12 ต.ค. 2021 เวลา 23:19 • ประวัติศาสตร์
🙏สืบสานพระราชปณิธานด้วยการกระทำ🙏
"...งานยังไม่เสร็จ"
 
งานเพื่อแผ่นดินไม่มีวันเสร็จ
ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเอง
ให้ถามตัวเองทุกวันว่า
" วันนี้เราได้ทำอะไร เพื่อพระองค์ท่านบ้างหรือยัง"
ปาฐกถา “ในหลวงแห่งแผ่นดิน” 13 ตุลาคม 2560
เวลาเที่ยงครึ่งของวันที่ 13 ตุลาคม2560 ได้ไปที่ห้องประชุม ราชปนัดดาสิรินธร อาคาร ศรีสวรินทิราชั้น 1 โรงพยาบาลศิริราช
เพื่อฟังปาฐกถา "ในหลวงแห่งแผ่นดิน" โดย ดร สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เวลา 13.30 น.
โชคดีที่เข้ามาก่อนเวลา และหาเก้าอี้ว่างนั่งได้ เพราะ เมื่อยิ่งใกล้เวลาบรรยาย ผู้คนยิ่งแห่กันเดินเข้ามาจนเก้าอี้เต็ม สุดท้ายก็ต้องนั่งกันตามขั้นบันได และทางเดิน เราคนไทยยังคิดถึงองค์ในหลวง รัชกาลที่ 9 จึงมาจนล้นห้อง
ดร .สุเมธ เริ่มด้วย การเล่าว่า วันเวลานี้เมื่อปีที่แล้ว (2559)ท่านกำลังไปลงนามที่ศาลาสหทัย แต่ได้เพียงแต่กราบลาที่พระบรมฉายาลักษณ์ เพราะ มีข่าวจากทาง รพ ศิริราช ให้ยุติการลงนาม ท่านจึงกลับสำนักงานด้วยความรู้สึกว่างเปล่าในจิตใจ ท้องฟ้าข้างนอกดูมืดครึ้ม
ดร .สุเมธกลับไปนั่งย้อนนึกถึงภาพที่ได้ทำงานกับพระองค์ท่านมา 35 ปี ตั้งแต่2524-2559 ลำดับเหตุการณ์ได้เป็นฉากๆ จนรู้สึกว่า จริงๆแล้วพระองค์ท่านไม่ได้ไปไหน
"ถึงแม้ร่างกายไม่อยู่ แต่ก็เหมือนยังอยู่"
เมื่อทำงานไปจนบางเวลาที่หมดกำลังใจ ท่านก็จะนึกถึงคำที่พระองค์เคยกล่าวไว้
"🔺คนเราจะทำงานใหญ่ ต้องทำตัวเหมือนแท่งเหล็ก ที่จะถูกทุบ ถูกตี ถูกเผาด้วยความร้อน ครั้งแล้วครั้งเล่า ร้อนเจ็บปวดทรมาน แต่แท่งเหล็กนั้นจะค่อยๆกลายสภาพเป็นมีดดาบ ที่คมกริบในที่สุด"🔺
"ใครที่ไม่เคยถูกเผา ถูกทุบ จะทำงานใหญ่ไม่ได้"
2524 ในครั้งแรกที่มาทำงาน พระองค์ท่านบอกว่า
🔺"...ขอบใจมาช่วยฉันทำงาน.......ทำงานกับฉัน ฉันไม่มีอะไรจะให้ นอกจากการมีความสุขร่วมกัน ในการทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น..."🔺
เราไม่เคยมองในแง่มุมนี้มาก่อนเลย
🟡ความสุขที่เกิดจากการได้ทำให้คนอื่นมีความสุข นึกถึงคนอื่นก่อนตัวเอง🟡
"☀️มอง ทุกอย่างที่ฉันทำ" มองให้ลึกซึ้งว่า ทำไปเพื่ออะไร หาคำตอบให้ได้เพื่อให้เกิดปัญญา
" ☀️จดทุกอย่างที่ฉันพูด " เป็นเครื่องเตือนความจำ ถ่ายรูปไว้ด้วยเพื่อเปรียบเทียบได้
"☀️สรุปทุกอย่างที่ฉันคิด"
มองปัจจุบัน เตือนให้ดูอดีต นำพาสู่อนาคต
เราอย่ามองเพียงแค่ความสุขสบายในปัจจุบัน แต่ต้องมองว่า เราจะส่งมอบอะไรให้กับลูกหลานของเรา
"Sustainable" คือความยั่งยืน
" จาก นภา ภูผา สู่ มหานที"
คือคำสรุปสั้นๆ สำหรับงานที่พระองค์ท่านได้ทำมาตลอดพระชนม์ชีพ
"ฝนหลวง"
ทำไมฝรั่งถึงไม่คิดทำมาก่อน ทั้งๆที่เขามีเทคโนโลยีที่ดีกว่าเรา เขาก็มีที่แห้งแล้งที่ต้องการฝน เพราะ ฝนเทียมนี้ มันบังคับให้ไปตกที่ไหนโดยเฉพาะไม่ได้ จึงเอามาทำเป็นธุรกิจไม่ได้
เมื่อใช้เงินเป็นเครื่องนำทาง เขาก็เลยไม่ทำ แต่เมื่อ เราเอาจิตใจเป็นเครื่องนำทาง นึกถึงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ก่อนอะไรอื่น ทำให้ฝนตกที่ไหนก็ได้ โครงการฝนหลวงจึงเกิดขึ้นในเมืองไทยได้
ประเทศไทยโชคดีที่ผลิตอาหารได้เหลือกินเหลือใช้ แต่เราก็ต้องกินอยู่อย่างพอเพียง พึ่งตนเองให้ได้ รู้รักสามัคคี
อย่าเก่งคนเดียว ให้เข้าใจ และพัฒนานำคนเข้าหากัน เพื่อร่วมกันทำงาน
ทุกวันนี้ที่บ้านเมืองยังสงบลงได้ เพราะ พวกเรายัง "ให้"กันอยู่
การให้โดยไม่มีเงื่อนไข
“การบริจาค”
ตอนท้ายของการบรรยาย ท่านเอาภาพที่เก็บเอาไว้ดูคนเดียวมา 19 ปีมาให้พวกเราได้ดู ภาพที่ท่านเข้าไปกราบในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่ออายุ60ปี
และพระองค์ตรัสว่า "..เกษียณไม่ได้" หมายความว่า ตราบใดที่ยังแข็งแรงอยู่ ให้ทำทุกอย่างที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ และผู้อื่น
ภาพสุดท้ายเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ได้ฟังและดูภาพนี้แล้วกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จริงๆ
ในหลวง ร 9 โน้มพระวรกายลงมา เอาพระหัตถ์วางที่ไหล่ของ ดร สุเมธ แล้วตรัสว่า
"...งานยังไม่เสร็จ"
 
งานเพื่อแผ่นดินไม่มีวันเสร็จ
ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเอง
ให้ถามตัวเองทุกวันว่า
" วันนี้เราได้ทำอะไร เพื่อพระองค์ท่านบ้างหรือยัง"
ด้วยความระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
พี่เขียน
(บันทึกตามความเข้าใจ จดและจำจากการบรรยาย 1 ชั่วโมง เนื้อความอาจจะไม่ละเอียดครบถ้วนถูกต้องทั้งหมด แต่บันทึกด้วยหัวใจ)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา