12 ต.ค. 2021 เวลา 10:24 • สุขภาพ
กระท่อม ( Kratom )
มีสาร Mitragynine อ่านว่า มิทราไกนิน ร้อยละ 0.25 ซึ่งสารนี้จะทำให้เกิดการตื่นตัว สดชื่น กระปรี้กระเปร่า ซึ่งอาจนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ถ้าเสริมในเครื่องดื่มชูกำลัง ทำให้สมองตื่น สดชื่น แต่ควรอยู่ในปริมาณจำกัด
สารสาคัญที่พบในใบกระท่อม
จาก บทความของ ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ ภาควิชาเภสัชเวทและเภสัชพฤษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ดังนี้
ใบกระท่อมประกอบด้วยแอลคะลอยด์ทั้งหมดประมาณร้อยละ ๐.๕ ในจานวนนี้เป็นมิทราไกนิน (Mitragynine) ร้อยละ ๐.๒๕ ที่เหลือเป็น สเปโอไจนีน (Speciogynine) ไพแนนทีน (Paynanthine) สเปซิโอซีเลียทีน (Speciociliatine) ตามลาดับ ซึ่งชนิดและปริมาณแอลคะลอยด์ที่พบแตกต่างกัน ตามสถานที่ และเวลาที่เก็บเกี่ยว ซึ่งแบ่งตามสูตรโครงสร้างได้สารประกอบ ๔ ประเภท คือ
1. อินโดลแอลคะลอยด์ (Indole Alkaloids)
2. ออกอินโดลแอลคะลอยด์ (Oxindole Alkaloids)
3. ฟลาวานอยด์ (Elavanoids)
4. กลุ่มอื่น ๆ เช่น ไฟโตสเตอรอล (Phytosterol), แทนนิน
จากสาร มืทราไกนิน จากบทความนี้ แสดงให้เห็นว่า มีอยู่น้อยมาก ในใบกระท่อม 0.25 % เท่านั้น
ชื่อวิทยาศาสตร์ Mitragyna speciosa Korth.
วงศ์ Rubiaceae
Mitragyna speciosa หรือ กระท่อม เป็นต้นพืชใบเขียวในวงศ์กาแฟ เป็นพืชท้องถิ่นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, พม่า และ ปาปัวนิวกินี ที่ซึ่งปรากฏการใช้งานกระท่อมในฐานะยาสมุนไพร ตั้งแต่ ค.ศ.19
ชื่อวิทยาศาสตร์: Mitragyna speciosa
วงศ์: วงศ์เข็ม
Mitragyna speciosa (Korth.) Havil.: Mitragyna speciosa; (Korth.) Havil.
อาณาจักร: พืช
อันดับ: ดอกหรีดเขา
ข้อมูล จากวิกีพีเดีย
สรรพคุณ ทางยา
* แก้ท้องเสีย บิด มวน
* มีการกระตุ้น ทำให้ร่างกายเกิดการตื่นตัวและทำงานหนักกลางแจ้งได้เป็นเวลานาน
* ทำมีกำลัง ทนต่อความเจ็บปวดได้ดี คล้ายมอร์ฟีน แต่มีระดับเล็กน้อย
* เข้าตำรับยาไทย ใช้ร่วมกับกัญชา
* เรียกว่า ยาขยัน ทำให้ทำงานได้เป็นเวลานาน
* ใช้ลดความอ้วน
* ช่วยบรรเทาอาการเบาหวานได้ดี
* ช่วยให้นอนหลับได้ดี
จากข้อมูลน่ารู้ของ อภัยภูเบศร์
กระท่อมเป็นสมุนไพรที่มีระบุไว้ในตำรับยาไทยหลายขนานได้แก่ โรคบิด ท้องเสีย เช่น
1. ยาประสระใบกระท่อม
2.ยาหนุมานจองถนนปิดมหาสมุทร
3.ยาแก้บิดลงเป็นเลือด
4.ยาแก้บิดหัวลูก
5.ยาประสระกาฬแดง
ซึ่งมีบันทึกในตำรายาแผนไทย
คัมภีร์แพทย์ไทยแผนโบราณ
ชาวบ้านทั่วไปยังใช้ใบกระท่อม
ปรุงเป็นยาแก้บิด แก้ปวดบวม
และทางใต้ มาลายูก็ใช้เป็นยาพอกแผลปวดบวมเช่นกัน
วิธีใช้
ใบกระท่อมเคี้ยวสด โดยดึงลอกเอาก้านใบด้านหลังออกก่อน แล้วแบ่งเป็นส่วนๆ เคี้ยว เอาแต่น้ำแล้วบ้วนทิ้งหรือผวนน้ำดื่มตามไปกลืนลงคอไปเลยก็ได้
ซึ่งชาวบ้านภาคใต้จะนิยมปลูกกันตามบ้านมาก และใช้กันมานาน
ข้อเสียคือ
1. ร่างกายอาจขาดสารอาหาร เพราะจะไม่หิว แล้วทำงานเพลินไป
2. หากทานติดต่อกันแล้ว หยุด อาจมีอาการ หาวนอน จาม น้ำมูกไหล จนกว่าจะได้เคี้ยวใบกระท่อมอีก
3. ติดเหมือนคนติดกาแฟ คือใช้แล้วต้องใช้เรื่อยๆ
พันธ์ุกระท่อมที่ปลูกกันในประเทศไทย
มี
1. พันธ์ุแตงกวา หรือบางแห่งเรียก โพธิ์ทอง
2.พันธ์ุยักษาใหญ่ ใบจะใหญ่มากกว่าพันธ์ุอื่นๆ
3. พันธ์ุก้านแดง จะสังเกตุง่าย ก้านหลังใบจะมีสีแดง
4. พันธ์ุก้านเขียว
ซึ่ง พันธ์ุก้านแดง จะมีสาร มิทราไกนิน /Mitragynine มากกว่าพันธ์ุอื่นที่กล่าวมา
ข้อห้ามและไม่ควรทำ
1. ต้ม
การต้มใบกระท่อมจะทำให้เกิดฤทธิ์เมาเพิ่มขึ้น การต้มนี้ กฏหมายระบุว่าต้อง อายุ 18 ปีบริบูรณ์จึงจะ ดื่มได้
2. ผสม โค้ก ยาแก้ไอ ยากันยุง
พวกนี้ถือว่า สารเมาจะเพิ่มขึ้น เป็น 400 เท่าหรือเรียกว่า 4x100
ซึ้งถือว่าผิดกฏหมาย และอาจถึงแก่ชีวิตได้
ตอนนี้ ประเทศไทย เปิดไฟเขียวในการนำ ใบกระท่อมมาใช้ได้ และถ้าจะนำแปรรูป เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆต้องขออนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขก่อน
ข้อสังเกตุ
* คนที่ใช้กระท่อมนานๆ จะไม่มีไขมัน แสดงว่า ระบบย่อยและการเผาผลาญไขมัน
* เท่าที่เห็น คนที่ใช้ใบกระท่อมจะไม่มีใครเป็นมะเร็งอันนี้ข้อดีมาก
ข้อคิด : การใช้ใบกระท่อม ควรใช้ตามความจำเป็นและไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ถ้าไม่จำเป็นอย่าใช้ และถ้าต้องการถอนอาการ หาว ง่วง จามจากการใช้ใบกระท่อม วิธีหนึ่งที่ปลอดภัยคือใช้กัญชาเข้าช่วยบำบัด ซึ่งต้องให้หมอพื้นบ้านหรือผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ ให้คำแนะนำ
ด้วยความปรารถนาดี
จาก ใบไทย Baithai
โฆษณา