12 ต.ค. 2021 เวลา 02:55 • การเมือง
ฮาวานาซินโดรม
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
ฮาวานาเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐคิวบา อยู่ห่างจากเมืองคีย์เวสต์ รัฐฟลอริดาของสหรัฐเพียง 145 กิโลเมตร เคยเป็นฐานทัพเรือที่สำคัญของสเปนในโลกใหม่ ต่อมาอังกฤษเข้ายึดครอง จากนั้นก็กลับคืนเป็นของสเปน
https://www.nbcnews.com/politics/national-security/mystery-over-havana-syndrome-lingers-new-concern-emerges-n12700828
กุมภาพันธ์ 1898 เรือรบของสหรัฐถูกวางระเบิดที่ด้านนอกของอ่าวจอดเรือ ทำให้เกิดสงครามสเปน-สหรัฐ โดยสเปนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ต้องยกคิวบา เปอร์โตริโก กวม และหมู่เกาะฟิลิปปินส์ ให้อยู่ในอารักขาของสหรัฐ
1
จนถึง 20 พฤษภาคม 1902 สหรัฐจึงให้เอกราชแก่คิวบา แต่ยังคงถือสิทธิในฐานทัพเรือที่อ่าวกวนตานาโมจนถึงปัจจุบัน
ค.ศ. 2016 เจ้าหน้าที่สำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอที่ทำงานให้กับเอกอัครราชทูตสหรัฐในกรุงฮาวานา พบว่าตัวเองหูอื้อ ได้ยินเสียงจักจั่นร้องอื้ออึงอยู่ในหูตลอดเวลา ปวดหูและสูญเสียการได้ยินบางส่วน ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย แถมยังมีปัญหาเรื่องความทรงจำ
เจ้าหน้าที่ซีไอเอพวกนี้ถูกนำไปสแกนสมอง พบว่าเนื้อเยื่อสมองบางส่วนถูกทำลาย ลักษณะคล้ายการถูกทำลายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือแรงกระแทกจากระเบิด
1
รัฐบาลสหรัฐตระหนกตกใจและอพยพเจ้าหน้าที่ของตนออกจากสถานทูตในกรุงฮาวานาและตั้งชื่ออาการนี้ว่า ‘ฮาวานาซินโดรม’
ตอนแรกพวกนักวิทยาศาสตร์อเมริกันคิดว่าฮาวานาซินโดรมเกิดจาก sonic weapons หรืออาวุธที่ใช้คลื่นความถี่สูง
ต่อมา NASEM หรือองค์กรวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และการแพทย์ของสหรัฐ บอกว่าสาเหตุมาจากคลื่นไมโครเวฟที่สามารถเปลี่ยนแปลงการทำงานได้โดยไม่ทำลายโครงสร้างทั้งหมดของสมอง
สหรัฐตะโกนบอกโลกว่าโซเวียตพัฒนาเทคโนโลยีคลื่นไมโครเวฟตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950 และเคยใช้อาวุธคลื่นไมโครเวฟเล่นงานสถานทูตสหรัฐประจำกรุงมอสโก
2
นักวิจัยของ NASEM มีทั้งเชื่อและไม่เชื่อ ศาสตราจารย์ด้านจิตเวชศาสตร์สตาบบอกว่า แม้จะสามารถยิงคลื่นไมโครเวฟเข้าไปในหัวมนุษย์และทำให้คนนั้นได้ยินเสียงคลิกอย่างต่อเนื่องในหู แต่ไม่มีข้อสรุปว่าจะสามารถสร้างบาดแผลได้หรือไม่
1
ส่วนนักวิทยาศาสตร์ฟอสเตอร์บอกว่าความเชื่อที่ว่าฮาวานาซินโดรมมาจากคลื่นไมโครเวฟนั้นไม่น่าเชื่อถือ
นักวิทยาศาสตร์หลายคนคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็น Mass Psychogenic Illness หรืออุปทานหมู่ของคนทำงานที่เครียดจากการถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา
1
นอกจากที่คิวบาแล้ว ที่เยอรมนีก็เกิดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐมีอาการฮาวานาซินโดรม เจ้าหน้าที่เหล่านี้ดูแลงานความมั่นคงไซเบอร์ท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 2 และการแทรกแซงทางการเมือง
กรกฎาคมปีนี้ ผ.อ.ซีไอเอสั่งย้ายหัวหน้าซีไอเอประจำกรุงเวียนนาเพราะป่วยจากฮาวานาซินโดรมจนทำงานไม่ได้ นักการทูตสหรัฐในออสเตรียกว่า 20 คนก็ปวดหัว คลื่นไส้ ได้ยินเสียงดังลั่นในหู รู้สึกเหมือนศีรษะได้รับแรงกระแทกอย่างแรง โดยที่ไม่รู้ว่าเสียงที่ว่ามาจากไหน
1
นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐเดินทางมาเยือนประเทศสำคัญในกลุ่มอาเซียน คือสิงคโปร์และเวียดนาม
ก่อนจะบินออกจากสิงคโปร์ เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐในเวียดนามแจ้งว่าอาจพบ ‘เหตุผิดปกติด้านสุขภาพ’ ที่กรุงฮานอยที่ทำให้เจ้าหน้าที่สหรัฐหลายร้อยคนเจ็บป่วยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
https://www.livemint.com/science/health/what-is-havana-syndrome-and-what-are-its-symptoms-11629840386550.html
ทำให้นางแฮร์ริสเดินทางออกจากสิงคโปร์ล่าช้าไป 3 ชั่วโมง และยืนยันว่าเธอจะไม่เดินทางไปประเทศอื่น หากไม่มีการยืนยันเรื่องความปลอดภัยที่จุดหมายปลายทาง
ราชการสหรัฐใช้คำว่า ‘เหตุผิดปกติด้านสุขภาพ’ แทนคำว่า ‘ฮาวานาซินโดรม’ ตอนนี้ก็มีข่าวออกมาเรื่อย ว่าเจ้าหน้าที่ของสหรัฐในประเทศโน้นประเทศนี้ มีเหตุผิดปกติด้านสุขภาพ
เรื่องนี้มองได้ 3 อย่าง
อย่างแรกเป็นอุปทานหมู่
อย่างที่สองอาจมีบางประเทศที่คิดอาวุธไมโครเวฟได้สำเร็จ
อย่างที่สามก็อาจเป็นพล็อตที่สร้างขึ้นมาเพื่อจะใช้โยนความผิดให้กับประเทศอื่น ให้โลกเข้าใจว่า อ้า รัสเซีย (หรือจีน) ที่ยิงคลื่นไมโครเวฟใส่สมองคนเป็นพวกไม่ดี
อย่างที่สามนี่เกิดขึ้นบ่อยครับ เป็นการสร้างเรื่องเพื่อสะสมความผิดให้คนทั้งโลกเกลียดชังศัตรู.
โฆษณา