18 ต.ค. 2021 เวลา 05:05 • หนังสือ
เรากำลังปลูกนิสัยอะไร?
1.
เคยได้ยินประโยคนี้ไหมครับ? "Old Habits Die Hard" แปลเป็นไทยแบบสุภาพหน่อยก็คือ "นิสัยเก่าแก้ยาก" แต่ถ้าแปลแบบสะใจหน่อยก็คือ "สันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก" ผมเคยเขียนประโยคนี้ไว้ในหนังสือ "งานไม่ประจำทำเงินกว่า" เมื่อหลายปีก่อน
5
ภาพถ่ายโดย Markus Spiske จาก Pexels
นิสัยนั้นสำคัญกับชีวิตเรามาก เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงหนังสือ 2 เล่ม เล่มแรก The Power of Habit (มีแปลไทยแล้วชื่อ สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยนิสัยแค่ 1% สำนักพิมพ์วีเลิร์น) และเล่มที่สอง Writing Habit Mastery (เล่มนี้ไม่มีแปลไทย ซื้ออ่านแบบ kindle ได้ที่ amazon) ทั้งสองเล่มเชื่อมโยงกันในหัวผม จนอยากนำมาเล่าให้ฟัง
The Power of Habit ศึกษากันเป็นเรื่องเป็นราวถึงการเกิดขึ้นของ "พฤติกรรม" ที่ค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็น "นิสัย" โดยผู้เขียนบอกว่าวงจรนิสัยนั้นเกิดจากการมีสิ่งกระตุ้นให้เราทำบางอย่างเป็นประจำ โดยเราจะโหยหาถึง "รางวัล" ที่จะได้รับหลังทำกิจกรรมนั้น
ส่วน Writing Habit Mastery นั้นพูดถึงเรื่องการฝึกเขียนหนังสือ "ทุกวัน" จนเป็นนิสัย ซึ่งนอกจากเรื่องงานเขียนที่ทำจนเป็นนิสัยแล้ว ผู้เขียนยังชวนให้เข้าไปใน blog ของเขาเพื่อดูว่าเขา "ปลูก" นิสัยอะไรไว้บ้าง เช่น นิสัยการอ่านหนังสือวันละครึ่งชั่วโมงก่อนนอน เป็นต้น โดยประเด็นที่ผมชอบมากก็คือ ผู้เขียนบอกว่าคนเราสร้างนิสัยใหม่ได้ทีละนิสัย และต้องใช้เวลาอย่างน้อย "หนึ่งเดือน" กว่าพฤติกรรมนั้นจะติดเป็นนิสัย
หนังสือทั้งสองเล่มนี้ทำให้ผมนึกถึง 2 เรื่องที่น่าสนใจ
เรื่องแรก แปลว่าเราสร้างนิสัยอะไรให้ตัวเองก็ได้ ขอเพียงแค่ "ปลูก" นิสัยนั้นให้นานพอ ด้วยการทำต่อเนื่องประมาณ 1 เดือน นิสัยที่เป็นเหมือนต้นอ่อนจึงจะแทงรากลงไปในกิจวัตร เราจะทำพฤติกรรมนั้นได้โดยไม่ต้องคิด แต่ทำไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งนั่นคือ "นิสัย" นั่นเอง
เรื่องที่สอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าอยากปลูกนิสัยให้สำเร็จ แปลว่าเราต้องมีแรงบันดาลใจมากพอ จึงจะขยับเขยื้อนทำสิ่งใหม่ ๆ ซึ่ง "แรงบันดาลใจ" ที่ว่านี้จะเป็น "แรงผลัก" หรือ "แรงดูด" ก็ได้
บรรทัดต่อจากนี้ ผมจะค่อยๆ อธิบายเรื่องเหล่านี้เพิ่มเติมครับ
2.
หลายปีก่อน ผมเฝ้าปลูกนิสัยการออกกำลังกาย เนื่องจากชีวิตแทบไม่ได้ออกกำลังเลย นั่ง ๆ นอน ๆ ทั้งวัน เพราะทำงานที่ใช้ความคิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผมรู้ว่าขืนยังเป็นอย่างนี้ต่อไป โรคภัยจะต้องถามหาแน่ๆ หมอก็เตือนมาหลายครั้งแล้ว
แต่อย่างที่รู้ นิสัยขี้เกียจนั้นยากจะทำลาย นิสัยที่เกิดขึ้นแล้ว แทบไม่มีทางทำลายได้ สิ่งที่พอทำได้ก็คือ "ปลูกนิสัยใหม่" ทับนิสัยเก่านั้นเสียเลย ช่วงนั้นผมจึงตัดสินใจปลูกนิสัยใหม่ (ออกกำลังกาย) แต่แค่วิ่งหน้าหมู่บ้านได้สองวัน ผมก็เลิกแล้ว การทำต่อเนื่องระดับ 1 เดือนจึงไม่เคยเกิดขึ้น ให้ออกกำลังอย่างเดียว ผมขี้เกียจแน่ ๆ เพราะแรงในการ "ผลัก" ผมให้หนีตาย ยังมีไม่มากพอ
ทุกคนกลัวตาย ใครก็รู้ แต่เห็นไหมว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ออกกำลังกายอยู่ดี
และแล้วในที่สุด ผมก็ค้นพบวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างนิสัยใหม่ ผมทำแบบนี้ครับ ผม "ผูก" การออกกำลังกายเข้ากับความสุข ด้วยการซื้อเครื่องออกกำลังกายมาไว้ที่บ้านเสียเลย จากนั้นผมก็วิ่งไป ดูหนังไปด้วย
2
วิธีนี้ "ดึงดูด" ผมได้มาก เพราะมันได้ผล สิ่งแรกที่ผมทำตอนตื่นก็คือวิ่งออกกำลังไปด้วย ดูหนังไปด้วย 45 นาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหงื่อท่วมร่าง หลายครั้งผมไม่อยากหยุดออกกำลัง เพราะเพิ่งดูหนังได้แค่ครึ่งเรื่อง
1
(หมายเหตุ : บทความนี้ผมเขียนไว้นานแล้ว นำมารีไรท์ใหม่ ปัจจุบันผมไม่ได้ออกกำลังด้วยการวิ่ง แต่ทุกเช้ายังยืดเส้นเล่นโยคะ ซิทอัพ แพลงค์ เดินวันละไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นก้าว ตอนเย็นตีแบดกับลูกสาว และเล่มเกมเต้นปิดท้ายตอนกลางคืน ทั้งหมดนี้ใช้หลักการเดียวกันคือ ผูกการออกกำลังกายกับเรื่องอื่นที่สนุกกว่าการออกกำลังกาย (ในกรณีที่ไม่ชอบออกกำลังกายเหมือนผม) เพราะฉะนั้นแปลว่าวิธีนี้เวิร์คจริง ๆ ครับ)
1
ทั้งหมดที่เล่ามาเป็นตัวอย่างของการปลูกนิสัยใหม่ ๆ ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องออกกำลังกายเท่านัน จะเป็นการปลูกนิสัยอะไรก็ได้ ทั้งดีและแย่
แต่ปลูกทั้งที ก็ควรเป็นนิสัยที่ดีหน่อย ใช่ไหมครับ?
3.
เราสามารถปลูกนิสัยตื่นเช้า ปลูกนิสัยกินอาหารมีประโยชน์ ปลูกนิสัยพูดขอบคุณให้ติดปาก ปลูกนิสัยทำงานให้สำเร็จไม่คั่งค้าง ปลูกนิสัยตรงต่อเวลา
1
...ปลูกนิสัยอะไรก็ได้ครับ แต่ต้องทำให้นานมากพอ ซึ่งบางตำราก็เขียนไว้ว่าต้องไม่น้อยกว่า 21 วันติดกัน นิสัยถึงจะฝังแน่น เหมือนกาวที่แห้งแล้ว ยากจะดึงออก (ซึ่งเอาจริง กี่วันก็ได้ครับ ขอให้นานหน่อย)
1
นอกจากนานพอแล้ว ต้องอย่าลืมเรื่องสำคัญ นั่นคือ ต้องหาให้เจอว่าแรงอะไรที่ผลักเราไปข้างหน้า? จะเป็น "แรงผลัก" ให้เราพ้นจากสิ่งที่ไม่อยากเป็นอยู่ในทุกวันนี้ หรือจะเป็น "แรงดูด" ให้เราพุ่ง เพราะมีอะไรดี ๆ รออยู่ข้างหน้า
1
ทุกคนต้องหาให้เจอว่าอะไรที่ "สับไก" ให้เราพุ่งเป็นลูกกระสุน ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ ขอแค่สับไกเราให้ขยับไปข้างหน้าก็พอ เหมือนตัวอย่างที่ผมเล่าไปแล้วเรื่องการออกกำลังกาย คิดดูสิครับ "ความตาย" ยัง "ผลัก" ผมไม่ได้ แต่แค่ "การได้ดูหนัง" กลับ "ดึงดูด" ให้ผมออกกำลังกายได้
2
ถ้าวันนี้สิ่งที่เราอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ยังทำไม่ได้สักที เช่น ลดความอ้วนไม่ลง ขยันได้ไม่นานก็ขี้เกียจเหมือนเดิม ตั้งเป้าหมายแล้วก็ล้มเลิก ยอมแพ้ง่าย แกล้งตายบ่อย เป็นไปได้ว่าอาจเป็นเพราะ "ยังหาสิ่งที่สับไกเราไม่เจอ"
มันอาจเป็นเพราะแค่คำเพื่อนแซว มันอาจเป็นเพราะต้องการลบคำสบประมาท มันอาจเป็นเพราะแค่เราอยากพิสูจน์ให้ที่บ้านเห็น มันอาจเป็นเพราะมีคนรัก เราจึงอยากดีกว่าเดิม มันอาจเป็นเพราะเรามีลูกน้อยที่ต้องดูแล มันอาจเป็นเพราะเราอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น ฯลฯ
1
ผมไม่รู้ว่าคำตอบของแต่ละคนคืออะไร แต่มันเป็นคำถามที่น่าคิดหาคำตอบให้ได้ว่า "อะไรที่จะสับไกให้เราอยากปลูกนิสัยดี ๆ ให้ตัวเอง?"
นิสัยนั้นกำหนดชะตาชีวิตคนเรามากกว่าที่คิด เพราะส่วนใหญ่เราตัดสินใจทำหรือไม่ทำอะไรจากนิสัยเดิม ๆ ถ้ามันเป็นนิสัยที่ดี ชีวิตก็จะยิ่งดี ถ้ามันเป็นนิสัยแย่ ชีวิตก็จะยิ่งแย่
1
การปลูกนิสัยจึงสำคัญมาก ๆ เริ่มจากวันนี้ด้วยการถามตัวเองว่า "เดือนนี้ฉันจะปลูกนิสัยอะไร?" ทำมันต่อเนื่องให้ได้ตลอดทั้งเดือนนี้ เริ่มที่นิสัยเดียวก่อน ทำได้แล้วอย่าลืมให้รางวัลตัวเอง เราจะได้อยากทำซ้ำแล้วซ้ำอีก
1
เรื่องนี้สำคัญมาก อย่าอ่านข้อเขียนนี้แล้วแค่ชอบ แล้วผ่านเลยไป เป็นแค่ข้อความที่ประทับใจเท่านั้น แต่ขอให้ลงมือปลูกนิสัยดี ๆ แล้วชีวิตจะดียิ่ง ๆ ขึ้นไป
บอกผมหน่อยสิครับ "เดือนนี้คุณจะปลูกนิสัยอะไร?".
โฆษณา