9 ต.ค. 2021 เวลา 08:55 • กีฬา
จอดรถบัสคอลัมน์: ในโลกฟุตบอลมีเงินอย่างเดียวซื้อความสำเร็จได้จริงไหม ?
ท่ามกลางข่าวการเทคโอเวอร์สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ของกลุ่มทุน พับลิค อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ (PIF) กองทุนเพื่อความมั่งคั่งของซาอุดิอาระเบีย ที่มีเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯ เป็นประธาน โดยทำการเทคโอเวอร์ดีลมูลค่า 300 ล้านปอนด์ จากไมค์ แอชลีย์ เจ้าของคนเก่าได้สำเร็จ หลังจากยืดเยื้อกันมากว่า 18 เดือน ส่งผลให้นิวคาสเซิลกลายเป็นสโมสรที่มีเจ้าของทีมรวยที่สุดในโลก โดยมีทรัพย์สินกว่า 3.2 แสนล้านปอนด์ หรือ 14 ล้านล้านบาท มากกว่าอีก 19 ทีมในพรีเมียร์ลีกรวมกันเสียอีก
ผลของการเทคโอเวอร์ครั้งนี้ ทำให้แฟนบอลของนิวคาสเซิลกลับมาชุ่มชื่นหัวใจอีกครั้ง หลังจากจมอยู่กับไมค์ แอชลีย์มากว่า 14 ปี จากทีมใหญ่ที่มีประวัติศาสตร์ มีนักเตะอย่างอลัน เชียร์เรอร์ จนไปวนเวียนอยู่กับการเป็นทีมกลางตาราง เล่นแค่อยู่รอดไปวันๆ แถมบางปีไม่รอด ต้องตกชั้นไปก็มี
ด้วยเม็ดเงินมหาศาลขนาดนี้ ทำให้หลายๆ คนเริ่มฝันถึงการซื้อนักเตะระดับโลกมาร่วมทีม อย่าง แฮรี่ เคน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, คีเลี่ยน เอมบัปเป้, เออลิ่ง ฮาแลนด์, เควิน เดอ บรอยน์ และไปสู่การขึ้นเป็นทีมระดับลุ้นแชมป์ในอนาคตอันใกล้
แต่เดี๋ยวก่อน .. แค่มีเงินอย่างเดียว จะทำแบบนั้นได้เลยจริงหรอ ?
เราไปดูกรณีศึกษาของทีมๆ นึง ที่เคยตกถึงน้ำมันและใช้เงินมหาศาลพาตัวเองจากทีมกลางตาราง ไปสู่แชมป์พรีเมียร์ลีกและเป็นทีมที่ดีที่สุดในลีกปัจจุบัน นั่นคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ถูกเทคโอเวอร์โดยกลุ่มทุนจากอาบูดาบี ของ ชีค มานซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน ในฤดูกาล 2008/2009 ต่อจากลุงโทนี่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนักการเมืองชื่อดังชาวไทย การเข้ามาท่านชีคทำให้แมนซิตี้กลายเป็นทีมที่รวยอันดับต้นๆ ของลีก และพร้อมจะทุ่มเงิน เพื่อพาทีมขึ้นไปสู้กับเหล่าบิ๊ก 4 ในขณะนั้น (แมนยู, ลิเวอร์พูล, เชลซี, อาร์เซน่อล) เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับนิวคาสเซิล เราจะมาดูโมเดลการทำทีมของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในแต่ละฤดูกาลกัน
- - -
ฤดูกาล 2008/2009 :
แมนซิตี้ เริ่มโมเดลการซื้อตัวนักเตะจากกลุ่มที่ถูกโละมาจากทีมใหญ่และผู้เล่นดาวรุ่งที่มีศักยภาพ พร้อมโละนักเตะเก่าๆ ออก แต่ยังใช้ผู้จัดการทีมคนเดิมอยู่
ผู้เล่นที่ซื้อเข้า: ฌอห์น ไรท์ ฟิลิปป์, ทาล เบน ฮาอิม และเวห์น บริดจ์ จากเชลซี, โรบินโญ่ จากเรอัล มาดริด, เคร็ก เบลลามี่ จากเวสต์แฮม, แวงซอง กอมปานี และไนเจล เดอ ยอง จากฮัมบูร์ก, พาโบล ซาบาเลต้า จากเอสปันญ่อล, โจ จากซีเอสเคเอ มอสโก
ผู้เล่นที่ขายออก: โจวานนี่, ซุน จีไห่, แบร์ราโด้ คอร์ราดี้, จอร์จอส ซามาราส, โรลันโด้ เบียงคี่ และเวดราน ชอลูก้า
ผู้จัดการทีมในขณะนั้น: มาร์ค ฮิวจ์
ในฤดูกาลนี้แมนซิตี้ จบอันดับ 10 ในลีก และไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในยูฟ่า คัพ (ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ในปัจจุบัน)
- - -
ฤดูกาล 2009/2010:
แมนซิตี้มีจุดเปลี่ยนสำคัญคือการเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมเป็น โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่ประสบความสำเร็จ คว้าแชมป์กัลโช่ ซีเรีย อา กับอินเตอร์ มิลาน มาก่อน
ผู้เล่นที่ซื้อเข้า: แกเร็ธ แบร์รี่ จากแอสตัน วิลล่า ที่ติดทีมชาติอังกฤษแล้ว, โรเก้ ซานตา ครูซ จากแบล็คเบิร์น, เอมมานูเอล อเดบายอร์ ที่กำลังพีคและโคโล ตูเร่ จากอาร์เซน่อล, ปาทริค วิเอร่า จากอินเตอร์ มิลาน, อดัม จอห์นสัน จากมิดเดิลสโบรห์ เป็นปีกดาวรุ่งพุ่งแรงชาวอังกฤษในขณะนั้น และคาร์ลอส เตเวซ จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของดีมากๆ ที่ตอนนั้นแมนยูไม่เอา
ผู้เล่นที่ขายออก: ดาริอุส วาสเซล, ดาเนียล สเตอริดจ์, เอลาโน่, ทาล เบน ฮาอิม, ริชาร์ด ดันน์
ผู้จัดการทีมในขณะนั้น: โรแบร์โต้ มันชินี่
ในฤดูกาลนี้แมนซิตี้ จบอันดับ 5 ในลีก ได้ไปเล่นยูโรป้า ลีก ในฤดูกาลถัดไป และเกือบที่จะไปยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกได้แล้ว
- - -
ฤดูกาล 2010/2011:
หลังจากได้ไปยูโรป้า ลีกและมีผู้จัดการทีมเป็นโรแบร์โต้ มันชินี่ แล้ว ทำให้แมนซิตี้สามารถซื้อนักเตะดีๆ ที่ดีกรีสูงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดมาเสริมทัพ จนพาทีมไปยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกได้ในที่สุด
ผู้เล่นที่ซื้อเข้า: เจอโรม บัวเต็ง กองหลังจากฮัมบูร์ก, ยาย่า ตูเร่ นักเตะชุดแชมป์ UCL ของบาร์เซโลน่า แต่มีปัญหากับเป๊ป, เจมส์ มิลเนอร์ จากแอสตัน วิลล่า, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, มาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้าดาวรุ่งฝีเท้าดีจากอินเตอร์, ดาวิด ซิลบา ปีกฟอร์มโหดจากบาเลนเซียที่เพิ่งคว้าแชมป์โลกกับสเปน และเอดิน เชโก้ กองหน้าดาวซัลโวจากบุนเดสลีก้า ที่พาโวล์ฟบวร์กโค่นบาเยิร์นลงได้
ผู้เล่นที่ขายออก: เบนจานี่ เอมวารูวารี, มาร์ติน เปตรอฟ, วาเลรี่ โบยินอฟ, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, โรบินโญ่
ผู้จัดการทีมในขณะนั้น: โรแบร์โต้ มันชินี่
ในฤดูกาลนี้แมนซิตี้ จบอันดับ 3 ในลีก ได้ไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
เราจะพักกันตรงนี้ก่อน .. ใน 3 ฤดูกาล เราเห็นพัฒนาการอะไรจากแมนซิตี้บ้าง นับตั้งแต่การถูกเทคโอเวอร์
แมนซิตี้ เริ่มจากโมเดลการซื้อนักเตะที่ถูกโละจากทีมใหญ่และดาวรุ่งพุ่งแรงและผู้จัดการทีมอย่างมาร์ค ฮิวจ์ ไปสู่การใช้ผู้จัดการทีมที่ดีกรีสูงกว่าอย่าง โรแบร์โต้ มันชินี่ และสามารถเข้าแย่งชิงนักเตะฝีเท้าดีกับทีมใหญ่ๆ ได้แล้ว ทั้งดาวิด ซิลบา, เอดิน เชโก้, ยาย่า ตูเร่ และสามารถไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกได้สำเร็จ
จุดนี้แหล่ะ การได้ไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เป็นพลิกผันที่สำคัญที่สุด ในการดึงดูดผู้เล่นระดับสตาร์ได้
- - -
ฤดูกาล 2010/2011:
ในที่สุดแมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็ไปถึงแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในที่สุด นอกจากการสร้างทีมอย่างถูกทางแล้ว ทีมบิ๊ก 4 ในขณะนั้นหลายๆ ทีมเริ่มเข้าสู่จุดตกต่ำ อย่างลิเวอร์พูลในยุครอย ฮ็อดจสัน, เชลซีปีสุดท้ายของอันเช่, อาร์เซน่อล ยุคที่เสริมทีมได้ไม่เต็มที่จากการสร้างเอมิเรตส์ สเตเดียม ทำให้คู่แข่งมีเพียงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และปีที่เกิดหนึ่งตำนานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพรีเมียร์ลีก นั่นคือ Agueroooooooooo !! 90+4
ผู้เล่นที่ซื้อเข้า: กาแอล กลิชี่ และซาเมียร์ นาสรี่ ตัวหลักของอาร์เซน่อล, สเตฟาน ซาวิช, เซร์คิโอ อเกวโร่ กองหน้าที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดคนนึงในยุโรป จากแอตเลติโก้มาดริด
ผู้เล่นที่ขายออก: ฟิลิปเป้ ไซเซโด้, ปาทริค วิเอร่า, เจอโรม บัวเต็ง, โจ, เคร็ก เบลลามี่, ฌอห์น ไรท์ ฟิลิปป์
ผู้จัดการทีมในขณะนั้น: โรแบร์โต้ มันชินี่
ในฤดูกาลนี้แมนซิตี้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก !! ใช้เวลา 4 ฤดูกาล หลังการถูก
เทคโอเวอร์โดยกลุ่มทุนจากอาบูดาบี
- - -
หลังจากนั้นแมนซิตี้ก็สามารถยึดท๊อป 4 ของพรีเมียร์ลีกได้อย่างต่อเนื่อง และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อีกครั้งในยุคการคุมทีมของมานูเอล เปเยกรินี่ และครองความยิ่งใหญ่ในอังกฤษได้ จนถึงจุดนึงที่ฝ่ายบริหารของแมนซิตี้ต้องการแชมป์ระดับยุโรป อย่างแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก จึงได้ทาบทามเป๊ป กวาดิโอล่า เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมจนมาเป็นแมนซิตี้ ทีมที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกในปัจจุบัน
แม้ว่าแมนซิตี้จะยังไม่สามารถคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกได้ แต่หากเรามองย้อนไปเมื่อปี 2008/2009 จากวันแรกที่ถูกเทคโอเวอร์โดยกลุ่มทุนจากอาบูดาบี แมนซิตี้ถือว่ามาได้ถูกทางมากๆ คว้าแชมป์ได้ต่อเนื่อง และได้สร้างมาตรฐานใหม่ๆ ให้พรีเมียร์ลีกอีกมากมาย
ย้อนกลับไปที่คำถามแรก “ในโลกฟุตบอลมีเงินอย่างเดียวซื้อความสำเร็จได้จริงไหม” หากทุกทีมมีเงินเยอะแบบแมนซิตี้ จากประสบความสำเร็จแบบแมนซิตี้ไหม หรือวันนี้ที่นิวคาสเซิลมีเงินมากกว่าแมนซิตี้มากมาย จะประสบความสำเร็จได้เร็วกว่าและมากกว่าไหม
ต้องยอมรับว่าแมนซิตี้เป็นทีมที่สร้างทีมอย่างถูกทางและจังหวะเวลาเหมาะสม นั่นคือการล่มสลายลงของบิ๊ก 4 ในขณะนั้น และจุดพลิกผันที่สำคัญที่สุดในการดึงดูดผู้เล่นฝีเท้าระดับซุปเปอร์สตาร์ได้ นั่นคือการได้ไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
อีกหนึ่งกรณึศึกษาคือ เอฟเวอตัน ที่ถูกเทคโอเวอร์โดย ฟาฮัต โมริชี่ มหาเศรษฐีชาวอิหร่าน โดยโมชีรี่ทุ่มเงินให้เอฟเวอตันเสริมทัพอย่างมหาศาล
โดยเอฟเวอตันเสริมทัพด้วยโมเดลคล้ายกับแมนซิตี้ คือนักเตะที่ถูกโละจากทีมใหญ่อย่าง เวย์น รูนี่, ธีโอ วัลคอต, อังเดร โกเมส, ลูก้า ดีญ, ฮาเมส โรดริเกซ, อัลลัน และดาวรุ่งที่มีศักยภาพอย่าง โดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน, ไมเคิล คีน, ริชาร์ลิซอน
แต่ที่แตกต่างกันคือ เอฟเวอตัน ไม่สามารถไปสู่จุดพลิกผันคือการไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกได้ จึงทำให้ไม่ดึงดูดพอที่จะเสริมทัพนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์ได้ จนยังคงวนเวียนทีมระดับลุ้นยูโรป้าลีกอยู่ในปัจจุบัน ด้วยนักเตะอย่างดีมาราย เกรย์ หรือเอนดรอส ทาวเซ่น
จุดพลิกผันของยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก สำคัญขนาดไหน เราลองไปดูปารีส แซงต์ แชร์กแมง อีกหนึ่งทีมที่ถูกเทคโอเวอร์โดยกลุ่มทุนจากการ์ตา
ในฤดูกาลแรกที่กลุ่มทุนการ์ตา เทคโอเวอร์เปแอสเช มา ทีมได้ไปเล่นยูโรป้าลีก สามารถเสริมทัพด้วยโมเดลนักเตะแบบเดียวกัน คือนักเตะที่ถูกโละจากทีมใหญ่อย่าง โมฮาเหม็ด ซิสโซโก้, ติอาโก้ ม็อตต้า, แม็กเวลล์, เฌเรมี่ เมเนซ และดาวรุ่งที่มีศักยภาพอย่าง ฮาเวียร์ ปาสตอเร่, เควิน กาเมโร่, แบลส มาตุยดี้
โดยฤดูกาลนี้จบอันดับ 2 ได้ไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
หลังจากได้ไปเล่นยูฟ่า แชมเปียส์ ลีกแล้ว เปแอสเชสามารถเสริมตัวผู้เล่น อย่าง เอเซลเกล ลาเวสซี่ ของรักของหวงจากนาโปลี, ติอาโก้ ซิลวาและซลาตัน อิบราฮิโมวิช จากเอซี มิลาน, ลูคัส มูร่าจากเซา เปาโล จนเป็นแชมป์ลีกเอิงในที่สุด
จากนั้นปแอสเชก็ติดเครื่องยาวๆ โดยเราจะเห็นนักเตะระดับสตาร์มากมายทยอยเข้ามา อย่างเอดินสัน คาวานี่, มาควินยอส จนมาถึงยุคเนย์มาร์ เอมบัปเป้ และลีโอเนล เมสซี่ ในฤดูกาลล่าสุด
ย้อนกลับมาที่นิวคาสเซิล ต่อจากนี้เราจะได้เห็นการเสริมทัพด้วยโมเดลแบบเดียวกันอย่าง นักเตะที่ถูกโละจากทีมใหญ่และดาวรุ่งที่มีศักยภาพไปก่อน ในตลาดนักเตะปัจจุบัน อาจจะนึกถึงชื่อของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อารอน แรมซีย์, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค
จนกว่านิวคาสเซิลจะพาทีมถึงจุดพลิกผันสำคัญอย่างยูโรป้า ลีก และแชมเปียนส์ลีก ให้ได้ ถึงจะมีโอกาสคว้านักเตะระดับท๊อปของโลกได้ รวมไปถึงผู้จัดการทีมระดับท๊อปด้วย ถึงจะเป็นจุดตัดสินว่า สุดท้ายแล้วนิวคาสเซิลจะไปในเส้นทางเดียวกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้หรือไม่ หรือจะวนอยู่ในระดับเดิมแบบเดียวกับเอฟเวอตัน
เราอาจจะพอเห็นภาพว่าในยุคนี้ เงินอย่างเดียวอาจจะซื้อความสำเร็จไม่ได้ทันที ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องรอดูต่อไป อาจจะใช้เวลา 3-4 ปี แต่สำหรับชาวทูนอาร์มี่อย่างแฟนบอลนิวคาสเซิลตอนนี้ อย่างน้อยพวกเขาก็มีความหวัง โดยขอให้ทีมรอดตกชั้นในฤดูกาลนี้ให้ได้ แล้วก็ขอใครซักคนมาคุมทีมแทนสตีฟ บรูซ ก่อน ค่อยว่ากันอีกที ..
- - -
ติดตามในช่องทางอื่นได้ที่
Facebook: จอดรถบัส - Park the Bus
โฆษณา