20 ต.ค. 2021 เวลา 12:09 • หนังสือ
สร้างรายได้ "เปลี่ยนหลัก"
1
1.
สมมติว่าวันนี้เราหาเงินได้สองหมื่นบาทต่อเดือน แล้วอยากได้เพิ่มเป็นสามหมื่นบาทต่อเดือน เราก็แค่ขยันขึ้น หรือไม่ก็ย้ายที่ทำงาน...เท่านี้ก็น่าจะได้แล้ว
2
แต่ถ้าจะหาเงินให้ได้หนึ่งแสนบาทต่อเดือน คราวนี้ล่ะ...ที่เราไม่อาจใช้กลยุทธ์แบบเดิมได้ พูดง่าย ๆ ว่าการจะมีรายได้ "เปลี่ยนหลัก" นั้น เราต้อง "เปลี่ยนแผนการ" เราต้องเล่นเกมใหม่ ใช้ความรู้เดิม ๆ ไม่ได้แล้ว ต้องเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนวิธีทำ เปลี่ยนสังคมรอบตัว เปลี่ยนชุดความรู้ใหม่หมด
6
เมื่อก่อนผมไม่เข้าใจเรื่องนี้ คิดว่า "ความขยัน" อย่างเดียว จะพาให้เราไปได้ไกล แต่ความจริงก็คือ "ฉลาด" แล้วต้อง "เฉลียว" ด้วยว่าวิธีการเดิมยังเวิร์คอยู่หรือเปล่า?
2
เพราะขี่จักรยานอาจเหมาะกับช่วงเวลาหนึ่ง แต่หลังจากนั้นเราต้องหัดขับรถยนต์ และในกรณีที่อยากไปไกลกว่านั้น
3
...ขับเครื่องบินคือเป้าหมายถัดไปที่เราต้องฝึก
5
2.
ใครที่เคยผ่านประสบการณ์สร้างรายได้ "เปลี่ยนหลัก" จากหมื่นเป็นแสน จากแสนเป็นล้าน จะจำได้ดีว่าเป็นเพราะเราทำสิ่งที่ไม่เคยทำ ทำทั้งที่กลัว ไม่มั่นใจ หวาดหวั่น ขมในปาก อยากถอยกลับ...ไม่น่าเลย แต่พอผ่านมาได้แล้ว จะรู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก ขอบคุณตัวเองที่กล้าก้าวไปข้างหน้า
4
เป็นธรรมดาที่เมื่อต้องทำสิ่งใหม่ ๆ มันจะยาก จนเราอยากหันหลังกลับ แต่อะไรที่ไม่ทำให้เราตาย ในที่สุดมันจะทำให้เราโต ส่วนเรื่องของรายได้ เป็นเหมือนหลักไมล์ให้จับต้องได้มากกว่า
5
ถ้าอยากมีรายได้เพิ่มขึ้น 10 เท่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราต้องเก่งขึ้นอีกหลายเท่า จากนั้นเงินจะตามมาเอง เพราะเงินจะไหลไปหาคนเก่ง (ซึ่งถ้าวันนั้นเราไม่อยากได้เงิน พอแล้ว ก็ยังนำเงินนั้นไปช่วยเหลือผู้อื่นได้)
4
สำหรับคนที่อยาก "เปลี่ยนหลัก" ของรายได้ จากหมื่นเป็นแสน จากแสนเป็นล้าน จึงต้องหาวิธีการใหม่ ๆ แผนเดิมมันใช้ไม่ได้ เพราะถ้าใช้ได้ รายได้ต้องเปลี่ยนหลักไปนานแล้ว
4
ยิ่งยุคนี้ แผนปีที่แล้ว ก็ใช้กับปีนี้ไม่ได้ และแผนปีนี้ ก็ใช้กับปีหน้าไม่ได้ เพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก
2
และต่อไปนี้ คือ "ไอเดียคร่าว ๆ" ที่จะทำให้มีรายได้ 1 ล้านบาท (ปรับให้มากหรือน้อยกว่านี้ได้ ตามใจเรา) ซึ่งอาจยังไม่ใช่ 1 ล้านบาทต่อเดือน ก็ไม่เป็นไร...ค่อย ๆ เริ่ม
3
ข้อแรก เราต้องเข้าใจว่าการจะมีรายได้ 1 ล้านบาท แสดงว่าต้องมีใครบางคน (หรือหลายคน) จ่ายเงินให้ 1 ล้านบาท
4
ข้อสอง เราต้องเข้าใจว่า การได้มาซึ่งเงิน 1 ล้านบาทนั้น เป็นได้ 7 วิธี ตั้งแต่...มีคน 1 คน จ่ายเงินให้เรา 1,000,000 บาท / มีคน 10 คน จ่ายเงินให้เรา คนละ 100,000 บาท / มีคน 100 คน จ่ายเงินให้เรา คนละ 10,000 บาท / มีคน 1,000 คน จ่ายเงินให้เรา คนละ 1,000 บาท / มีคน 10,000 คน จ่ายเงินให้เรา คนละ 100 บาท / มีคน 100,000 คน จ่ายเงินให้เรา คนละ 10 บาท และมีคน 1,000,000 คน จ่ายเงินให้เรา คนละ 1 บาท
7
ข้อสาม เราต้องเลือกว่าแผนการของเราคือแบบไหน? จะขายของให้กับคนจำนวนมาก คิดราคาไม่แพง หรือจะขายของให้กับคนจำนวนน้อย แล้วคิดราคาสูงไปเลย เช่น จะขายลูกอม 1 บาทให้กับคน 1 ล้านคน จะจัดงานสัมมนา 1,000 คน คิดราคาบัตร 1,000 บาท หรือจะขายรถ 1 คัน ให้คน 1 คน ได้เงิน 1 ล้านบาท
6
ข้อสี่ เราต้องเข้าใจว่า การมีคนจ่ายเงินให้เรานั้น แปลว่าเราต้องทำอะไรบางอย่าง "ให้ชีวิตเขาดีขึ้น" เพราะฉะนั้น 3 คำถามสำคัญที่ต้องถามตัวเองก็คือ...
3
1. เรามีความสามารถทำอะไรบ้างที่จะให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น?
4
2. ผู้คนที่เราส่งผลกระทบถึง มีจำนวนมากน้อยเท่าไหร่?
3
3. เขาเหล่านี้น่าจะยอมจ่ายเงินให้เราคนละกี่บาท?
4
คำว่า "ชีวิตที่ดีขึ้น" เป็นได้ตั้งแต่ ทำให้ผู้คนมีเงินมากขึ้น ทำให้ผู้คนมีเวลามากขึ้น ทำให้ผู้คนมีสุขภาพดีขึ้น ทำให้ผู้คนอารมณ์ดีขึ้น หรือพูดรวม ๆ ก็คือ ทำให้ผู้คน "มีความสุขมากขึ้น" นั่นเอง
4
ลองใคร่ครวญ และตอบตัวเองตอนนี้เลยครับ
1
3.
สมมติว่าเราตอบ 3 คำถามดังกล่าวแล้ว ลองลงมือทำแล้ว แต่ผลออกมาไม่เป็นอย่างที่คิด ถ้าเป็นอย่างนี้ เราต้องถามตัวเองต่อไปอีกว่า เรายังขาดตกบกพร่องเรื่องอะไร? ทำไมจึงยังมีรายได้ไม่ถึง 1 ล้านบาท
1
เช่น เราเลือกแผนคน 1,000 คน จ่ายเงินให้เราคนละ 1,000 บาท แต่ปรากฏว่ามีคนจ่ายเงินให้เราแค่ 500 คนเท่านั้น ถ้าเป็นแบบนี้ ก็แปลได้ 2 แบบ...
1
หนึ่ง เราทำให้เขารู้สึกว่ามีชีวิตที่ดีขึ้นยังไม่มากพอ คนจ่ายเงินให้เรา จึงมีจำนวนน้อยกว่าที่คิด พูดดง่าย ๆ ก็คือของเรายังไม่ดีจริง บริการเรายังไม่โอเคเท่าที่เราคิด
1
สอง เราประเมินแผนตัวเองผิดไป ของเราอาจเจ๋งอยู่แล้ว แต่คนที่สนใจสิ่งที่เราทำนั้นมีจำนวนไม่เยอะ เราไม่ใช่แมส เราเน้นเฉพาะกลุ่ม ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ต้องปรับเป็นแผนบริการคน 100 คน เพื่อให้เขาจ่ายเงินให้เราคนละ 10,000 บาท
2
...ซึ่งแน่นอนว่าราคาที่เพิ่มขึ้น ก็ต้องมาพร้อมกับความพรีเมียมที่จะมอบคืนกลับให้ลูกค้า
1
ทั้งหมดนี้ผมไม่อาจบอกชี้ชัดได้ว่า แล้วควรไปทำงานอะไร? เพราะโลกนี้มีหลายอาชีพ และทุกคนก็มีวิธีร่ำรวยในแบบตนเอง แต่ทั้งหมดคือ "ไอเดีย" ที่เป็นภาพใหญ่ของการหาเงินแบบ "เปลี่ยนหลัก"
2
อันที่จริงวิธีคิดแบบนี้ก็คือการทบทวนความสามารถตัวเอง สำรวจจำนวนว่าที่ลูกค้า ตั้งราคาให้เหมาะสมกับสินค้า หรือพัฒนาสินค้าให้เหมาะสมกับราคา
1
สำคัญคืออย่าเอาแต่คิด ไม่ลงมือทำสักที ลองเลือกสักอย่าง จะเน้นขายของไม่แพง ให้คนจำนวนมาก หรือเน้นขายของพรีเมียม ให้คนจำนวนไม่มาก
3
เมื่อคิดเสร็จให้ลองทำในระดับที่รับได้ ถึงเจ๊งก็ยังเริ่มใหม่ได้ อย่าลงทุนหมดหน้าตักในคราวเดียว ลองตลาดดูก่อน ปรับแก้ มุ่งมั่น ตั้งใจ พัฒนาไปเรื่อย ๆ แล้วทุกอย่างจะเปิดทางให้เอง
4
บางคนอ่านมาถึงตรงนี้ อาจคิดว่า โอ๊ย จะรวยกันไปทำไมมากมาย เห็นมั้ยไม่รู้จักพอ เลยต้องมาทุกข์แบบนี้ ...แต่ในมุมผม ผมแค่อยากจะบอกว่า "รายได้เปลี่ยนหลัก" ไม่สำคัญเท่ากับ "เราที่เปลี่ยนแปลง"
4
ถ้าทำสำเร็จ ความมั่งคั่งก็เปลี่ยนหลัก แม้ทำไม่สำเร็จ ตัวเราก็เปลี่ยนแปลง ...คิดมุมไหนก็คุ้มครับ.
4
โฆษณา