16 ต.ค. 2021 เวลา 09:30 • สุขภาพ
อั๋นย๊องงงงง​ 🤟🏻😘 หลายเดือนที่ผ่านมา​ มาดามมีเหตุทำให้ต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตมากมาย​ ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่เหมือนเดิม​ ในที่สุด​จึงถอยรถเข็นไฟฟ้าบังคับมือมาเมื่อประมาณ​ 2 สัปดาห์แล้วค่ะ พอเริ่มชินกับมันแล้งก็โอเคนะคะ อาศัยว่าไปในที่ทางที่เหมาะสมก็ดูแลพึ่งพาตัวเองได้ดีเลยค่ะ จะมีก็ตอนยกรถเข็นขึ้นลงรถที่ต้องลำบากอปป้า 🙏🏻
ปัญหาคือ... ประเทศไทยเนี่ย​ เฉพาะกรุงเทพก่อนก็ได้​ ที่ทางที่เหมาะสมมีน้อยมาก​ ส่วนใหญ่ต้องมีเป็นขั้นหน้าร้านหน้าตึก​ และไม่มี​ทางลาด​ หรือถ้ามีก็ไม่ได้ทำเพื่อให้รถเข็นขึ้นได้จริง​ เพราะชันเป็นเขาเหลียงซานเลยไรงิค่ะ​ ⛰️
บางห้างบางตึกมีที่ทางครบ​ เหมาะสมทุกประการ​ แต่ห้างมีการวางของต่างๆ​ รวมถึงยอมให้ร้านค้ายื่นออกมาขวางทางเดิน หรือบางห้างบริหารจัดการทางส่วนกลางได้ดี​ แต่พอแยกร้าน​ ก็เหลือแค่ไม่กี่ร้านที่ให้เราขับรถเข็นเข้าไปได้เองโดยไม่รบกวนใคร
เราพบว่า... ถ้าที่ไหนคำนึงเรื่องรถเข็น​และบริหารจัดการโดยไม่เบียดบังความสำคัญของการมีรถเข็นอยู่ร่วมสังคมกัน ก็จะใช้ชีวิตสบายมาก​ ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นเท่าไหร่
Universal design เป็นสิ่งสำคัญมากจริงๆ​ นะคะ​ ก่อนหน้านี้มาดามออกแบบตึกอาคารของตัวเองโดยการนึกถึงทางลาดและคนนั่งรถเข็นด้วยความเห็นใจ​ แต่พอต้องมานั่งรถเข็นจริงๆ​ พบว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องความสะดวก​ของคนนั่งและผู้ดูแล​ (ที่ไม่ต้องคอยยกรถขึ้นลง)​ แต่มันเป็นเรื่องของการสนับสนุนให้คนรถเข็นสามารถพึ่งพาตัวเองได้​ ซึ่งสุดท้าย... มีผลต่อความรู้สึกมีคุณค่าของเขาเลย...
ยิ่งเห็นว่าตัวเองเป็นภาระก็ยิ่งรู้สึกไร้ค่า​ ในขณะเดียวกัน​ ยิ่งดูแลพึ่งพาตัวเองได้​ ก็ยิ่งมีความเท่าเทียมทางใจมากขึ้นเท่านั้น​
มาดามอ่ะ​ ส่วนใหญ่ยังลุกนั่งพึ่งพาตัวเองได้​ยังรู้สึกขนาดนี้... มันคงเป็นเหตุผลที่เราแทบไม่เคยเห็นคนที่ต้องนั่งรถเข็น​ โดยเฉพาะคนที่ต้องอยู่บนรถเข็น 100% ไปไหนมาไหนอยู่ในสังคมปกติ... ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยาก... แต่เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ได้​ "อนุญาต" ให้เขามาหรือเปล่า...
ที่น่าคิดคือ... รถเข็น👩🏻‍🦽ไม่ใช่​ไลฟ์สไตล์... คนที่นั่งรถเข็นไม่ได้เลือกวิถีชีวิตที่ต้องนั่งรถเข็น... แต่การออกแบบและการบริหารจัดการพื้นที่ๆ​ คำนึงถึงทุกคน... กลับยังไม่​ mandotory และยังเป็นทางเลือกที่เจ้าของอาคารและผู้ประกอบการเลือกได้... แต่เราก็โทษผู้ประกอบการและเจ้าของอาคารไม่ได้​หรอก​ เพราะการนั่งเข็นเป็นประสบการณ์​เฉพาะ​ ที่ถ้าไม่เคยต้องใช้ชีวิตบนนี้ก็ไม่มีทางจะนึกออกเลย
เราเอง... ก่อนหน้านี้ก็เคยมองข้ามเรื่องนี้ไปในหลายครั้งเช่นเดียวกัน
แอบย้อนนึกถึงตอนไปเที่ยวประเทศเบลเยียม​ และประเทศแถบสแกนดิเนเวียหลายๆ​ ที่​ มาดามเห็นว่าในกลุ่มเพื่อนที่เดินเล่นกันริมถนน​ มีทั้งคนเดินเท้าและรถเข็นอยู่ปนกันเดินคุยเล่นไปด้วยกันเป็นปกติมาก
ที่บ้านใหม่ซึ่งด้านล่างจะมีกาแฟและอาหาร​ ชั้น​ 2 เป็นสตูดิโอและห้องประชุม​ ชั้น​ 3 มีห้องพัก​ ตอนนี้ดีใจมากที่ออกแบบไว้เป็นแนว​ flat ไร้ขั้นบันไดในชั้นและมีลิฟท์​ขึ้นลง​ เป็นลิฟท์บ้านสำหรับรถเข็นด้วย​ (ปัจจัยหลายอย่างทำให้ต้องเลือกลิฟท์นี้ตั้งแต่แรก)​ เพราะตอนนี้พบว่าที่ๆ​ รองรับคนทุกคนอย่างแท้จริง... ที่ให้ทุกคน​ hang out ชิลด้วยกันได้จริงๆ... มีน้อย... มาก...
ตอนนี้ที่ต้องทำเพื่มคือทางเข้าออกตึกของรถเข็น​ ซึ่งดั้งเดิมมีแผนทำอยู่แล้ว​แค่ว่าตั้งใจจะเก็บไว้​ phase II​ เพราะงบหมด​ 🤣🤣🤣 ตอนนี้ก็แค่เลื่อนขึ้นมาทำเลย... และต้องติดราวพยุงตัวเพิ่ม​ เสียดายที่ห้องน้ำเล็กไปนิด​ คือรถเข็นเข้าได้แต่ไปได้ไม่ถึง​ตัวโถ​ และอ่างล้างมือก็สูงไปหน่อย... เลยไม่ถึงกับ​ wheelchair fully accessible 😅 แต่ก็เรียกได้ว่า super wheelchair friendly คือเป็นมิตรกับรถเข็นมาก​ และตั้งใจให้​สัตว์เลี้ยงเข้าได้​ เพื่อการ​ hang out ของทุกคน​ 🐺
1
คิดดี... ทุกอย่างดีงาม... เหลือแค่... เสร็จพร้อมเมื่อไหร่นะ​ 🤣🤣🤣🤣
โฆษณา