22 ต.ค. 2021 เวลา 12:19
ตอนที่ 5. อัศจรรย์ แห่งสัจจะวาจา(ตอนจบ)
ภาคต่อ...จากตอนที่แล้ว
เมื่อเรื่องราวไม่ได้จบลงแค่นั้น...แต่ทว่า...
ภาพถ่ายโดย João Cabral จาก Pexels
หลังจากที่ดิฉันและคิมมี่ ทำภารกิจ"ล้างห้องน้ำ" ได้สำเร็จแล้ว จึงพากันลงมาจากบนเขา...พวกเราได้พบกับหลวงพ่อรูปเดิมอีกครั้ง
"เป็นยังไงกันบ้างล่ะ?" หลวงพ่อถาม
"หลวงพ่อคะ ทำไมหลวงพ่อถึงบอกพวกเราว่าไม่มีน้ำบนนั้นคะ ทั้ง ๆ ที่ ความจริงแล้ว
มีน้ำอยู่เต็มอ่าง ทุกห้องเลยค่ะ" ฉันถาม
"หลวงพ่อเป็นพระ ไม่กล่าวคำมุสาหรอกโยม บนนั้นไม่มีใครกล้าขึ้นไปใช้งาน...เกือบ 2 ปีแล้ว ตั้งแต่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น" ท่านกล่าว
"อุบัติเหตุอะไรหรือคะ หลวงพ่อ!" ฉันกับเพื่อนถามพร้อมกัน
"มีพระลูกวัดพลัดตกเขาลงมา ระหว่างทางที่จะขึ้นไปบนเขาน่ะโยม"
ฉันสองคนยืนนิ่ง ได้แต่มองหน้ากัน...ฉันนึกไปถึง...ตอนที่เรากำลังขึ้นไปบนเขา แล้วคิมมี่ก็หยุดระหว่างทาง นางหันมาถามฉันว่า...ถ้าตกเขา...จะตายมั้ย?
...ตรงนั้นน่าจะเป็นจุดที่พระลูกวัด รูปนั้นตกเขาลงมานั่นเอง คิมมี่คงสัมผัสได้ถึงความไม่ปลอดภัย เพราะนางเป็นคนมีเซ้นส์
"ท่านตกลงมาได้ยังไงคะ?" ฉันถาม
"ท่านหน้ามืดขึ้นมากระทันหัน เลยวูบไป"
"แล้วท่านเป็นอย่างไรบ้างคะ?"
"กระดูกแขนและขาหัก กระโหลกศรีษะร้าว ร่างกายบอบช้ำ อาการสาหัสมากอยู่ แต่ยังไม่ถึงตาย"
"โชคร้ายจัง! เพราะแบบนี้ใช่มั้ยคะ หลวงพ่อถึงไม่อยากให้เรา 2 คนขึ้นไปบนเขา"
หลวงพ่อยิ้มและมองพวกเราด้วยความเมตตา
"หลวงพ่อคะ พวกเรามีเรื่องจะเรียนถาม...
หลวงพ่อรู้จัก'แม่ชี'...ที่มีรูปร่างผอมบาง และตัวสูงประมาณหนูมั้ยคะ อายุสัก 50 ปีกว่า ๆ แต่ยังดูสาวกว่าวัยมาก ๆ"
"ไม่เคยเห็นนะ ที่นี่มีแต่แม่ชีที่อายุน้อย สัก 20 ต้น ๆ และแม่ชีที่อายุมาก สัก 70-80 ปี...
มีอะไรกับ'แม่ชี'รูปนั้นหรือโยม?"
"หนูเคยมาอยู่ที่นี่ เกือบ 3 อาทิตย์ เมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นได้พบกับ'แม่ชี'โดยบังเอิญ แถวบริเวณ'ถ้ำน้ำทิพย์'ค่ะ ท่านเป็นคนพาหนูเข้าไปที่นั่น หนูอยากเจอท่านอีกจะได้พาเพื่อนไปเที่ยวด้วยค่ะ"
หลวงพ่อเงียบไปสักพัก เหมือนกำลังใช้ความคิด แล้วจึงพูดขึ้นว่า
"เรื่อง 'ถ้ำน้ำทิพย์' อาตมาเคยได้ยินจากหลวงพ่อใหญ่(เจ้าอาวาสรูปก่อน) ท่านเล่าให้ฟังว่า พบ'แม่ชี'รูปหนึ่งในนิมิต ลักษณะคล้ายกับ'แม่ชี'ที่โยมถามถึง...'แม่ชี'รูปนั้นนิมนต์ท่านไปดื่ม "หยดน้ำทิพย์" ภายในถ้ำ เนื่องจากเห็นว่า...หลวงพ่อใหญ่ท่านทำงานหนัก ต้องรับผิดชอบภาระทุกอย่างในวัด...'หยดน้ำทิพย์' เป็นเหมือนยาบำรุงกำลัง"
"แต่หลวงพ่อท่านถอดจิตไปนะโยม แล้วโยมไปยังไง?" ท่านถามฉันด้วยความสงสัย
ฉันยืนงงกับสิ่งที่ได้ยิน พอตั้งสติได้ ก็ตอบท่านไปว่า...
"หนูไปด้วยกายปกตินี่แหละหลวงพ่อ ค่อย ๆ ถัดเข้าไปเหมือนงูเลื้อย มันเป็นช่องแคบ ๆ ที่เข้าไปได้แค่ทีละคน และหนูเคยได้ชิม
'หยดน้ำทิพย์' ด้วยค่ะ"
....ฉันเล่าด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข
"เป็นเรื่อง 'อัศจรรย์' ที่คนทั่วไป ยากจะได้พบ ทั้งเรื่อง'น้ำในอ่าง'และ'ถ้ำน้ำทิพย์ '
โยมคงมีวาสนาเกี่ยวข้องกับ 'แม่ชี' รูปนั้น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง...จำไว้นะโยม
ไม่มีคำว่า 'บังเอิญ' ในทางพุทธศาสนา"
ภาพโดยAmy Chandra จาก Pexels
"อีกอย่าง...ที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มักมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นอยู่เสมอ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่หลวงพ่อใหญ่ท่าน ยังมีชีวิตอยู่"
"....นี่ก็เย็นมากแล้ว แยกย้ายกันกลับเถอะ! มืดค่ำ...จะเดินทางลำบาก" อยู่ ๆ หลวงพ่อก็พูดตัดบท
พวกเราก้มลงกราบนมัสการหลวงพ่อ แล้วมองดูท่านค่อย ๆ เดินจากไปจนลับตา
ฉันได้แต่นั่งนิ่ง...พยายามเรียบเรียงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับฉัน และสิ่งที่ได้ยินจากปากหลวงพ่อเรื่อง'แม่ชี'รูปนั้น และ 'ถ้ำน้ำทิพย์'
แล้วก็ต้องสะดุ้ง...เมื่อคิมมี่สะกิดถามฉันว่า
"แก ๆ เห็นเหมือนที่ฉันเห็นมั้ย? หลวงพ่อท่านเดินไม่เหมือนคนปกติ...ท่านค่อย ๆ เดินลากขา เหมือนคนขาเจ็บอ่ะแก ที่สำคัญฉันเห็นรอยเย็บบนศรีษะหลวงพ่อเต็มไปหมด น่าจะหลายเข็มอยู่นะ"
"หรือท่านจะเป็นพระที่ตกเขา...รูปนั้น!" ฉันอุทาน
"สงสารหลวงพ่อจัง! ท่านชราภาพมากแล้ว เดินก็ไม่ถนัดแบบนั้น ไปไหนคงลำบากน่าดู เราน่าจะทำบุญกับท่านนะ ถวายปัจจัยไว้ให้ท่านใช้สักหน่อยก็ยังดี"
คิมมี่รำพึงรำพันกับฉัน...พร้อมชะเง้อมองหลวงพ่อ นางเป็นสาว(ประเภท)สองที่น่ารัก จิตใจดี
"ทำไมนึกช้าจัง แล้วจะไปเจอท่านได้อีกที่ไหนล่ะ!" ว่าแล้วฉันก็รีบลุกขึ้น และวิ่งตามหลวงพ่อ แต่ก็ไม่ทันแล้ว ท่านหายไปทางไหนก็ไม่รู้
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราต้องแวะที่โรงครัว ค่อยฝากปัจจัยไว้ที่นั่น...ยังมีอุปกรณ์ล้างห้องน้ำ ที่ตั้งใจซื้อมาบริจาค ทิ้งไว้ในรถอีกตั้งเยอะนะแก อย่าลืม" ฉันปลอบเพื่อน
พวกเราเดินย้อนกลับมาที่จุดพักรถ นำของที่เตรียมไว้ไปฝากที่โรงครัว ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่
ที่นั่นพวกเราได้พบคุณป้า แม่ครัวเก่าแก่ของที่วัด
"ไปไหนกันมาล่ะหนู? ป้าเห็นจอดรถทิ้งไว้ตั้งแต่ตอนสาย นี่จะมืดค่ำแล้ว" ป้าถาม
"หนูพาเพื่อนไปช่วยล้างห้องน้ำ ตรงเขาด้านโน้นมาจ้ะป้า" ฉันตอบ พลางชี้ให้ป้าดู
"ตรงที่ตีนเขา...มีพระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่ตั้งอยู่ใช่มั้ย"
"ใช่ค่ะ...ป้าคะ หนูเจอหลวงพ่อรูปหนึ่งที่นั่น
ท่านอายุมากแล้ว และดูเหมือนไม่ค่อยสบาย หนูกับเพื่อนเลยอยากฝากปัจจัยไว้ให้ท่านหน่อยค่ะ"
"ใช่หลวงพ่อที่เดินลากขาหรือเปล่า...หนู?"
"น่าจะใช่รูปเดียวกันนะคะ"
คุณป้าถอนหายใจ มองหน้าฉันและเพื่อนด้วยความเอ็นดู...แล้วพูดต่อว่า
"ท่านคงใช้เงินของหนูไม่ได้หรอกจ้ะ"
"เพราะอะไรคะ? หรือท่านตั้งสัจจะไว้ ว่าจะไม่รับปัจจัย" ฉันถามด้วยความสงสัย
"ท่านไม่มีโอกาสใช้มากกว่า...เพราะท่านอยู่คนละโลกกับเราแล้ว" คุณป้าพูดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
"หมายความว่า...!!!"
พวกเราอุทานขึ้นพร้อมกัน คิมมี่กระเถิบเข้ามาเบียดฉัน พร้อมกับยื่นแขนที่ขนลุกซู่มาให้ดู...ฉันอดขำเพื่อนไม่ได้ 😄
"เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ก่อนที่หลวงพ่อใหญ่จะละสังขารไม่กี่เดือน เกิดอุบัตเหตุขึ้นที่นั่น เนื่องจากที่วัด เตรียมจัดงานประจำปี ทุกคนจึงต้องช่วยกันดูแลความเรียบร้อย ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับรองรับนักท่องเที่ยว"
"หลวงพ่อท่านก็อยากช่วย จึงลากสายยางขึ้นไปบนเขาด้วยตัวท่านเอง เพื่อที่จะเติมน้ำไว้ให้ทุกคนได้ใช้ อย่างสะดวกสบาย..."
"แต่คงเป็นคราวเคราะห์ของท่าน จึงวูบตกลงมา ตอนนั้นท่านก็อายุย่าง 80 ปีแล้ว
ถึงจะพาท่านไปส่งที่โรงพยาบาลทัน แต่ก็มีอาการโคม่าอยู่เป็นอาทิตย์..."
"เมื่อรู้สึกตัว ท่านก็ขอให้พาตัวท่านกลับมาที่วัด บอกว่า...อยากมาตายที่นี่ กลับมาได้ไม่ถึง 3 วัน ท่านก็มรณภาพ"
น้ำเสียงคุณป้าเริ่มสั่นเครือ...
"ท่านเป็นพระที่มีเมตตามาก บวชอยู่ที่นี่มานาน ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ เป็นที่เคารพนับถือของทุกคนที่รู้จักท่าน"
"ป้าเคยถามหลวงพ่อใหญ่มั้ยคะ ทำไมท่านถึงยังอยู่ที่นี่...ไม่ยอมไปไหน"
"หลวงพ่อใหญ่บอกป้าว่า...ท่านเลือกที่จะอยู่ของท่านเอง เพราะความยึดมั่นถือมั่นเป็นเหมือนบ่วงรัดท่านเอาไว้"
"เมื่อก่อนตรงตีนเขา เคยเป็นจุดรับสังฆทานที่ญาติโยมนำมาถวาย หลวงพ่อท่านได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่อยู่ตรงนั้นเป็นประจำ"
ภาพถ่ายโดย Jill Wellington จาก Pexels
"หลังท่านมรณะภาพ จึงมีคนเห็นท่าน หรือได้พูดคุยกับท่าน อยู่เนือง ๆ เหมือนที่หนูสองคนเจอนั่นแหละ" คิมมี่กอดฉันแน่น นางมีเซ้นส์ที่แม่นยำก็จริง แต่ประสบการณ์เรื่องสิ่งเร้นลับ...น้อยกว่าฉัน
แล้วเหมือนคุณป้าจะนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงถามฉันว่า...
"เมื่อครู่...หนูบอกป้าว่าหนูขึ้นไปล้างห้องน้ำบนเขามาหรือลูก" คุณป้ามองหน้าพวกเราแบบพิจารณา ก่อนจะพูดต่อว่า...
"แปลกมาก ที่ท่านปล่อยให้หนู 2 คนขึ้นไปบนเขาได้...รู้มั้ยที่ผ่านมา ไม่มีใครขึ้นไปได้เลยนะ หลวงพ่อท่านไม่ยอม...เป็นห่วง กลัวใครจะตกลงมาเหมือนท่าน"
"หลวงพ่อมักจะช่วยดลจิตดลใจ ให้หาสถานที่ไม่เจอบ้าง หรือหาเจอ แต่อยู่ ๆ ก็เปลี่ยนใจไม่ขึ้นเขากระทันหันก็มี"
"ท่านห้ามพวกหนูเหมือนกันค่ะ บอกว่าในห้องน้ำไม่มีน้ำ เพราะไม่มีใครขึ้นไปใช้งานนานแล้ว อยากให้ไปล้างที่อื่นมากกว่า" ฉันบอกป้า
"แต่หนูตั้งใจมาที่นี่ ก็เพื่อมาล้างห้องน้ำที่นั่น...หนูเคยมาปฏิบัติธรรมในถ้ำบนเขาลูกนั้น เกือบ 2 อาทิตย์...หนูก็อยากทำให้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจ"
"นับว่าท่านมีเมตตากับพวกหนูมากเลยนะ
เพราะคนที่ท่าน "ห้าม" แล้วไม่ฟัง ก็จะเจอของดีทุกรายไป โดน 'ผีหลวงพ่อ' หลอก
ถึงขนาดเพ้อ...เพราะพิษไข้ไปหลายวัน"
"หลอกยังไงคะป้า?" ฉันถาม
"ให้หนูนึกถึงภาพ...คนที่พลัดตกลงมาจากตึกสูง 4 ชั้น มีสภาพอย่างไร ก็อย่างนั้นแหละจ้ะหนู" จังหวะนี้แม่คิมมี่ เบียดตัวเข้ามาจนแทบจะสิงร่างฉันแล้ว 😅
"แล้วล้างห้องน้ำกันยังไง ล้างแบบแห้ง ๆ ไม่มีน้ำ...มันจะสะอาดรึ?"
"หนูก็คิดว่าจะล้างเท่าที่ล้างได้ อาจจะเปลืองน้ำยาสักหน่อยก็ไม่เป็นไร...แต่พอขึ้นไปถึง...ก็พบว่ามีน้ำเต็มทุกอ่างเลยค่ะ" ฉันเล่าให้ป้าฟังด้วยความตื่นเต้น
"นั่นปะไร...ใครที่เคยมาปฏิบัติธรรมที่นี่ แล้วตั้งใจทำความเพียร จะได้พบเจอสิ่งไม่คาดฝันดี ๆ มากมาย...ป้ายังถูกหวยบ่อย ๆ เลย" คุณป้าพูดเสียงเบา เหมือนกลัวคนอื่นจะได้ยิน ทั้งๆที่ก็นั่งคุยกันอยู่แค่ 3 คน 😄
"รวมถึง 'ถ้ำน้ำทิพย์ ' ด้วยหรือเปล่าคะ ป้าเล่าให้หนูฟังหน่อย" ฉันถือโอกาสอ้อนป้า
ป้าแกทำท่าครุ่นคิดสักครู่ ก่อนตอบ
" 'ถ้ำน้ำทิพย์' ก็เหมือน 'เมืองลับแล' คนที่จะเข้าไปข้างในได้ ต้องมี "แม่ชี" เป็นคนนำทางเท่านั้น ซึ่งก็สุดแท้แต่วาสนา เพราะทางเข้าที่สลับซับซ้อน และการจะได้พบ"แม่ชี" ไม่ใช่เรื่องง่าย"
"ส่วนใหญ่จะเป็นพวกนักปฏิบัติธรรม ที่ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ตั้งมั่นอยู่ในศีลในธรรมเท่านั้น ถึงมีโอกาสได้พบท่าน...หลวงพ่อใหญ่ท่านเคยบอกป้าไว้อย่างนั้น"
"เคยมีชาวบ้านละแวกนี้ พยายามจะเข้าไปแต่ก็สุดปัญญา บางคนก็หาถ้ำไม่เจอ บางคนหาถ้ำเจอ ก็เข้าไปไม่ได้
เค้ามาเล่าให้ป้าฟังว่า ลักษณะของถ้ำ ดูภายนอกก็ปกติ เหมือนถ้ำทั่วไป แต่พอเดินเข้าไป ถึงรู้ว่าทางจะค่อย ๆ หดลงเรื่อย ๆ ต้องย่อตัว ลงไป ๆ จนหมอบติดกับพื้น จึงมองเห็นทางเข้าที่แคบมาก...ถ้าอยากไปต่อก็คงต้องถัดตัวเองเข้าไป ค่อย ๆ กระดึ๊บ ๆ เหมือนหนอน...แล้วใครจะกล้าเข้าไปล่ะหนู"
คำพูดของคุณป้า ทำให้ฉันรู้สึกโล่งใจ อย่างน้อย"แม่ชี" รูปนั้น...ก็คงไม่ใช่ "ผี" อย่างที่ฉันเข้าใจในตอนแรก...
ท่านแค่อยู่ในอีก "มิติเวลา" นึงก็แค่นั้น
ฉันไม่ได้เล่าให้ป้าฟัง ว่าฉันเคยมีโอกาสพบ 'แม่ชี' อยู่หลายครั้ง
"นี่ก็ค่ำแล้ว หิวมั้ยลูก? เดี๋ยวป้าหาข้าวให้กิน ค่อยกลับกรุงเทพฯ หรือจะค้างกับป้าที่นี่ก็ได้นะ" ป้าถามพวกเราด้วยความเป็นห่วง
"ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณป้ามาก ๆ พวกเราขอ
กลับตอนนี้เลยดีกว่า" คิมมี่พูดสวนขึ้นมาทันที นางคงรู้สึกอึดอัด...อยากออกจากวัดเต็มที่แล้ว 😆
"ป้าคะ...ที่วัดตอนนี้ยังมีพระและแม่ชีอยู่อีกกี่รูป?" ฉันถาม
"มีพระสงฆ์อยู่ประจำที่วัด 3 รูป แม่ชีแก่ๆอยู่ 2 รูปเท่านั้นจ้ะ"
"พวกเราขอฝากปัจจัย...ถวายพระและแม่ชีด้วยนะคะ...ส่วนเงินจำนวนนี้ หนูกับเพื่อนขอร่วมบุญกับป้าเป็นค่าอาหารค่ะ"
1
"ป้าขอโมทนาบุญด้วยนะหนู ขอให้มีความสุข ความเจริญทั้งสองคน เดินทางปลอดภัยจ้ะ"
ฉันกับคิมมี่...ลาคุณป้ากลับกรุงเทพฯ ด้วยความรู้สึกอิ่มเอมใจ...เป็นอีกหนึ่งวันที่คุ้มค่า สำหรับการมีชีวิตอยู่ของฉันและเพื่อน
 
ก่อนขับรถออกจากวัด ฉันลองถามคิมมี่...
"สมมตินะ ถ้าป้าที่เราคุยด้วยเมื่อสักครู่...ไม่ได้เป็น...หมือนเรา...แกจะว่าไง?"
คิมมี่หันมาพูดกับฉันในทันที ด้วยน้ำเสียงซีเรียส...
"หยุดถาม! ไม่อยากรับรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับวัดนี้อีกแล้ว เราจะไม่แวะที่ไหน! ไม่คุยกับใคร! จนกว่าจะถึงกรุงเทพฯ โอเคนะ"
Based on TRUE story
By memee
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
โฆษณา