Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
2read
•
ติดตาม
11 ต.ค. 2021 เวลา 04:41 • ธุรกิจ
"ชวนรู้จักโมเดลธุรกิจ Stockist กระตุ้นยอดขายให้ผู้ประกอบการมือใหม่" ความรู้จากคอลัมน์ Entrepreneur Chat บนแอป 2read
ภาพจาก 123rf
ในฐานะผู้ประกอบการ อยากชวนมาทำความรู้จักโมเดลธุรกิจแบบหนึ่งค่ะ ที่เรียกว่า Stockist
Stockist หรือง่ายๆ คือ หาคนค้าส่งสินค้าของเรา เป็นรูปแบบการกระจายสินค้ารูปแบบหนึ่งโดยมีแพลนการตลาดที่ชัดเจน มีกลุ่มเป้าหมายและโลเคชั่นเปิดขายที่เฉพาะเจาะจงกว่าตัวแทนจำหน่าย (Distributor) ดังนั้น Stockist หรือผู้กระจายสินค้า จึงเป็นอีกปัจจัยอีกหนึ่งที่ช่วยให้ธุรกิจของผู้ประกอบการประสบความสำเร็จได้ดี เพราะคู่ค้าธุรกิจกลุ่มนี้จะเป็นคนกลางช่วยส่งต่อให้สินค้าของแบรนด์เรา ไปถึงมือผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงกลุ่มเป้าหมาย
กล่าวให้เข้าใจง่ายๆ คือ จะดีแค่ไหน ถ้าสินค้าของเรา จะมีคนมาช่วยรับไปค้าส่งและทำตลาดอย่างมีแผนงานชัดเจน ยอดขายจากหนึ่ง จึงได้เติบโตทวีคูณ
เทรนด์การค้าในระบบ Stockist ได้รับความนิยมในกลุ่ม SMEs ต่างประเทศ แต่จะทำอย่างไรให้เราเจอผู้ค้าส่งสินค้าของเราได้ถูกใจ
มาอ่านคำแนะนำจากผู้ประกอบการ 3 แบรนด์สัญชาติออสเตรเลีย ที่จะมาไกด์แนวทางการมองหาผู้กระจายสินค้าให้กับบรรดาผู้ประกอบการหน้าใหม่กัน
Tip 1 ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของตัวเองก่อนส่งต่อให้ Stockist
ก่อนจะหาผู้กระจายสินค้า ผู้ประกอบควรให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ตลาด อย่างน้อยก็เป็นฐานข้อมูลที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้กระจายสินค้าได้เห็นว่า มีกลุ่มเป้าหมายที่พร้อมบริโภคสินค้าชนิดนี้อยู่ ประเด็นนี้ Tracey Bailey ผู้ก่อตั้งร้าน ‘biome’ ร้านค้าสไตล์ Eco-friendly ที่เน้นจำหน่ายสินค้าแนวรักษ์โลกและสนับสนุนสินค้าชุมชน แนะนำว่า เป็นเรื่องที่ดีหากมีการทำข้อมูลการตลาด และยืนยันกับคู่ค้าได้ว่าสินค้าเราสามารถขายต่อได้จริง
ด้าน Michelle Gillies เจ้าของร้าน ‘Nook’ ร้านค้างานคราฟต์ชื่อดังในโลกออนไลน์ เผยว่า เธอจะเลือกทำธุรกิจกับผู้กระจายสินค้าที่อยู่ในโลเคชั่นต่างกัน ป้องกันการสต็อกสินค้าที่คล้ายคลึงกันในละแวกใกล้กันเกินไป
Tip 2 สื่อสารกับ Stockist อย่างเป็นทางการผ่านอีเมล
Emily Green เจ้าของร้าน ‘Pinky’s’ ผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในบ้านแนะนำว่า ผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากการสื่อสารทางอีเมลได้สารพัด โดยเฉพาะการส่งภาพสินค้าตัวอย่างให้ชมแบบหลายชนิด หลายมุมมอง ซึ่งช่วยลดต้นทุนการโปรโมตได้ดี ไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณในการส่งสินค้าจริงให้ทดลอง ขณะที่ Tracey และ Michelle เห็นตรงกันว่าการสื่อสารทางอีเมลนั้นมีความเหมาะสม ไม่ดูเป็นทางการจนเกินไป ลูกค้า (ผู้กระจายสินค้า) ก็รู้สึกดีที่มีช่องทางให้ติดต่อกลับไปยังผู้ผลิตโดยตรง
Tip 3 เน้นการโปรโมตสินค้าทั้ง Option ราคาปลีก และราคาส่ง
ผู้ประกอบการบางเจ้าเป็นทั้งผู้ค้าส่งและค้าปลีกไปในตัวดังเช่น 3 แบรนด์ที่ยกมาแชร์ในครั้งนี้ Michelle เล่าว่า เธอเป็นคนหนึ่งที่สนใจที่มาที่ไปของสินค้าที่จะสั่งซื้อ เช่นว่าผลิตที่ไหน ผู้ผลิตเป็นใคร หากต้องการในปริมาณมากจะมีราคาพิเศษหรือไม่ เธอคิดว่าลูกค้าของเธอก็คงไม่ต่างกัน หากผู้ประกอบการตอบสนองความอยากรู้ส่วนนี้ได้จะทำให้สินค้าได้รับความสนใจยิ่งขึ้นตามไปด้วย และในประเด็นนี้ Emily ได้เสนอ How to ในการสื่อสารกับลูกค้าด้วยการส่งอีเมลโปรโมตสินค้าทั้งในรูปแบบขายปลีกและขายส่งไปพร้อมกันเป็นแพ็กคู่ พร้อมแนบช่องทางการดูหน้าร้านค้าออนไลน์เพิ่มเติม เช่น ลิงก์คลิกไปยังอินสตาแกรม หรือเว็บไซต์ เพื่อให้ลูกค้ารู้จักตัวตนของผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น
Tip 4 อย่ามองข้ามการลงทุนกับภาพประกอบสวยๆ
คิดจะขายสินค้าทั้งที ต้องลงทุนกับภาพสวยๆ มัดใจลูกค้า เพราะเป็นจุดแรกที่ดึงดูดสายตาคนซื้อและคนที่จะมาทำธุรกิจกับเรา ที่สำคัญสามารถนำไปต่อยอดโปรโมตในโลกออนไลน์ให้ปังได้อีกด้วย อย่างที่ biome มีแนวทางการทำงานคือ เน้นใช้ภาพสวยหลากหลายมุม และมีความละเอียดสูงนำมาโปรโมตทางออนไลน์ เป็นการกระตุ้นการสั่งซื้อได้อีกทางหนึ่ง หากมีการเริ่มธุรกิจกับผู้กระจายสินค้าเจ้าใด จะให้มีการใช้ภาพโปรโมตไปในทิศทางเดียวกันทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์
Tip 5 ร่วมกิจกรรมที่จะนำพาให้ผู้ประกอบการและ Stockist มาพบกัน
Emily มักเข้าร่วมงานแสดงสินค้าสำคัญๆ เสมอ เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองได้พบกับผู้กระจายสินค้าที่ใช้งานดังกล่าวเป็นสื่อกลางในการหาคู่ค้าใหม่ๆ ด้าน Tracey เธอมักมีส่วนร่วม Engagement กับโพสต์โปรโมตจากผู้กระจายสินค้า (ของเธอ) ทางสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อแสดงจุดยืนในการทำธุรกิจที่คล้ายคลึงกัน ส่วน Michelle นั้น บ่อยครั้งมักใช้ช่องทางการขายออนไลน์มองหาคู่ค้าที่เป็นผู้กระจายสินค้าและซัพพลายเออร์
นี่อาจเป็นอีกหนึ่งไอเดีย ที่คุณสามารถทำให้ธุรกิจของคุณโตเร็ว ก้าวไปเร็ว ด้วย “ระบบ” ที่ทำให้ธุรกิจเดินหน้าได้ อย่าลืมนะคะว่า เดินคนเดียวเราก็ไปได้เท่าที่เรามีแรงเดิน แต่ถ้าหาตัวแทนจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ ก็ทำให้สองขาที่เราก้าวเดิน มีแรงเดิน และเดินไปได้ไกลมากขึ้น
ลองนำไอเดียนี้ไปต่อยอดกับธุรกิจของคุณดูบ้างสิคะ
เรื่องโดย : วีรภา ดำสนิท
ที่มาข้อมูลและภาพ
https://www.frankie.com.au/article/small-business-tips-how-to-find-a-stockist-545589https://www.instagram.com/nookbrisbane/
https://www.biome.com.au/333-facial-exfoliants
https://pinkysstore.com/collections/make-up
http://www.differencebetween.info/difference-between-distributor-and-stockist
📌อ่านบทความอื่นๆ ในคอลัมน์ Entrepreneur Chat ได้ที่แอป 2read หรือคลิกภาพด้านล่าง
อ่านเพิ่มเติม
2read.digital
Entrepreneur Chat
ชวนคุณผู้อ่านมาสนุกกับโลกของธุรกิจและการตลาด ผ่านสายตาของผู้เขียนที่พ่วงตำแหน่งผู้ประกอบการ Fulltime ขนานกันไป
📲ดาวน์โหลดแอป 2read 👉https://bit.ly/3bQtbiV
✅อ่านง่าย อ่านสะดวก อ่านที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ตามใจต้องการ มีบทฟรีให้อ่าน เลือกอ่านเฉพาะบทที่อยากอ่านก็ได้ ซื้ออ่านทั้งเล่ม (เล่มที่จบแล้ว) ลด 10% ก็ดี๊ดี ใช้เหรียญเงินเปิดอ่านฟรีดีต่อใจ❤️
📚มีทั้งหมวดการลงทุน ธุรกิจ พัฒนาตนเอง ไลฟ์สไตล์ (ประวัติศาสตร์และการท่องเที่ยว) นิยาย การ์ตูน และคอลัมน์หลากหลายเรื่องราวที่น่าสนใจ จากผู้รู้ลึกที่หลงใหลในเรื่องราวนั้นๆ
🎉สมัครสมาชิกกับแอป 2read รับไปเลย 30 เหรียญเงิน ฟรี! เอาไว้ใช้อ่านหนังสือบนแอป 2read
💥อย่าลืมแวะมาอ่านบทความฟรีของ #2readDaily ทุก 7 โมงเช้า
ซึ่งตอนนี้มี 8 คอลัมน์แล้ว สลับกันมาให้อ่านตั้งแต่วันจันทร์ - อาทิตย์เลย
ทั้งคอลัมน์ธุรกิจ หุ้น อสังหาฯ พัฒนาตัวเอง เมืองต่างๆ ประวัติศาสตร์ ตัวละคร และดวง
ชอบเรื่องไหน ก็ตามอ่านกันได้เลยที่แอป 2read ที่เดียว!
#2read #แอปที่มากกว่าการอ่านศูนย์กลางการอัพสกิล
2 บันทึก
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย