารเอกคนสำคัญของจ๊กก๊กในอนาคตอีก 2 คน คือ หวดเจ้ง และ เบ้งตัด อีกด้วย
ในครั้งนี้ ถือว่าเล่าปี่ได้ใช้จุดแข็งของตัวเองอย่างเหมาะสมที่สุดในการซื้อใจผู้อื่น เขาให้เกียรติเตียวสงอย่างที่สุด ซึ่งแทบจะถือได้ว่าเป็น Competitive Edge ของเล่าปี่ที่ถูกใช้ ถูกที่ ถูกเวลา และ ถูกคน ก็ว่าได้ (ต้องให้เครดิตขงเบ้งที่มองสถานการณ์ได้อย่างทะลุปุโปร่ง)
ภายหลังเล่าปี่ได้ครองแคว้นเสฉวน สถาปนาตนเองเป็นพระเจ้าเล่าปี่ อย่างที่เราทราบกัน
เล่าปี่บุกแคว้นเสฉวนครองจ๊กก๊กได้สำเร็จ จุดเริ่มต้นจากการช่วยเหลือของเตียวสง
อันที่จริง สุภาษิตสอนใจจากนิทานอีสปตอนหนึ่งที่ว่า อย่าทำตัวเป็น “กบเลือกนาย” ซึ่งก็คือ ไม่ชอบเจ้านายคนนี้ ก็ขอเปลี่ยนไปเรื่อย หาเจ้านายที่เราคิดว่าเหมาะอยู่นั่น สุดท้ายก็ไม่ได้อยู่ดี แต่ควรจะพยายามอยู่กับเจ้านายปัจจุบันให้ดีที่สุด
นิทานอีสปเอาไว้สอนเด็กๆ ให้ทำปฏิบัติ มีคุณธรรมสอนใจแนบท้ายแบบเข้าใจง่าย ตรรกะไม่ซับซ้อน
แต่พอเราโตขึ้น ได้เจออะไรมากขึ้น ก็มีมุมมองต่างจากนิทานเรื่องนี้ครับ
อย่างสามก๊กเอง ก็กล่าวถึง “ผู้นำที่ดีต้องเสาะแสวงหาคนเก่ง” เช่น การที่เล่าปี่ไปเยือนกระท่อมน้อยของขงเบ้งถึง 3 ครั้ง อันโด่งดัง หรือ โจโฉสร้างกลอุบายเพื่อให้ได้ ชีซี ที่ปรึกษาคนเก่งของเล่าปี่มาอยู่ด้วย
และ “คนเก่งก็ต้องเสาะแสวงหาเจ้านายที่ดี” เช่นเดียวกัน เช่น ตอนที่ กุยแก ออกจากอ้วนเสี้ยวมาหาโจโฉ หรือ ตอนที่เตียวสง มอบแผนที่แคว้นเสฉวนให้เล่าปี่ (ตามที่กล่าวไปข้างต้น)
ทั้งสองเรื่องนี้ดูขัดกัน แต่ผมว่านำมาประยุกต์กับชีวิตจริงแบบนี้ครับ
เวลาเกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิต ในขั้นแรกผมเตือนตัวเองให้คิดอยู่เสมอว่า เพราะเรายังมีความสามารถไม่ถึงเองหรือเปล่า เจ้านายเขาเป็นคนดีคนเก่ง อย่าทำตัวเป็น “กบเลือกนาย” ลองปรับตัวเองก่อน
แต่ก็ไม่ได้ให้นิทานอีสปเรื่องนี้มาครอบเงาความคิดเราไปตลอดครับ
หากลองปรับตัวไปสักพักแล้ว แต่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ผมจะเริ่มออกไปเสาะแสวงหาเจ้านายคนหรือองค์กรที่เรามองเห็นว่า มีวิสัยทัศน์ไปในทิศทางเดียวกัน ให้คุณค่าในสิ่งที่ทำแบบเดียวกัน และที่สำคัญมีความเชื่อในศักยภาพของเรา
ผมใช้เวลาเสาะหาครับ ไม่ต่างอะไรกับขุนศึกในสามก๊กหาเจ้านายดีๆ ถ้ายังหาไม่เจอ หรือเจอแล้วยังไม่ลงตัว ก็ต้องเสาะหาต่อไปครับ
เมื่อเจอแล้วก็เปรียบเทียบครับ แล้วผมเชื่อว่าจะพบคำตอบที่เหมาะสมให้ดีที่สุดให้กับเราเอง
ยิ่งในยุคนี้ ผมเชื่ออย่างยิ่งว่า “นกดีต้องรู้จักเลือกกิ่งไม้เกาะ คนฉลาดต้องรู้จักเลือกนาย” ครับ
- 19
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
