13 ต.ค. 2021 เวลา 09:15 • ท่องเที่ยว
Turkey (14) .. Pamukkale Natural Park หรือ ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle)
พื้นที่ของ Pamukkale Natural Park เหมือนกับเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ มีทางเดินให้คนที่มาเยือนได้ใช้เวลาเดินดูไปเรื่อยๆ ไม่มีรถบริการ
ทางเดินที่เราผ่าน .. เป็นทางเดินที่มีมาตั้งแต่ครั้งโบราณสมัยที่อยู่ภายใต้การปกครองของโรมัน มีบรรยากาศของความคลาสสิกจากการนะหินก้อนโตๆมาเรียงหรือซ้อนกันตัดผ่านทุ่งโล่ง .. ตลอดทางมีเสาโรมันสภาพต่างๆ ซึ่งอาจจะไม่สมบูรณ์นัก ตั้งอยู่เป็นระยะๆ .. เส้นทางนี้มุงไปสู่หน้าผา
บนที่ราบสูงเหนือธารน้ำตก มีซากเมืองโบราณ “เฮียราโปลิศ” (Hierapolis) .. ซึ่งกษัตริย์ ยูเมนิสที่ 2 แห่งพอกามันทรงก่อตั้งขึ้น เพื่อเป็นเมืองตากอากาศ นครนี้พังทลายเพราะเกิดแผ่นดินไหวเมื่อปี 17 และ 60 .. แต่มีการสร้างเมืองขึ้นใหม่ทันทีด้วยทุนจากจักรวรรดิโรมัน และรุ่งเรืองสูงสุดในศตวรรษที่ 2 และ 3 แต่ก็เริ่มเสื่อมถอยลงไปในศตวรรษที่ 6 และกลายเป็นส่วนหนึ่งของปามุกคาเล่ในที่สุด
ว่ากันว่า .. ตัวเมืองมีความยาวถึง 2.7 กิโลเมตร กว้าง 0.6 กิโลเมตร สูง 160 เมตร ตั้งอยู่เหนือหน้าผา ซึ่งตอนนี้พังทลาย เหลือแต่ซากเมืองที่เหลือเพียงฐานราก เสาอาคารที่ล้มขาดเป็นท่อนๆ เศษอิฐและก้อนหินกระจายข้ารมกาลเวลา ให้เราได้นึกย้อนจินตนาการไปถึงห้วงเวลาเมื่อเมืองยังคงสมบูรณ์
Necropolis .. จากหน้าทางเข้า จะมองเห็นสิ่งก่อสร้างไกลๆรูปร่างไม่สูงใหญ่นัก นั่นคือหลุมศพของชนชั้นสูงในสมัยโบราณ ที่เรียกว่า เนโครโพลิส
ในบริเวณนี้ ยังคงเหลือซากของดบราณสถานหลายอย่างให้เดินชม เช่น ซุ้มประตู โดมิเทรียน (Arch of Domitian) โรงอาบน้ำ โบสถ์ The Nymphaeum of Triton ซึ่งเป็นสถานที่สักการะบูชานางไม้ (Nymphs) .. เสียดายที่เราไม่มีเวลาพอที่จะเข้าไปชมรายละเอียด
.. สิ่งที่เห็นไกลๆ เหมือนเมืองในเทพนิยาย แม้จะเหลือเพียงซากเศษหักพังอยู่เกลื่อนกลาด แต่เศษหินเหล่านี้ล้วนเคยประกอบกันเป็นเมืองใหญ่บนยอดเขาแห่งนี้
ปามุคคาเล่ หรือ ปราสาทปุยฝ้าย … เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของประเทศตุรกี ความโดดเด่นของที่นี่ คือ ทิวทัศน์ที่งดงามของหน้าผาหินปูนสีขาวเหมือนหิมะ ที่ไล่ระดับลดหลั่นกันลงมา .. เป็นรูปลักษณ์ของปราสาทปุยฝ้ายสีขาวที่แข็งแกร่ง ไม่อ่อนนุ่มเหมือนปุยฝ้ายจริงๆ ทว่างดงามเหมือนฝัน
ในแต่ละชั้นจะมีแอ่งน้ำแร่จากน้ำพุร้อน ที่เรียกกันว่า Travertine hot Spring อันเป็นแหล่งสปาตามธรรมชาติที่มีมาแต่โบราณ .. น้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณภูมิ 35-100 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นแหล่งที่มีแร่หินปูน ไหลลงมาจากภูเขา “คาลกาดี” รินเอ่อล้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามแนวยาวกว่า 320 เมตร … เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตา และโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก
แคลเซี่ยมไบคาร์บอเนตในน้ำพุร้อนที่ไหลลงมาตามเนินเขา .. เมื่อน้ำระเหยและเย็นลง หินปูนที่สะสมทับถมกันเป็นชั้นช่อ บ้างเป็นแอ่งกลมเหมือนเปลือกหอย
รูปร่างจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศที่บางแห่งค่อยๆลาดเอียงลงมา น้ำไหลจากแอ่งหนึ่งไปอีกแอ่งหนึ่ง กลายเป็นลำธารและแอ่งน้ำที่มีหินปูนสะสม .. ที่เมืองไทยก็มีลักษณะแบบนี้อยู่หลายแห่ง เช่น ที่สระมรกต แต่ขนาดไม่ใหญ่โตเท่าที่ในตุรกี
น้ำตกบางแห่งมีน้ำร้อนจากใต้บาดาลละลายหินปูนได้เยอะ มีน้ำไหลโกรกออกมาจำนวนมหาศาล ก่อนจะไหลลงมาตามหุบผา หินปูนตกตะกอนกลายเป็นชั้นหินผาใหญ่โตจนแทบไม่น่าเชื่อ .. บางช่วงเป็นหน้าผาที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นมาทีเดียว หินปูนปกคลุมทั้งหน้าผายาวหลายกิโลเมตร เหนือพื้นดินถึง 200 เมตร สามารถมองเห็นสีขาวโพลนได้แต่ไกล
น้ำแร่มีอุณหภูมิอุ่นๆ จากความดันของความร้อนใต้พิภพ .. เชื่อกันว่าน้ำแร่ของที่นี่มีคุณสมบัติในการรักษาโรคบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ โรคไต และโรคไขข้ออักเสบ เป็นต้น .. เรามีโอกาสแค่ได้เดินเหยียบลงไปบนหินสีขาว และย่ำในในบางจุด ก็รู้สึกเหมือนได้บำบัดด้วยน้ำแร่อุ่นๆ
.. การเดินบนพื้นหินปูน เป็นประสบการณ์ที่พิเศษ แต่ต้องค่อยๆเดินอย่างระวังตัว เพราะลื่นมาก คนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะไปโพสท่าถ่ายรูป
.. ภาพทิวทัศน์โดยรอบพื้นที่สวยงาม น่าตลึงความงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ .. แม้ว่าช่วงที่เราไปเยือนจะเป็นช่วงเวลาที่แห้งแล้ง ไม่มีน้ำขังในแอ่งน้ำให้มองเห็นความมหัศจรรย์ของน้ำแร่สีฟ้าพาสเทล ใสกิ๊ง และยังไม่สวยถึงขีดสุด ... แต่บรรยากาศทั่วไปยังคงสวยจนบรรยายไม่ถูก และยังคงสวยงามไม่เสื่อมคลาย แม้จะมีนักท่องเที่ยวมาฝากรอยเท้ากันไว้มากเพียงใดก็ตาม
ทางเลียบหน้าผา จะมีทางแยกออกไปสู่พื้นที่ต่างๆ .. ทั้งผ่านเข้าไปยังพิพิธภัณฑ์ และบ่อน้ำโรมัน และอีกหลายสถานที่
Hierapolis Museum .. อาคารที่ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน เดิมเคยเป็นโรงอาบน้ำกลางที่ใหญ่ที่สุดของเมือง แต่ใช้เป็นพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์มาตั้งแต่ปี 1984
ชิ้นงานทางโบราณคดีที่เก็บไว้ที่นี่ มีทั้งมาจาก Hierapolis และเมืองอื่นๆอีกด้วย
Antique Pool … เป็นบ่อกลางแจ้งขนาดใหญ่ แต่มีหลังคากันแดดกันฝน เป็นสระว่ายย้ำโบราณ ที่น้ำสีฟ้าอ่อนอมเขียวสวยมาก ก้นบ่อเต็มไปด้วยเสาหินโรมันโบราณ ดูแล้วตื่นตาตื่นใจมาก เป็นบรรยากาศที่ไม่ธรรมดาเลย
น้ำในบ่อค่อนข้างอุ่น เพราะเป็นน้ำแร่ น่าลงไปแช่ตัวมาก .. เสียดายที่ไม่ได้เตรียมตัวมาให้พร้อม
สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้บริการของสระว่ายน้ำ สามารถเข้ามาถ่ายรูป หรือนั่งพักผ่อนได้ฟรี ที่นี่มีปั๊มน้ำแร่ที่มีป้ายบอกถีงสรรพคุณของแร่ธาตุที่เป็นส่วนประกอบ และดื่มน้ำได้ฟรี
จากสระแห่งนี้ สามารถเดินขึ้นเนินชันตรงไปยังโรงละครโรมัน (Roman Theatre) ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 2 ด้วยการสกัดเข้าไปในไหล่เขาเพื่อทำเป็นอัฒจันทร์ สามารถจุคนได้มากถึงประมาณ 12,000 คน เป็นสถาปัตยกรรมที่แสดงเห็นถึงภูมิปัญญาและความสามารถอันน่าทึ่งของคนในสมัยโบราณ
เราไม่ได้เดินไปยังโรงละคร .. แต่เลือกซูมกล้องไปเก็บภาพด้านนอกแทนค่ะ
เราพักที่ Pam Thermal Hotel .. ซึ่งมีที่แช่น้ำแร่ภายในโรงแรม เป็นที่พักที่มีชื่อเสียง ดาราจากฮอลลีวู้ดบางคนก็เคยมาพักที่นี่
โรงแรมแห่งนี้ มีน้ำแร่สีแดงอยู่ภายในโรงแรม แขกของโรงแรมสามารถลงไปแช่ตัว หมักโคลน อบซาวน่า สตรีมได้ฟรี
บรรยากาศโดยรวมน่ารื่นรมย์มากค่ะ และ Selection ขอวอาหารดีทีเดียวค่ะ
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลกกับพี่สุ … รวม link บทความที่เขียนในเพจ ..
***เมืองไทย ไดอารี่ by Supawan
***Supawan’s colorful world
***สถานีอร่อย by Supawan
โฆษณา