12 ต.ค. 2021 เวลา 05:17 • ประวัติศาสตร์
“เบลา คิสส์ (Bela Kiss)” แวมไพร์แห่งฮังการี
1
“เบลา คิสส์ (Bela Kiss)” หรือที่หลายคนเรียกเขาว่า “แวมไพร์แห่งฮังการี” เป็นอีกหนึ่งฆาตกรต่อเนื่องที่โด่งดังในอดีต
1
ประวัติของเขานั้นไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เมื่ออายุได้ 23 ปี คิสส์ก็ได้เช่าบ้านอยู่ในเมืองใกล้ๆ กับบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี โดยเขาได้ทำธุรกิจกระป๋อง และก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
คิสส์เป็นที่รู้จักว่าเป็นสุภาพบุรุษเจ้าเสน่ห์ผู้หนึ่ง และชื่นชอบความสนุกสนาน มักจะจัดงานเลี้ยงที่บ้านเป็นประจำ
และด้วยความที่เป็นคนหน้าตาดี รูปร่างสูง ทำให้หญิงสาวหลายคนสนใจเขา นอกจากนั้น เขายังมีความสนใจในเรื่องราวของดาราศาสตร์และลัทธิต่างๆ อีกด้วย
ในช่วงราวปีค.ศ.1903 (พ.ศ.2446) คิสส์ได้เริ่มวางแผนก่อการฆาตกรรม โดยเขาลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ อ้างว่าตนนั้นเป็นพ่อม่ายที่เปลี่ยวเหงา ต้องการจะหาภรรยา โดยใช้ชื่อปลอมว่า “ฮอฟฟ์แมน (Hoffman)” และล่อให้ผู้หญิงมาติดกับ ก่อนจะหลอกเงินพวกเธอจนหมด
3
ในปีค.ศ.1912 (พ.ศ.2455) คิสส์ได้แต่งงานกับหญิงที่อายุน้อยกว่าตน 15 ปีชื่อ “มารี (Marie)”
แต่ภายหลังจากแต่งงานกันได้ไม่นาน มารีก็นอกใจเขาไปมีความสัมพันธ์กับศิลปินคนหนึ่ง
ภรรยาและชู้รักคือเหยื่อคู่แรกของคิสส์ โดยหลังจากนั้นไม่นาน ทั้งคู่ก็หายตัวไป และคิสส์ก็อ้างว่าภรรยาของเขาได้หนีตามชู้รักไปสหรัฐอเมริกา หากแต่ความเป็นจริง คิสส์ได้รัดคอทั้งคู่จนเสียชีวิตไปแล้ว
ภายหลังจากฆ่ามารี คิสส์ก็ยังคงหลอกล่อผู้หญิงให้มีสัมพันธ์ด้วยและหลอกเงินไปจนหมด ก่อนจะล่อหญิงเหล่านั้นไปยังบ้านของตน และฆ่าด้วยการรัดคอ
เมื่อฆ่าเหยื่อแล้ว คิสส์จะทำการดองศพเหยื่อในถังน้ำมันที่ภายในเต็มไปด้วยเมทานอล และเขายังทำการปาดคอศพเพื่อเอาเลือดออกจากตัวศพให้หมด ทำให้ในภายหลังเขาถูกเรียกว่าเป็น “แวมไพร์ (Vampire)”
ยิ่งนานวัน ถังน้ำมันที่ใช้ดองศพก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคิสส์ก็อ้างว่าเขาตุนน้ำมันเบนซินไว้ เนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 1 กำลังจะเกิดขึ้น จึงตุนน้ำมันไว้ใช้
1
แต่หลายคนก็คิดว่าจริงๆ แล้วเขาแอบตุนเหล้าเอาไว้ ไม่ได้คาดเลยว่าสิ่งที่อยู่ภายในนั้นมันเลวร้ายกว่ามาก
1
เรื่องราวการฆาตกรรมของคิสส์ไม่เป็นที่ทราบของผู้คนเลย จนในปีค.ศ.1914 (พ.ศ.2457) คิสส์ถูกเกณฑ์ทหาร และต้องเข้าร่วมกับกองทัพออสเตรีย-ฮังการีไปสู้รบในสงครามโลกครั้งที่ 1
ภายหลังจากผ่านไปสองปี ก็มีข่าวลือว่าคิสส์นั้นตายไปแล้วหรือไม่ก็ถูกจับกุมโดยฝ่ายตรงข้าม ทำให้เจ้าของบ้านเช่าได้เข้าไปในบ้านของคิสส์เพื่อทำการเก็บของ เตรียมปล่อยให้คนอื่นเช่าต่อ
2
เจ้าของบ้านเช่าได้ลองเปิดถังน้ำมัน และก็ต้องผงะกับกลิ่นเหม็นและซากศพที่เน่า จึงได้เรียกตำรวจ และก็พบว่าคิสส์นั้นฆ่าคนและนำศพมาดองถึง 24 ศพ
2
แต่เนื่องจากช่วงนี้คือช่วงของสงคราม ทำให้การตามจับตัวคิสส์นั้นเป็นไปได้ยาก และถึงแม้ตำรวจจะทำเรื่องไปถึงกองทัพเพื่อขอจับตัวคิสส์ แต่ก็ไม่สามารถตามหาตัวคิสส์เจออีกเลย
จากนั้น ก็มีรายงานการพบเห็นคิสส์ตามที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่โรมาเนีย ตุรกี โดยการพบเห็นครั้งสุดท้ายที่มีรายงาน คือที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในปีค.ศ.1932 (พ.ศ.2475)
1
สุดท้ายแล้ว แวมไพร์แห่งฮังการีผู้นี้ก็ไม่เคยถูกจับกุม และไม่มีใครทราบว่าจุดจบของเขาเป็นเช่นไร
2
โฆษณา