13 ต.ค. 2021 เวลา 01:40 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Stanley Druckenmiller นักเทรดระดับโลก ตอน2
Stanley Druckenmiller นักเทรดระดับโลก ตอน2
จากความเดิมตอนที่แล้วแอดได้เล่าถึง ประวัติความโหดในการเทรดของ Stanley Druckenmiller แบบคร่าวๆไปแล้ว ผู้ซึ่งไม่เคยมีประวัติ Performance ติดลบเลย และในส่วนนี้เราจะตีแผ่บทความการตอบคำถามที่น่าสนใจของ Druckenmiller กันในหนังสือ The New Market Wizard Druckenmiller ได้กล่าวไว้ดังนี้
หาตัวกระตุ้นโดยมุ่งเน้นการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์อย่างมากกับการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นเมื่อเทียบกับการดูปัจจัยพื้นฐานทั้งหมด นักวิเคราะห์หลายคนยังไม่รู้ว่าอะไรทำให้หุ้นของพวกเขาขึ้นและลง รายได้ไม่ move ตลาด จริงๆแล้วคือ Federal Reserve Board … Focus ไปที่ธนาคารกลางและการเคลื่อนไหวของสภาพคล่อง…ตลาดคือตัวแทนของอนาคตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น นั่นหมายถึง รายได้นั้นมีผลต่อหุ้น แต่ รายได้ในอนาคตนั้นสำคัญกว่ารายได้ในอดีต กุญแจสำคัญในการเป็นเทรดเดอร์ที่ดีคือการระบุปัจจัยที่จะผลักดันรายได้ในอนาคตไม่ใช่สิ่งที่ผลักดันในอดีต
สรุุปวิธีการเทรดที่ได้จาก Druckenmiller
1. ต้องรู้ลึกรู้จริง
นักลงทุนที่ดีต้องสามารถระบุได้ถึงปัจจัยที่สัมพันธ์กับราคาสินทรัพย์ได้อย่างชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจในการเทรดแต่ละครั้ง นักลงทุนนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้ว่าตัวแปรใดบ้างที่สัมพันธ์กับราคาของสินทรัพย์ . ซึ่งสิ่งที่ Druckenmiller มองว่าสำคัญที่สุดคือ สภาพคล่อง (Liquidity) เพราะสภาพคล่องคือการขยายหรือย่อของเงินทุนและสินเชื่อ ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นอุปสงค์ในสิ่งต่างๆ มากที่สุด และอุุปสงค์ก็ส่งผลต่อราคานั่นเอง ขณะที่ปัจจัยอื่นเช่น ผลกำไรก็ยังสำคัญอยู่ แต่สำคัญในระดับหุ้นรายตัวมากกว่าที่จะเป็นภาพรวมของทั้งตลาด ..
2. Open Mind ต้องมีจิตใจที่เปิดกว้าง
ใช้ทุกอย่างที่ใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือ แนวการลงทุน หรือว่าอะไรกฺ็ตาม เพื่อเพิ่มมุมมองในสนามรบ (ตลาด) ทั้งในแง่ของผู้เชี่ยวชาญด้านปัจจัยพื้นฐาน จิตวิทยาตลาด เทคนิค เศรษฐกิจมหภาค และอื่นๆ เพื่อเพิ่มมุมมองให้กว้างที่สุด
3. ปรัชญาแบบ Big Bet
Big Bet คือการที่หากเรามั่นใจแล้วว่าตัดสินใจถูกต้อง ก็จะดันให้ถึงที่สุด โดยการนำกำไรทั้งหมดที่เคยสร้างมา มาเดิมพัน เพื่อให้เป็นการกล้าได้กล้าเสียที่คุ้มค่าและไม่เสียโอกาส ไม่ใช่การพนันวัดดวง เพราะยังคงยืนพื้นฐานที่การรักษาเงินต้นที่มีด้วย
4. Mental Flexibility จิตใจที่ยืดหยุ่น
เมื่อรู้ว่าผิด ต้องสามารถกลับลำละทิ้งอีโก้และทำสิ่งที่คิดว่าถูกได้อย่างทันท่วงที หรือ (Strong opinion, weakly held) มีความคิดเห็นที่แข็งแกร่งเด็ดเดี่ยวแต่ไม่ยึดติด ในช่วงปี 1987 หนึ่งวันก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ชื่อว่า Black Monday Druckenmiller ถือสถานะ Short สุทธิอยู่ แต่เมื่อเขาเห็นว่าไม่ผ่านแนวรับจึงกลับมาถือหน้า Long 130% ของสถานะ Short แต่ระหว่างวันเขาก็รู้ว่ากำลังทำพลาด จึงกลับลำมาถือหน้า Short อีกครั้ง ทำให้ในท้ายที่สุดแล้วเขาก็สามารถมีกำไรจากช่วงเวลานั้นได้ . จากเหตุการณ์นั้น ถ้า Druckenmiller ไม่มีความยืดหยุ่นที่มากพอ ยึดติดในอีโก้ของตนเอง ก็อาจกลายเป็นเหยื่ออีกรายของตลาดการเงินอันโหดร้ายในช่วงนั้นได้ ..
5. จิตใจมั่นคง
ถ้าเรามีจิตใจที่มั่นคง มั่นใจในสิ่งที่ทำ การขาดทุนก็จะไม่รบกวนการตัดสินใจครั้งต่อๆ ไปของเรา เพราะถ้าปล่อยให้การขาดทุนส่งผลต่อการตัดสินใจ นั่นหมายถึงหนทางไปสู่ความผิดพลาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น George Soros อดีตเจ้านายของ Druckenmiller ที่ถึงแม้มีบางสถานะที่ขาดทุน แต่ก็ไม่ได้สนใจ เพราะเขามั่นใจมากพอในความสามารถที่จะชนะของตัวเอง . พร้อมกับยกคำกล่าวที่ว่า มีรองเท้ามากมายบนชั้น เลือกมาใส่เฉพาะคู่ที่พอดีก็พอ และยังกล่าวอีกว่า สิ่งมหัศจรรย์ของธุรกิจนี้คือสภาพคล่อง คุณสามารถเริ่มต้นเมื่อไหร่ก็ได้ ตราบใดก็ตามที่ยังมีสภาพคล่องพอให้ปิดสถานะได้ ก็ไม่มีเหตุใดให้กังวล ..
6. เทรดให้เหมือนกับว่าเราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
กล่าวง่ายๆ คือ หากเราเชื่อแล้วว่าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ เราก็จะทุ่มเทแรงกายและใจให้เต็มที่ เพื่อให้เกิดผลที่ดีที่สุดนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก medium.com
"สนับสนุนบทความนี้ด้วยการส่งเพชร 💎ส่งดาว🌟 และกดติดตาม ใน Blockdit ของเรา "
โฆษณา