13 ต.ค. 2021 เวลา 09:09 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Baikonur Cosmodrome ฐานยิงจรวดส่งยานอวกาศของรัสเซีย ที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในรัสเซีย
เมื่อพูดถึงประเทศที่ส่งมนุษย์ขึ้นไปบนอวกาศได้เป็นประเทศแรกของโลก หลายคนอาจจะบอกว่าก็คงจะเป็นรัสเซียน่ะสิ
ที่ถูกต้องแล้ว ต้องบอกว่าประเทศที่ส่งมนุษย์คนแรกคือ ยูริ กาการิน ขึ้นไปบนอวกาศได้สำเร็จคือประเทศสหภาพโซเวียตต่างหาก
1
หากย้อนหลังไปในยุคสงครามเย็น การแข่งขันทางอวกาศระหว่างสองขั้วอำนาจ ระหว่างฝ่ายเสรีนิยมคือ สหรัฐอเมริกากับฝ่ายสังคมนิยมคือสหภาพโซเวียตรัสเซีย กำลังเข้มข้น
ต่างคนต่างพยายามสร้างความสำเร็จในด้านอวกาศแซงหน้าอีกฝ่ายอยู่เสมอ
สหภาพโซเวียตนำหน้าไปก่อนด้วยการประสบความสำเร็จในการส่งมนุษย์ขึ้นไปบนอวกาศได้สำเร็จ
อีกไม่นานนัก สหรัฐก็แซงนำด้วยการส่งมนุษย์ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ได้สำเร็จตามมา
ทั้งสหรัฐและสหภาพโซเวียตต่างก็มีเทคโนโลยีอวกาศเป็นของตัวเอง
..
ปกติเรามักจะได้ยินชื่อฐานปล่อยจรวดของสหรัฐที่ชื่อว่าศูนย์อวกาศเคเนดี้ ตั้งอยู่บนแหลมคานาวอรอล มลรัฐฟลอริด้าบ่อยครั้ง
แต่กับฐานปล่อยจรวดของรัสเซีย เรามักจะไม่ค่อยคุ้นเคยกัน
วันนี้ผมจะพาไปชมฐานยิงจรวดอวกาศของรัสเซียกันครับ
ฐานปล่อยจรวดส่งยานอวกาศของรัสเซียมีชื่อว่า Baikonur Cosmodrome
ตั้งอยู่ในเมือง Baikonur ประเทศคาซัคสถาน
1
อ้าว ทำไมฐานปล่อยจรวดของรัสเซียถึงมาตั้งอยู่ในคาซัคสถาน ไม่ตั้งอยู่ในประเทศตัวเอง?
สาเหตุที่ฐานปล่อยจรวดแห่งนี้ มาตั้งอยู่ที่ประเทศคาซัคสถานก็เพราะว่า เดิมทีพื้นที่ตรงนี้เคยเป็นของอดีตสหภาพโซเวียตมาก่อน
เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายลง
แม้ประเทศคาซัคสถานจะแยกตัวออกมาแล้ว แต่รัสเซียซึ่งเป็นเจ้าของฐานปล่อยจรวดแห่งนี้ ยังคงทำสัญญาเช่าเมือง Baikonur ต่อไปอีกจนถึงปี 2050
ส่วนคำตอบที่ว่า ทำไมต้องมาตั้งฐานยิงจรวดที่เมืองนี้ ก็เป็นเพราะเมืองนี้มีความเหมาะสมหลายประการ เช่น..
1).ฐานยิงจรวดต้องเป็นพื้นที่ราบ กว้างขวาง มีสภาพอากาศที่แห้ง
สะดวกในการเคลื่อนย้ายจรวดและยานอวกาศที่มีขนาดใหญ่มาก
2).ใกล้กับเส้นทางคมนาคมทางรถไฟ เพื่อให้สะดวกในการขนส่งอุปกรณ์ต่าง ๆ มาจากรัสเซีย
3).มีแหล่งน้ำสะอาดที่เพียงพอ
4).จำนวนคนอยู่อาศัยไม่มากนัก เพื่อความปลอดภัย หากเกิดความผิดพลาดในการปล่อยจรวด
5).ห่างจากชายแดนพอสมควร เป็นการป้องการด้านความมั่นคงทางการทหาร
6).ไม่มีสัญญาณวิทยุหรือระบบโทรคมนาคมอื่นมารบกวน กระบวนการติดต่อสื่อสารระหว่างสถานีปล่อยจรวดกับนักบินอวกาศ
ความแปลกของเมืองนี้อีกอย่างก็คือ ในอดีตเคยมีการตั้งเมือง Baikonur ปลอมขึ้นมาอีกหนึ่งแห่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองนี้ ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร รวมทั้งมีการสร้างฐานยิงจรวดปลอมขึ้นมาด้วย
1
เหตุผลที่สหภาพโซเวียตต้องสร้างเมืองปลอมขึ้นมา คาดว่าก็เพื่อสร้างความสับสนให้กับฝ่ายตรงข้ามอย่างสหรัฐฯในยุคสงครามเย็น ...😑
2
ในส่วนของฐานยิงจรวด Baikonur Cosmodrome นี้ ในช่วงหลายปีให้หลัง ถือเป็นฐานส่งยานอวกาศแห่งเดียวของโลก ที่มีการส่งมนุษย์หรือนักบินขึ้นไปบนอวกาศ
ทำให้มีนักบินอวกาศหลากหลายสัญชาติที่มาใช้บริการฐานยิงจรวดแห่งนี้ เพราะฐานปล่อยจรวดแห่งอื่น เขาไม่ยอมส่งคนขึ้นไป..
แต่ล่าสุด ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา ฐานปล่อยจรวดของทั้งสหรัฐและจีนก็หันกลับมาส่งมนุษย์ขึ้นไปบนอวกาศอีกครั้งแล้ว
..
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับคนที่หลงไหลในเทคโนโลยีอวกาศก็คือ สถานที่แห่งนี้เขามีคนจัดทัวร์นำเที่ยวชมการปล่อยจรวดไปยังอวกาศด้วย😱..🚀👨‍🚀
2
ทริปชมการปล่อยจรวด ก็จะมีตั้งแต่ทัวร์ชมเมือง Baikonur ชมพิพิธภัณฑ์ด้านอวกาศ ชมจรวดและยานอวกาศของรัสเซีย ได้พบกับนักบินอวกาศตัวจริงและไฮไลท์ก็คือชมการปล่อยจรวดขึ้นสู่อวกาศ ด้วยตาตัวเอง
2
สำหรับสนนราคาก็ไม่แพงแค่คนละ 65,000 บาทขึ้นไปเท่านั้นเอง😓
..
เกร็ดความรู้ท้ายบทความ:
- การประกอบชิ้นส่วนจรวดและยานอวกาศของรัสเซียจะประกอบแบบแนวนอน ก่อนจะตั้งขึ้นตอนจะยิงขึ้นไป ด้วยเหตุผลที่มันประหยัดดี ซึ่งจะต่างจากของสหรัฐฯที่จะประกอบยานอวกาศในแนวตั้ง แล้วใช้วิธีเลื่อนออกไปที่ฐานยิงแบบนั้นเลย
2
- สหรัฐมีการใช้กระสวยอวกาศ(รูปร่างคล้าย ๆ เครื่องบิน)ในการเดินทางไปและกลับอวกาศ แต่รัสเซียยังคงใช้ยานอวกาศโซยูส(ทรงกระบอก)เหมือนกับเมื่อ 60 ปีที่แล้ว
- ถึงแม้ฐานยิงจรวดแห่งนี้ จะเป็นของรัสเซีย แต่ก็มีนักบินอวกาศสหรัฐมาใช้บริการขอติดสอยห้อยตามขึ้นไปยังสถานีอวกาศนานาชาติอยู่บ่อยครั้ง😁
1
- ปัจจุบันฐานปล่อยจรวด Baikonur Cosmodrome ได้ถูกใช้งานเพื่อปล่อยจรวดส่งยานอวกาศเป็นครั้งสุดท้ายไปแล้ว
เพราะปัจจุบันทางรัสเซียได้สร้างฐานปล่อยจรวดในประเทศตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วถึงสองแห่ง
..
ติดตามอ่านบทความได้ที่
โฆษณา