Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
isalmonyu
•
ติดตาม
13 ต.ค. 2021 เวลา 12:49 • อาหาร
ว่าด้วยเรื่องของ “ปลาแซลมอน”
isalmonyou หรือตามชื่อแอคเคาท์เรา คงเดาไม่อยากว่าความหมายของประโยคนี้คืออะไร คือการล้อมาจาก i love you นั่นแหละ แต่เปลี่ยนเป็นคำว่า salmon แทน เหมือนกับว่า ฉันรักเธอเท่าแซลมอนเลยล่ะ เราชอบแซลมอนมากถึงมากที่สุด ด้วยความชอบนี่เอง เราจึงได้เสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับปลาแซลมอน และได้พบเรื่องราวของมันจากประเทศนอร์เวย์ จึงเป็นที่มาของการเล่าเรื่องให้ฟัง
จริง ๆ แล้วปลาแซลมอนมีต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีทั้งกระแสน้ำเย็นและน้ำอุ่นด้วยกัน เลยกลายเป็นประเทศเหมาะสมต่อการเลี้ยงปลาแซลมอนโดยธรรมชาตินั่นเอง และความพิเศษของของปลาแซลมอนคือ มันจะว่ายทวนกระแสน้ำ โดยที่มันจะวางไข่ในน้ำจืด พอพวกมันโตขึ้นก็จะว่ายไปที่น้ำเค็ม จึงเป็นที่มาของคำว่า ปลาสองน้ำ
ที่นอร์เวย์เป็นประเทศที่ส่งออกปลาแซลมอนมากที่สุดในโลก และยังมีฟาร์มเลี้ยงปลาแซลมอนอีกมาก โดยเลี้ยงในกระชังที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางระหว่าง 50-200 เมตร ลึก 20-50 เมตร ขึ้นอยู่กับประชากรปลาแต่ละฟาร์มด้วย และที่สำคัญจำนวนปลาในกระชังจะต้องมีไม่เกิน 2.5% ของกระชัง เพื่อที่จะได้มีพื้นที่สำหรับว่ายน้ำ นอกจากนี้ในแต่ละฟาร์มก็ยังมีห้องควบคุมในเรื่องของการว่ายของปลา อาหาร และสภาพแวดล้อมอีกด้วย พอฟังแล้วก็อิจฉาคุณภาพชีวิตปลาแซลมอนขึ้นมาทันที
แม้ว่าจะเป็นประเทศที่ส่งออกปลาแซลมอนมากที่สุดในโลก แต่ขั้นตอนก่อนจะส่งออกนั้นก็ยังมีอีกมาก เพื่อที่จะให้ทำผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพ ทางนอร์เวย์มีสถาบันวิจัยด้านอาหารทะเลและโภชนาการแห่งชาติขึ้นมาเพื่อทำการสุ่มตรวจคุณภาพของปลาแซลมอนแต่ละฟาร์ม หากฟาร์มไหนมีสารปนเปื้อนก็จะถูกดำเนินการทางกฎหมายทันที
สีของเนื้อปลาแซลมอนก็สำคัญไม่แพ้กัน หลังจากผ่านกระบวนการการทำความสะอาดแล้ว จะต้องทำการวัดค่าสีของปลาแซลมอนแต่ละตัว เพื่อให้ได้คุณภาพที่ดี ค่าสีปลาแซลมอนจะอยู่ที่ 24-28 หากตรงตามสีที่วางมาตรฐานไว้ ปลาแซลมอนตัวนั้นก็สามารถส่งออกได้ เรียกได้ว่าการจะมาผ่านประเทศไทย น้องเองก็พยายามอย่างเต็มที่ในการดูแลตัวเอง
หลายคนสงสัยว่าที่ญี่ปุ่นก็มีปลาแซลมอน แล้วทำไมต้องนอร์เวย์ ในอดีตนอร์เวย์ได้ประสบกับปัญหาประชากรแซลมอนล้นตลาด จึงพยายามมองหาหนทางที่จะส่งออกพวกมัน ขณะเดียวกันในปี 1970 ญี่ปุ่นเองก็มีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการอาหารก็เพิ่มตาม ญี่ปุ่นก็มองหาอาหารทะเลน้ำเข้าเช่นกัน
เมื่อปี 1980 ปลาแซลมอนได้เดินทางเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นครั้งแรกจากการเชื่อมสัมพันธไมตรีของนอร์เวย์ โดย Thor Listua ในปี 1974 ในช่วงแรกคนญี่ปุ่นนิยมทานแบบสุกมากกว่า เพราะในทะเลแปซิฟิกเองก็มีปลาแซลมอน แต่ปลาแซลมอนของญี่ปุ่นนั้นมีพยาธิ ทำให้พวกเขาไม่นิยมทานดิบ ซึ่งการเข้ามาปลาแซลมอนในนอร์เวย์ช่วงแรกคนญี่ปุ่นก็ยังไม่กล้าทานดิบด้วย เพราะเชื่อว่าแซลมอนทุกสายพันธุ์มีพยาธินั่นเอง แม้ว่าทางนอร์เวย์จะพยายามโปรโมทกระบวนการเลี้ยงปลาแซลมอนแล้วก็ตาม
แต่เมื่อปี 1992 Olsen หนึ่งในคณะรัฐมนตรีส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของนอร์เวย์ ได้ร่วมมือกับร้านอาหารแช่แข็งญี่ปุ่นที่ชื่อ Nichirei ในการซื้อปลาแซลม่อน 5,000 ในราคาถูก โดยมีข้อแม้ว่า ร้าน Nichirei จะต้องโปรโมทอาหารจากแซลมอนที่สามารถรับประทานแบบดิบได้
Nichirei ได้ลองทำซูชิแซลมอนสู่ตลาด ก็ทำให้คนญี่ปุ่นเกิดความเคยชิน ต่อมาในปี 1995 ซูชิแซลมอนเริ่มได้การยอมรับจากร้านอาหารญี่ปุ่นมากขึ้น ด้วยรสชาติที่นุ่มละมุนลิ้น เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ซูชิแซลม่อนจึงกลายเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
และนี่ก็เป็นเรื่องราวทั้งหมดของปลาแซลมอน เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงยกให้เป็นอาหารจานโปรดเหมือนกับเราเลยก็ว่าได้ เหมือนกับที่เรารักมันจนถึงขั้นเอามาตั้งชื่อเลยล่ะ
อ้างอิง
https://today.line.me/th/v2/article/vBv5qm
https://www.youtube.com/watchv=0nqcuh0n1JU&t=813s
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย