11 ต.ค. 2021 เวลา 14:29 • นิยาย เรื่องสั้น
แว่วเสียงการเวก (กั้งโกบ2)
แว่วเสียงการเวก
(กั้งโกบ2)
หมู่บ้านที่เคยเงียบสงบอยู่กันอย่างปกติสุขต้องเผชิญหน้ากับความน่ากลัวอีกครั้งเมื่อมีคนรุกล้ำเขตหวงห้าม
ในตอนเช้าตรู่ของวันใหม่ไอ้ไม้กับไอ้ใจคู่บัดดี้ขี่มอไซด์ไปตามถนนจนฝุ่นตลบดูท่าทั้งคู่เหมือนเร่งรีบกับจุดประสงค์บางอย่างที่สำคัญยิ่งมอไซด์ทั้งคู่ลัดเลาะไปตามถนนที่คดเคี้ยวเลี้ยวไปมาในดงไม้ที่ท้ายหมู่บ้าน ลึกเข้าไปจนสุดทางแมกไม้น้อยใหญ่เป็นอุปสรรคกับมอไซด์คราวนี้ไอ้ไม้กับไอ้ใจต้องจำใจเดินเข้าไปแทน
เดินไปจนขาล้าทั้งคู่หยุดกึกเพราะภาพตรงหน้าบ่งบอกว่านี่แหละคือจุดหมายไอ้ไม้กับไอ้ใจไม่รอช้าหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเพื่อเป็นหลักฐานสำคัญ ภาพเวิ้งดงต้นลำดวนที่ออกดอกบานสะพรั่งส่งกลิ่นอ่อนๆเย็นรัญจวนกับสายลมหวิวๆที่พัดมาพอให้ใบไม้ไหวเบาๆแลดูวังเวงจนขนลุก
ไอ้ไม้ชวนไอ้ใจเดินย่ำเข้าไปในกลางดงพลางชายตาแลตามพงหญ้ามีร่องรอยคนเดินเหยียบย่ำยาวเข้าไปถึงกลางดงลำดวน พร้อมกันมีรอยเผาไหม้เป็นวงล้อมรอบมีท่อนไม้ขนาดใหญ่ที่ไหม้ดำเป็นตอตะโกถูกวางอยู่กึ่งกลางวงล้อมของรอยไหม้นั้นใกล้ๆกันมีหลุมขนาดใหญ่หากเทียบดูแล้วก็เท่ากับท่อนไม้นั่นพอดีจึงพอจะเดาได้ว่าใครบางคนได้ขุดเอาท่อนไม้ขึ้นมาเผาทำลายเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ไอ้ไม้กับไอ้ใจได้แต่งวยงงกับภาระกิจที่ผู้ใหญ่บ้านรวมถึงคนในหมู่บ้านกลัวนักกลัวหนา มันก็แค่ดงต้นลำดวนธรรมดาๆไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวสักนิด จากนั้นทั้งคู่ก็เดินทางกลับออกจากป่าโดยหารู้ไม่ว่าความน่ากลัวกำลังจะอุบัติขึ้นในอีกไม่ช้า
เวลาพลบค่ำมาเยือนผู้ใหญ่ติซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านประจำหมู่บ้านผางิ้วกำลังนั่งดูรูปที่ไอ้ไม้กับไอ้ใจส่งมาให้พร้อมแสดงสีหน้าที่เป็นกังวลจนป้าสมผู้เป็นเมียทักขึ้นผู้ใหญ่ติเปรยความกังวลออกมาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในป่าลำดวนต้องเป็นฝีมือของไอ้ลุงคนนั้นแน่ๆป้าสมทำหน้าครุ่นคิดว่าลุงคนไหนกันผู้ใหญ่ติยื่นรูปในมือถือให้ป้าสมดูป้าสมถึงบางอ้อทันที
ภาพชายวัย30 ต้นๆผุดขึ้นมาในหัว
สมัยที่ป้าสมกับผู้ใหญ่ติอายุสิบห้าสิบหกกลายๆได้เคยรู้จักมักคุ้นกับชายคนนั้นรวมถึงสาวงามที่อพยพมามียศเป็นถึงเชื้อจ้าวผู้เป็นต้นเหตุของเรื่องราวอันน่าขนพองสยองเกล้าที่เกิดขึ้นในป่าลำดวน พอคิดดังนั้นป้าสมก็ทำท่าลูบแขนปอยๆผู้ใหญ่ติเสริมขึ้นอีกว่า“ไม่เป็นไรหรอกอย่ากลัวไปเลยเพราะคืนนี้มีเรื่องที่น่ากลัวกว่านี้รออยู่ พระธุดงค์รูปนั้นก็ไม่รู้ว่าท่านไปอยู่ที่ไหนคงไม่มีใครสะกดผีร้ายนั่นได้แน่
ป้าสมนึกในใจว่านี่คือคำปลอบใจหรือซ้ำเติมกันแน่
ดึกสงัดชาวบ้านที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวันต่างพากันหลับไหลกันหมดเหลือแต่ไอ้ไม้ยังจดจ่อจับเจ่าอยู่กับคำบอกเล่าของผู้ใหญ่ติที่สั่งให้มานอนที่วัด3วัน3คืนพร้อมสั่งกำชับว่าห้ามขานรับเสียงเรียกจากใครเด็ดขาด
ไอ้ไม้นึกในใจ ‘ถ้าอันตรายขนาดนั้นจะจ้างกูสองคนเข้าไปในดงลำดวนทำไมวะสงสัยกลัวตายเลยส่งพวกกูไปตายแทน’
ไอ้ไม้ทำท่าไม่สบอารมณ์กับเงินเยียวยา5,000 ที่ได้รับมามันชั่งไม่สมกับราคาที่ต้องแลกกับชะตาชีวิตของตัวเองเอาเสียเลยคิดแล้วก็นึกแค้นใจผู้ใหญ่ติที่หลอกให้ตนกับไอ้ใจเข้าไปในดงลำดวนโดยไม่บอกกล่าวแม้แต่น้อยว่ามันจะอันตรายถึงชีวิต ไอ้ไม้ยังคิดพาลไปถึงเพื่อนซี้อย่างไอ้ใจว่าเหตุไฉนจึงไม่ยอมมานอนในโบสถ์ด้วยกันตามคำทัดทานของผู้ใหญ่ติ
ทางด้านไอ้ใจจูงรถมอไซด์ห่างจากบ้านตัวเองไกลพอสมควรก็สตาร์ทรถขับออกไปยังจุดหมายที่ป่าช้าเก่าท้ายหมู่บ้านระหว่างที่ขับรถไปในใจก็คิดเอ็ดตัวเองที่ยอมรับงานแบบนี้ทั้งเสี่ยงทั้งอันตรายไม่ปลอดภัยกับชีวิตตัวเอง ต้องฝืนใจปฏิเสธคำชักชวนจากไอ้ไม้ที่จะให้ไปนอนในโบสถ์เพื่อมาทำเรื่องผิดกฏหมายจะให้ทำยังไงได้ทางเลือกคนเรามันมีไม่มากนักนี่หว่า การรับจ้างส่งยาล็อตนี้คงได้เห็นเงินเยอะกว่าเงินค่าจ้างของผู้ใหญ่ติเป็นไหนๆแต่ลึกๆก็นึกสงสัยในใจว่าทำไมต้องไปนอนที่โบสถ์3วัน3 คืน หลังกลับจากป่าลำดวนไม่ทันได้คลายสงสัยไอ้ใจก็บิดมอไซด์ถึงป่าช้าเก่าท้ายหมู่บ้านพอดี
ไอ้ใจกุลีกุจอคว้าห่อบางอย่างลงจากรถพร้อมผิวปากส่งสัญญาณให้คู่ค้าออกมาแต่ไอ้ใจผิวปากส่งสัญญาณหลายต่อหลายครั้งคู่ค้ารายนั้นก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะโผล่มาซักที ไอ้ใจเริ่มใจไม่ดีนึกในใจว่ากูจะเอี้ยวรถกลับดีป่าววะยังไม่ทันได้ตัดสินใจเสียงไอ้ไม้ทักขึ้นจากทางด้านหลัง
“ไอ้ใจ!!”
ไอ้ใจหันขวับพร้อมขานรับเสียงเรียกนั้น
พอหันกลับไปดันไม่มีไอ้ไม้หรือใครยืนอยู่เลยทั้งๆที่เสียงอยู่ใกล้ๆเสียงอยู่ใกล้และชัดเจนขนาดนี้ไม่มีทางหูฝาดแน่ๆ
ไอ้ใจปอดแหกตัดสินใจทิ้งห่อของสำคัญหันไปหามอไซต์แต่มอไซต์กลับหายไปหน้าตาเฉย ไอ้ใจได้แต่ยืนงงในดงผี แต่แล้ว! มีเรื่องให้ต้องงงมากกว่า
เมื่อเส้นทางที่ขับรถเข้ามากลายเป็นป่าหนาทึบทันใดนั้น! มีเสียงระฆังดังโหง่งเหง่งกังวาลไปทั่วทั้งป่าพร้อมกับเสียงหมาเจ้ากรรมที่พากันหอนขึ้นจนเสียงขรมเสียงอีกาบินผลึบผลับส่งเสียงร้องบนท้องฟ้า เหตุการณ์ในตอนนี้พร้อมที่จะทำให้ไอ้ใจสติแตกได้ทุกเมื่อไอ้ใจเปิดไฟฉายจากโทรศัพท์ถือส่ายฉายไปมา ก่อนที่จะโทรหาไอ้ไม้ พอมองดูมุมซ้ายบนสุดของโทรศัพท์ก็ไม่มีแม้แต่ขีดสัญญาณโทรศัพท์เลย ไอ้ใจได้แต่กดโทรออกย้ำๆเพื่อต่อสู้กับขีดสัญญาณที่ริบหรี่สุดท้ายก็พ่ายแพ้อยู่ดี ไอ้ใจเริ่มกระวนกระวาย เสียงไอ้ไม้ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ไอ้ใจ!”
“ไอ้ใจ!”
“ไอ้ใจ!”
“ไอ้ใจ!”
เสียงเรียกชื่อไอ้ใจซ้ำๆเป็นสิบๆครั้งอยู่อย่างนั้น ไอ้ใจเอามืออุดหูตัวเอง พร้อมตะโกนออกไป
“ไอ้ไม้มึงอยู่ไหน!”
แทนคำตอบเสียงเรียกของไอ้ไม้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไอ้ใจทนไม่ไหววิ่งหนีเข้าไปในป่าที่มืดสนิทไม่รู้ทิศรู้ทางวิ่งฝ่าไปทั่วจนเหยียบเข้ากับหนามแท่งใหญ่ ไอ้ใจทรุดลงนั่งกับพื้นเพื่อดึงหนามออก ยังไม่ทันจะลุกขึ้น สายตาก็เหลือบไปเห็นผู้เป็นแม่กำลังเดินหลังไวๆไปอีกทาง ไอ้ใจรีบตะโกนเรียก แต่ผู้เป็นแม่กลับรีบเดินเข้าป่าไปจนลับสายตา ไอ้ใจไม่รอช้ารีบพยุงตัวเองลุกขึ้นวิ่งกระเผกๆตามแม่ไป แต่แล้ว! กลับมีร่างใครบางคนยืนอยู่ไม่ไกล ไอ้ใจเอ่ยปากถามออกไป
“ใครน่ะ”
แทนคำตอบร่างใครคนนั้นก็วิ่งถลาพรวดพราดเข้ามาหาไอ้ใจโดยไม่ทันตั้งตัว ไอ้ใจหงายหลังล้มตึงทิ้งร่างลงกระแทกกับพื้นพลันร่างๆนั้นก็ยืนคร่อมร่างไอ้ใจเอาไว้ก่อนค่อยๆโน้มตัวลงมาใกล้ๆแล้วพูดขึ้นว่า
“ไอ้ใจนี่กูเอง”
มันคือเสียงของไอ้ไม้ ไอ้ใจทะลึ่งลุกพรวดขึ้นจนลืมเจ็บระคนดีใจที่ได้เจอเพื่อนยากในยามนี้ ไอ้ใจกำลังจะเอ่ยปากพูดไอ้ไม้ก็ชิงตัดบทซะก่อน
“มึงตามกูมา”
ไอ้ไม้พูดจบก็เดินนำหน้าเป็นเชิงบอกว่าให้ไอ้ใจรีบตามมา ระหว่างที่เดินอยู่นั้น ไอ้ใจก็เอ่ยถามไอ้ไม้ออกไป
“มึงมาที่นี่ได้ยังไงวะ”
ไอ้ไม้หันกลับมาตอบแบบน้ำเสียงเรียบเฉย
“ไม่ต้องถามมากตามกูมาก็พอ”
ไอ้ใจจึงทำได้เพียงหุบปากแล้วเดินตามไอ้ไม้ไปแต่โดยดี
สักพักใหญ่เดินมาไกลแค่ไหนไม่รู้ แต่ไอ้ใจสังเกตุได้ถึงบางอย่างที่น่าสงสัยยังไม่ทันได้คิดอะไร ไอ้ไม้ก็ก็พูดขึ้นมา
“ถึงแล้ว”
ไอ้ใจทำหน้างงปนตกใจ ว่าถึงแล้วคืออะไรถึงที่ไหนทั้งๆที่รอบๆมีแต่ป่า แม้ตอนนี้จะมืดแค่ไหนแต่ไอ้ใจก็มองออกว่าไอ้ไม้กำลังยิ้มกริ่มด้วยความพอใจ ไอ้ใจโพล่งถามออกไป
“ถึงที่ไหนวะไหนทางออก”
ไอ้ไม้หัวเราะเสียงดังก่อนจะพูดขึ้น
“มึงก็มองดูดีๆสิ”
ไอ้ใจหันมองไปรอบๆจนมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ไอ้ใจสะดุ้ง มันคือกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้ชนิดหนึ่งใช่แล้ว! มันคือกลิ่นของดอกลำดวนแน่ๆ
“ป่าลำดวนมึงพากูมาป่าลำดวนทำไม”
ไอ้ใจหันรีหันขวางด้วยความระแวง ไอ้ไม้ได้แต่ยืนหัวเราะ ก่อนที่จะออกแรงถีบไอ้ใจลงไปตรงหลุม ไม่ทันตั้งตัวไอ้ใจปลิวไปตามแรงถีบของไอ้ไม้จนตกลงไปทั้งตัวดีที่คว้ากิ่งไม้ไว้ได้ ทันใดนั้นร่างของใครคนหนึ่งที่ไม่ใช่ร่างของไอ้ไม้กำลังสาวเท้าเดินเข้ามา หวังจะถีบไอ้ใจให้ลงไปในหลมให้จงได้ ไอ้ใจมองเห็นร่างนั้นได้ถนัดตา ก่อนที่สติจะดับวูบลง
........................
ไอ้ใจค่อยๆปรือตาขึ้นข้างๆกันนั้นมีไอ้ไม้ที่นอนสลืมสลืออยู่ ไอ้ใจสะกิดไอ้ไม้เป็นเชิงบอกให้ตื่นไอ้ไม้งัวเงียตื่นขึ้น
ทั้งคู่ต้องตกใจกับภาพตรงหน้า!
ชาวบ้านมากหน้าหลายตามาล้อมวงมองทั้งสองคนเป็นตาเดียวสักพักมีหลวงพ่อเดินฝ่าวงชาวบ้านเข้ามา
“เป็นยังไงล่ะรอดตายมาได้เพราะนังเพ็ญนะนังเพ็ญมันรับเคราะห์แทนพวกเอ็งส่วนเรื่องที่ทำผิดกฏหมายหลวงพ่อกับผู้ใหญ่ติเห็นสมควรว่าควรให้ตำรวจเค้าตัดสินนะ อ่ะแบมือมา“
หลวงพ่อพูดกับสองหนุ่มก่อนจะยื่นบางอย่างให้
“ต่อไปนี้คนในหมู่บ้านผางิ้วแห่งนี้รวมถึงเอ็งสองคนห้ามเอ่ยถึงชื่อนี้เด็ดขาดเพราะผีเจ้านางหลุดมาจากหลุมท่อนจันทน์แล้ว”
ไอ้ไม้กับไอ้ใจทำหน้าสงสัยว่าอะไรคือหลุมท่อนจันทน์ ไอ้ใจทำท่าจะถามแต่เหมือนรู้ว่าไอ้ใจจะถามหลวงพ่อจึงชิงโพล่งตอบก่อน
“หลุมท่อนจันทน์ก็คือหลุมที่อยู่กลางดงลำดวนที่พวกเอ็งไปถ่ายรูปนั่นแหละท่อนจันทน์ลงอาคมสะกดเจ้านางไว้ในหลุมแต่มีคนบางคนรอเวลาที่อาคมเสื่อมไปขุดท่อนจันทน์ออกเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง“
ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อแม่ของไอ้ใจก็เดินปรี่เข้ามาหาหลวงพ่อกับผู้ใหญ่ติที่ยืนอยู่ขนาบข้าง.
“ผู้ใหญ่กับหลวงพ่อทำไมทำแบบนี้กับลูกฉัน รู้ว่าอันตรายแล้วทำไมให้ลูกฉันเข้าไปล่ะคะ”
‘ป้ารี’ แม่ของไอ้ใจชี้หน้าผู้ใหญ่ติกับหลวงพ่อด้วยความไม่พอใจก่อนจะรีบเดินออกจากโบสถ์ไปด้วยความโกรธเคือง
ไอ้ใจยกมือไหว้หลวงพ่อกับผู้ใหญ่ติก่อนจะดึงไอ้ไม้ให้ลุกรีบตามผู้เป็นแม่ออกไปด้วย
แต่ก่อนจะพ้นประตูโบสถ์ไอ้ใจกับไอ้ไม้ก็พร้อมใจกันคลี่ม้วนกระดาษที่หลวงพ่อยื่นให้ออกมาดู
ม้วนกระดาษแผ่นเล็กเผยให้เห็นอักษรลายมือหวัดเขียนด้วยตัวบรรจงว่า
“ การเวก”
The end.
โฆษณา