18 ต.ค. 2021 เวลา 05:31 • หุ้น & เศรษฐกิจ
แชร์ประสบการณ์จะทำอย่างไร บัญชีธนาคารโดน “ดูดเงินไม่รู้ตัว”
จากกรณีที่หลายบัญชีธนาคาร “ถูกดูดเงินไม่รู้ตัว” ผ่านบัตรเดบิต รวมถึงบัตรเครดิตธนาคารหลายแห่ง ที่ได้ทำการผูกไว้กับแอปพลิเคชันต่างๆ หรือไม่ได้ทำการผูกบัญชีไว้ก็ตาม ซึ่งมีผู้เสียหายมากหลายรายกว่าหลักหมื่นคน โดยมียอดของการถูกตัดบัญชีในจำนวนที่แตกต่างกัน ซึ่งถือเป็นธุรกรรมที่เกิดขึ้นโดยที่ผู้บริโภคอย่างเราได้รับผลกระทบแบบไม่ทันตั้งตัว
4
อย่างไรก็ตาม ได้มีการรวมกลุ่มบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากประเด็นดังกล่าว โดยการรวมกันตั้งกลุ่มที่ชื่อว่า “แชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว” ใน Facebook ซึ่งปรากฎจำนวนสมาชิกหลายรายที่เป็นหนึ่งในผู้ที่ “ถูกดูดเงินไม่รู้ตัว” ซึ่งมียอดการถูกดูดเงินเริ่มต้นในหลักสิบบาทไปจนถึงหลักหมื่นบาท
1
ในครั้งนี้ Wealthy Thai จะมาแชร์ประสบการณ์ในฐานะผู้บริโภคคนหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อของการ “ถูกดูดเงินไม่รู้ตัว” ผ่านบัตรเดบิต รวมถึงบัตรเครดิตธนาคาร และวิธีการแก้ไขหลังจากที่ตกเป็นผู้เสียหาย โดยสมาชิกในทีมเล่าว่าบัตรเครดิตที่ทำไว้กับ “สถาบันการเงินหนึ่งที่ร่วมมือกับสายการบินแห่งหนึ่ง” ได้มียอดการใช้จ่าย ที่แจ้งเตือนผ่าน Sms ว่า มีการหักจำนวนเงิน 2,274 บาท ระบุวันที่ 1 ต.ค.64 เวลา 19.15 น. ซึ่งเป็นธุรกรรมแจ้งว่าใช้บัตรที่ FACEBK*HCKL267 จำนวน 2,274.97 บาท ซึ่งต้องบอกก่อนว่าบัตรดังกล่าวนั้นไม่เคยทำการผูกกับบัญชีซื้อขายสินค้าออนไลน์ใดๆทั้งสิ้น
1
โดย ก่อนหน้านี้ทางทีมงานได้ตรวจสอบในกลุ่ม “แชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว” ใน Facebook มีผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวนี้เช่นกัน โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบเล่าว่า ใช้บัตรเครดิตใบนี้ ซื้อตั๋วเครื่องบินของสายการบินในหน้าเว็บไซต์ ซึ่งเช่นเดียวกันกับสมาชิกของ Wealthy Thai ที่ยืนยันว่าใช้บัตรดังกล่าวแค่เพียงธุรกรรมการซื้อตั๋วเครื่องบินผ่านหน้าเว็บไซต์ของสายการบิน ในช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมา จากนั้นก็ไม่เคยใช้บัตรเครดิตใบนี้อีกเลย
1
สำหรับวิธีของการแก้ไขของทีมงาน Wealthy Thai หลังจากที่รู้ว่า “ถูกดูดเงินไม่รู้ตัว” นั้น คือการโทรติดต่อไปยังธนาคารเจ้าของบัตร ซึ่งเบื้องต้นได้โทรไปติดต่อไปยังเบอร์ Call Center ตั้งแต่คืนวันที่ 17 ต.ค. หลังจากที่รู้ตัว แต่ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อรับสาย จนมาในเช้าวันที่ 18 ต.ค. ในเวลา 7 โมง ได้ลองทำการโทรติดต่ออีกครั้งจนมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องและทราบเรื่องว่าบัตรใบดังกล่าวถูกทุจริตทางธุรกรรม หรือเรียกง่ายๆว่าโดนโกงมีคนเอาบัตรเราไปใช้โดยที่เราไม่รู้ตัว
2
ทั้งนี้ปรากฎว่าสมาชิกทีมงานของ Wealthy Thai ที่เป็นผู้เสียหายในครั้งนี้นั้น มียอดการตัดบัตรจากธุรกรรม ถึง 2 รอบ ซึ่งในรอบแรกมียอด 2,274 บาท อย่างที่ที่เล่าให้ฟังไปข้างต้น และอีกยอดจำนวน 900 บาท ภายใต้ชื่อธุรกรรมเดียวกันคือเหมือนการจ่ายค่าโฆษณาสนับสนุน Facebook (ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้เลย หรือมีการแจ้งเตือนจากทางธนาคารว่ามียอดการใช้เงิน ทั้งๆที่โดยปกติแล้วการใช้บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์ หรือการชำระค่าตั๋วเครื่องบินจะต้องทำการ Verify ด้วยการยืนยันผ่านทางรหัส OTP)
6
จากนั้นทางธนาคารเจ้าของบัตรได้รับเรื่องและทำการอายัดบัตรใบเดิมให้ และทำการออกบัตรให้เราหากมีความประสงค์ที่จะยังใช้บัตรอยู่ แต่หากไม่ต้องการใช้แล้วก็สามารถอายัดบัตรถาวรได้ทันที จากนั้นทางธนาคารจะทำการตรวจสอบว่ายอดธุรกรรมที่เกิดขึ้นดังกล่าวนั้นเป็นการทุจริตก็จะคืนยอดที่เสียหายให้กับผู้ใช้บัตรภายในระยะเวลาทำการประมาณ 7 วันโดยที่เราไม่ต้องชำระยอดที่เกิดจากการธุรกรรมทุจริตในครั้งนี้
4
………….อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงตัวเลขการเสียหายจากผู้ที่ได้รับผลกระทบรายเดียว แต่ในอนาคตยังไม่สามารถมีใครการันตีได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกหรือไม่ และในอนาคตการเข้าสู่ช่วงสังคมไร้เงินสดจะมีผลอย่างไร เมื่อแค่การเริ่มต้นการเปลี่ยนผ่านก็เกิดความเสียหายกันมากแล้ว……….
2
ติดตามอัพเดตความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
.
Facebook : Wealthy Thai
1
โฆษณา