10 ต.ค. 2021 เวลา 04:39 • ท่องเที่ยว
Turkey (10) .. ม้าไม้แห่งเมือง Troy ... ตำนานเมืองทรอย และกลศึกม้าไม้ที่โด่งดัง
ตุรกี .. เป๋นชาติที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน จึงเต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งตำนาน ตั้งแต่ยุคที่เป็นอาณาจักรอนาโตเลียเมื่อหลายพันปีก่อน จากนั้นถูกปกครองจักรวรรดิไบเซนไทน์ บ้านเมืองแปรเปลี่ยนไปเป็นแบบกรีก-โรมัน แล้วมาเป็นรัฐอิสลาม แล้ว และเรากำลังตื่นเต้นที่จะได้เห็น “ม้าไม้แห่งเมือง Troy”
ก่อนจะไปเที่ยวชมโบราณสถาน และม้าไม้แห่งทรอยที่โด่งดัง เราแวะไปทานอาหารที่ภัตตาคารที่มีชื่อเสียงในท้องที่ก่อนค่ะ
เมืองนี้ตั้งอยู่ใกล้ทะเลที่สวยงาม .. ร้านอาหารที่เราเลือกก็ตั้งอยู่บนหาด อันเป็นส่วนหนึ่งของทะเล เราสามารถที่จะออกไปเดินเล่นก่อน หลังจากสั่งอาหารแล้วและรอเวลาก่อนการเสริฟ .. บรรยากาศบนหาดแม้จะสวยสู้หาดทรายขาวเนียนเหมือนแป้งที่บ้านเราไม่ได้ แต่ก็ให้ความรู้สึกสดชื่นของลมเย็นๆที่พัดผ่านมากระทบผิวกายในวันที่อากาศร้อนได้ดีค่ะ
อาหารที่ฉันสั่ง ... ปลาที่เป็น Main dish รสชาติอร่อยดีค่ะ
Troy .. เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่ครั้งโบราณเมื่อราวสี่พันปีมาแล้ว ที่เกิดการรบพุ่งของกองเรือกรีกกว่า 1200 ลำ แล่นข้ามทะเลอีเจี้ยน มาขึ้นฝั่งที่เมืองทรอย พร้อมไพร่พลกว่า 144000 นาย ที่ได้พยายามตีทรอยอยู่นานก็ไม่สำเร็จ เพราะทรอยได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีกำแพงแข็งแกร่งที่สุด .. เมืองที่ยืนยง ตีไม่เคยแตก
“ม้าไม้แห่งเมือง Troy” .. ม้าไม้ศึกอันเป็นกุญแจดอกสำคัญญสำหรับเปิดออกไปทำลายเมืองทรอยจนย่อยยัย .. ณ เวลานี้ ได้ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าของเราแล้ว
.. ว่ากันว่า เป็นม้าไม้ตัวเดียวกันกับที่ใช้แสดงในภาพยนตร์ ที่ถูกส่งมอบไว้เป็นที่ระลึกให้กับชาวเมืองทรอย เพื่อบอกเล่าหน้า
ประวัติศาสตร์ให้ผู้คนจากทุกมุมโลกได้รับรู้ ...
เป็นม้าไม้สูงมากกว่าสิบเมตร ยืนตระหง่านอยู่ที่หน้าทางเข้าของโบราณสถานแห่งนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่หลงใหลในมหากาพย์อีเลียตได้เห็นด้วยตาของตนเอง หรืออาจจะปีนบันไดเช้าไหปในท้องม้า แล้วโผล่หน้าออกมาทางหน้าต่างให้เพื่อนๆที่อยู่ข้างล่างได้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันอย่างสนุกสนาน ก็ได้
เมืองทรอย ปรากฏอยู่ในโสกนาฏกรรมในยุคกรีกโบราณ เป็นสงครามระหว่างชาวเผ่าอะคีอันส์ หรือเอเดียน กับทรอย หรือโทรจัน
สาเหตุของสงครามกรุงทรอย ... เกิดเมื่อครั้งที่พระมเหสีของกษัตริย์เมนเนลาอุส แห่งรัฐสปาต้า เกิดไปหลงรักเจ้าชายปารีส แห่งทรอย และเจ้าชายปารีสได้พาเฮเลนกลับมาที่เมืองทรอย และจัดการอภิเษกสมรสนในที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ทำให้เสื่อมพระเกียรติกษัตริย์อย่างรุนแรง
กษัตริย์เมนเนลาอุส จึงได้วางแผนร่วมกับกษัตริย์อกาเมนอน ผู้เป็นน้องชาย รวบรวมกำลังพลจำนวนมาก พร้อมกองเรือนับพันลำ ยาตราทัพบุกล้อมเมืองทรอย
สปาต้า มีความต้องการอยากได้กรุงทรอยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เนื่องจากทรอยตั้งอยู่ในชัยภูมิดีเลิศริมช่องแคบดาร์ดะเนลส์ เพื่อช่วยควบคุมเส้นทางเรือเชื่อมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเข้าสู่ทะเลมาร์มารา แล้วเข้าถึงช่องแคบบอสพอรัส ทะลุไปทะเลดำ
... การช่วงชิงเจ้าหญิงเฮเลน แสนสวย จึงเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อก่อสงคราม
กษัตริย์อกาเมนอน ได้เรียกตัว อคิลลิส นักรบผู้เก่งกล้ามาช่วย .. อคิลลิส ต้องการจะสร้างชื่อเสียงไว้ให้เป็นอมตะตลอดกาล จึงตกลงเข้ามาช่วยทำสงคราม
สงครามกรุงทรอย (Trojan War) .. กินเวลานานถึง 10 ปี จนทหารกรีกต้องใช้อุบาย สร้างม้าไม้เมืองทรอย (Trojan Horse) ให้ทหารทรอยคิดว่า กรีกยอมแพ้ และส่งม้าไม้มาเป็นบรรณาการ โดยวางเอาไว้หน้าประตูเมือง
.. ชาวทรอยเปิดประตูเมือง จัดขบวนแห่ม้าไม้ลากเข้าไปในกำแพงเมือง .. พอตกดึก ทหารกรีก ซึ่งรวมถึง อคิลลิส ด้วย ที่ซ่อนตัวอยู่ในท้องม้า ก็ออกมาเปิดประตูเมืองให้ทัพกรีกเข้าไปเผาทรอยราบเรียบ ฆ่าผู้คนตายเกือบหมด เหลือไว้แค่เด็กและผู้หญิงเอาไปขายเป็นทาส .. นักโบราณคดีประมาณว่า ช่วงเสลานั้นอยู่ในปีที่ 194-1184 ก่อนคริสตกาล
ตำนานแห่งเมืองทรอย เป็นแรงบันดาลใจให้ มหากวีโฮมเมอร์ (กวีตาบอดที่มีพรสวรรค์ในการหยั่งรู้ย้อนหลังเข้าไปในช่วงบรรพกาล เขามีชีวิตอยู่ในช่วง 850 BC ในขณะที่หลักฐานทางโบราณคดี บอกว่าทรอยมีอายุย้อนหลังไปได้ถึง 3000 ปี BC) ได้รจนามหากาพย์เรื่อง อีเลียต ขึ้นมา .. เป็นมหากาพย์ของสงครามศึกชิงนาง ที่นำไปสู่การนองเลือด และการล่มสลายของทรอย
ตัวละครในมหากาพย์อีเลียต ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในมรดกวรรณคดีของโลก .. ชะตากรรมของตัวละครเหล่านั้นตราตรึงในใจของผู้คนมาหลายชั่วอายุคน
การค้นพบเมืองทรอยในศตวรรษที่ 19
ในช่วงปี 1871-1873 ไฮน์ริช ชลีมันน์ ได้ขุดค้นเมืองทรอย โดยยึดตามมหากเพย์อัเลียต (และการขุดค้นครั้งก่อนๆ) .. เขาได้ค้นพบสมบัติ เช่น สร้อยคอ จอกทองคำ กริชทองแดง และมงกุฎทองคำที่งดงาม จนอาจจะเชื่อได้ว่า สิ่งของเหล่านั้นน่าจะเป็นของราชวงศ์ชั้นสูง
.. ว่ากันว่า ความจริง ไฮน์ริช ชลีมันน์ ไม่ได้ค้นพบเมืองทรอย แต่เป็นอารยธรรมยุคสัมฤทธิ์ก่อนประวัติศาสตร์เมื่อราวหนึ่งพันปีก่อน
TROY .. กลายเป็นเมืองที่มีคนรู้จักไปทั่วโลก เมื่อฮอลลีวูดลงทุนปลุกปั้นให้เมืองทรอยกลับมาโลดแล่นมีชีวิตอีกครั้ง ผ่านจอภาพยนตร์ในชื่อเรื่อง TROY
เราเดินชมซากและร่องรอยของเมืองที่เหลืออยู่ ..
การเดินชมเริ่มจากหอคอยใหญ่ในเขตกำแพงเมืองยักษ์ของทรอยยุคที่ 6 แล้วเดินต่อไปทางประตูตะวันออก ผ่านบ้านเรือนในกรุงทรอยยุคที่ 6 และ 7
เมื่อถึงยอดเนิน .. มองลงมาตรงที่ราบ จะเห็น “ท้องทะเลสีไวน์” ของโฮมเมอร์
เมื่อมองดูแนวเหนือ-ใต้ ที่ไฮน์ริช ชลีมันน์ มาขุด .. ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทางลาดที่ปูพื้นอย่างดีนี้เองที่ ไฮน์ริช ชลีมันน์ มาขุดค้นขุมทรัพย์ ติดกับแนวกำแพงเมืองยุคที่ 2
เราเดินผ่านกองอิฐและหิน .. สิ่งที่พอจะเห็นชัด และพอจะสื่อถึงความยิ่งใหญ่ของทรอยได้ก็คือ แนวกำแพงหลายชั้น ซึ่งทำให้ข้าศึกไม่มีทางตีเข้ามาในเมืองได้เลย ด้วยเหตุที่ทรอย เป็นนครที่สร้างซ้อนทับกันมาถึง 9 ยุค ในช่วง 3000-3500 ปีตลอดอายุของเมือง
.. บางจุด จะเห็นซากอิฐสมับทรอยยุคที่ 1 เป็นอิฐหยาบๆซ้อนทับด้วยอิฐยุคถัดมาที่ใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น
ภาพของยิมเนเซี่ยม วถานอาบน้ำ และลานโค้งเหมทอยสนามกีฬาขนาดย่อม .. น่าสนใจและน่าประทับใจค่ะ
เราเคยชมภาพยนตร์เรื่อง TROY เกี่ยวกับมหากาพย์นี้มาแล้ว (ไม่ได้ถ่ายทำที่นี่ เพราะไม่ได้รับอนุญาตจากทางการตุรกี แต่ไปถ่ายทำที่เกาะมอลต้า และแม๊กซิโก เป็นหลัก) จึงมีภาพจำของเมืองจากภาพยนตร์ที่เด่นชัด ประทับอยู่ในหัว .. เมื่อได้มาเดินในโลเคชั่นจริง จะรู้สึกไม่ประทับใจมากนัก เพราะสิ่งที่เห็น มีแต่ซากปรักหักพังของเมือง ที่หลงเหลืออยู่จากการเผาทำลาย นอกเหนือไปจากกองซากอิฐหิน ถนน โรงมหรสพ
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลกกับพี่สุ … รวม link บทความที่เขียนในเพจ ..
***เมืองไทย ไดอารี่ by Supawan
***Supawan’s colorful world
***สถานีอร่อย by Supawan
โฆษณา