15 ต.ค. 2021 เวลา 23:31 • ประวัติศาสตร์
ทำไมสิงคโปร์ต้องถอนตัวออกจากสหพันธ์มาเลเซีย?
ความสัมพันธ์ทางภูมิศาสตร์ระหว่างสิงคโปร์และมาเลเซีย
นายกรัฐมนตรีลีกวนยูของสิงคโปร์ เคยกล่าวไว้ว่า สิงคโปร์อาจพิจารณาเข้าร่วมสหพันธ์มาเลเซียอีกครั้ง หากมาเลเซียสามารถให้โอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมกันแก่ชาวจีนและชาวอินเดีย อันที่จริง ต้นปี 1996 ลีกวนยูเคยยื่นข้อเสนอให้สิงคโปร์กลับไปยังสหพันธรัฐมาเลเซีย โดยที่มาเลเซียต้องละทิ้งนโยบายบางอย่าง แต่นายกรัฐมนตรีมหาธีร์ของมาเลเซียในขณะนั้นเชื่อว่า 'เวลายังไม่สุกงอม' และปฏิเสธคำขอของลีกวนยู เหตุใดลีกวนยูจึงเสนอให้สิงค์โปร์กลับสหพันธรัฐมาเลเซีย 2 ครั้ง ความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ระหว่างสิงคโปร์และมาเลเซียเป็นอย่างไร
ภาพโดย Sasin Tipchai จาก Pixabay
สิงคโปร์และมาเลเซียเคยอยู่สหพันธ์เดียวกัน
สิงคโปร์และมาเลเซียคั่นด้วยช่องแคบยะโฮร์กว้าง 1,400 เมตร ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมากทั้งในด้านภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และความสัมพันธ์ทางสายเลือด ฯลฯ ประชาชนทั้งสองประเทศมีการติดต่อกันบ่อยครั้งและมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน
ในอดีต สิงคโปร์เคยอยู่ในสหพันธ์มาเลเซีย ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ถึงต้นศตวรรษที่ 19 สิงคโปร์เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรมลายูแห่งยะโฮร์ ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 สิงคโปร์ถูกกองทัพญี่ปุ่นยึดครอง หลังจากที่ญี่ปุ่นยอมจำนนในปี 1945 อังกฤษได้กลับมาปกครองอาณานิคมเหนือสิงคโปร์อีกครั้ง ในเดือนมิถุนายน 1959 สิงคโปร์ดำเนินการปกครองตนเองภายในและกลายเป็นรัฐอิสระ
ภาพโดย akenarinc จาก Pixabay
ย้อนกลับไปในสมัยนั้น สิงคโปร์ในฐานะรัฐปกครองตนเองของอังกฤษประสบปัญหาและไม่สามารถอยู่รอดได้ด้วยตนเอง พรรคประชาชนของลีกวนยู นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ในขณะนั้นต้องการรวมเข้ากับมลายู ตอนนั้น ตุนกู อับดุล ระฮ์มัน นายกรัฐมนตรีแห่งสหพันธรัฐมาลายาชั่งน้ำหนักซ้ำแล้วซ้ำอีก เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 1961 ได้มีการเสนอแผนจัดตั้ง 'มาเลเซีย' แผนดังกล่าวได้รวมสิงคโปร์ ซาราวัก ซาบาห์ และมาลายาเข้าเป็นประเทศใหม่ คือ มาเลเซีย แผนดังกล่าวได้รับการรับรองจากทุกฝ่ายที่กล่าวถึงข้างต้น เมื่อวันที่ 16 กันยายน 1963 สิงคโปร์ถูกรวมเข้ากับมาเลเซียอย่างเป็นทางการ
การแยกตัวสิงคโปร์ออกจากสหพันธ์มาเลเซีย
แต่การควบรวมประเทศไม่ได้นำความเจริญรุ่งเรือง และความมั่นคงมาสู่สิงคโปร์ อย่างแรกเลย เดิมสิงคโปร์คิดว่าจะสามารถได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากขึ้นหลังจากเข้าร่วมมาเลเซีย โดยไม่คาดคิด อินโดนีเซียไม่พอใจกับการปรากฏตัวของประเทศเพื่อนบ้านที่มีอำนาจอยู่ข้างๆ โดยไม่คาดคิด ภายหลังการก่อตั้งมาเลเซีย อินโดนีเซียได้ตัดความสัมพันธ์ทางการฑูตกับมาเลเซียและห้ามนักธุรกิจชาวมาเลเซียทำธุรกิจในอินโดนีเซีย ส่งผลให้นักธุรกิจชาวสิงคโปร์หลายคนล้มละลายด้วยเหตุนี้
ภาพโดย Jason Goh จาก Pixabay
การควบรวมประเทศล้มเหลวในการกระชับความสัมพันธ์ทางเชื้อชาติที่ตึงเครียดระหว่างมาเลเซียและสิงคโปร์ เกิดการจลาจลทางชาติพันธุ์สองครั้งระหว่างชาวจีนและมาเลย์ปะทุขึ้นในสิงคโปร์ ซึ่งก่อให้เกิดความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างรัฐบาลมาเลเซียและรัฐบาลสิงคโปร์ เพื่อบรรเทาความขัดแย้ง ในต้นเดือนสิงหาคม 1965 ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงระหว่างกัน เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม สิงคโปร์ประกาศแยกตัวจากมาเลเซียและจัดตั้งสาธารณรัฐอิสระ ในเดือนกันยายนของปีเดียวกัน สิงคโปร์กลายเป็นสมาชิกของสหประชาชาติและเข้าร่วมเครือจักรภพในเดือนตุลาคม แต่จนถึงทุกวันนี้ ยังคงมีรูปเสืออยู่ทางด้านขวาของสัญลักษณ์ประจำชาติสิงคโปร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์ระหว่างสิงคโปร์และมาเลเซีย
1
สิงคโปร์และมาเลเซียทะเลาะกันมานานหลายทศวรรษ
1
หลังจากที่สิงคโปร์ได้แยกแแกมาจากมาเลเซีย แม้ว่าทั้งสองประเทศจะไม่เคยทำสงครามที่ดุเดือดจริงๆ แต่ทั้งสองประเทศก็ต่อสู้กันอย่างต่อเนื่อง
1
เป็นเวลานานที่สิงคโปร์พึ่งพามาเลเซียอย่างมากในเรื่องน้ำประปา และทั้งสองประเทศมักมีข้อพิพาทในประเด็นนี้ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความวิตกทางการเมืองที่อ่อนไหวที่สุดของทั้งสองประเทศ
ในปี 1961 และ 1962 สิงคโปร์และมาเลเซียได้ลงนามในสัญญาการจัดหาน้ำ 2 ฉบับ ในขณะนั้น มีการตกลงกันว่ารัฐยะโฮร์ของมาเลเซีย จะจัดหาน้ำดิบให้แก่สิงคโปร์ ซึ่งหมดอายุในปี 2011 และ 2061 ตามลำดับ ปัญหาคือราคาน้ำตกลงกันในเวลานั้น รัฐยะโฮร์ขายให้สิงคโปร์ในราคา 3 เซ็นต์ต่อน้ำดิบหนึ่งพันแกลลอนและซื้อน้ำสะอาดคืนที่ 50 เซ็นต์ต่อพันแกลลอน อย่างไรก็ตาม ฝ่ายมาเลเซียตอนนี้รู้สึกว่าราคาน้ำต่ำเกินไปและจึงจำเป็นต้องปรับราคาใหม่ แต่จนถึงขณะนี้ ทั้งสองฝ่ายยังไม่บรรลุฉันทามติ เจ้าหน้าที่ทหารอาวุโสของมาเลเซียเคยแสดงความกังวลว่าหากปัญหาน้ำประปาในมาเลเซียและสิงคโปร์ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างเหมาะสม อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางทหารระหว่างทั้งสองประเทศขึ้นได้
ภาพโดย Holger Detje จาก Pixabay
Agence France-Presse รายงานในปี 2002 ว่าองค์กรหัวรุนแรงมาเลย์ที่เรียกตัวเองว่า 'Tiger' อ้างว่าสิงคโปร์และมาเลเซียจะเข้าสู่สงครามภายในสามปี องค์กรดังกล่าวได้ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับ 'ประเทศที่ใกล้จะเกิดสงคราม: สิงคโปร์และมาเลเซีย' บนเว็บไซต์ 'การคาดการณ์' ว่าสิงคโปร์จะกลับคืนสู่มาเลเซียในปี 2005 ในขณะเดียวกัน องค์กรนี้ยังใช้อินเทอร์เน็ตในการเกณฑ์ทหาร รับสมัครหาชายที่แข็งแกร่งซึ่งได้รับการฝึกทหารเพื่อเข้าร่วมกองทัพ แม้ว่านี่จะเป็นเพียงคำพูดสุดโต่ง แน่นอนว่าผู้คนหัวเราะเยาะ แต่ก็ได้กระตุ้นความสนใจของผู้คนให้สนใจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างทั้งสองประเทศนี้
ในปัจจุบัน มีปัญหาที่ยังไม่ได้แก้ไขของทั้งสองประเทศยังรวมถึง: ข้อพิพาทเกี่ยวกับเกาะ Pedra Branca และโครงการถมทะเล การแลกเปลี่ยนที่ดินของบริษัทรถไฟมาเลเซียที่สถานีรถไฟตันจงปาการ์และการย้ายสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย กองทัพอากาศสิงคโปร์ที่บินผ่านน่านฟ้าของมาเลเซีย ฯลฯ
ภาพโดย b1-foto จาก Pixabay
โฆษณา