31 ต.ค. 2021 เวลา 03:30
สร้างทีมอย่างไรให้คนมีไฟ
ยกระดับทีมด้วย Passion Pyramid ของคนทำงาน
คนทำงานที่พร้อมจะทุ่มเท มุ่งมั่น ตั้งใจ และเข้าใจความหมายในงานที่ตัวเองทำ คือคนทำงานที่มีความหลงใหล (Passion) กับงานที่กำลังทำอยู่
คนทำงานที่มีหลงใหลเหล่านี้ คือส่วนประกอบสำคัญที่จะทำธุรกิจ หรือองค์กรให้ประสบความสำเร็จ เมื่อคนทำงานพร้อมที่จะใส่ใจกับสิ่งที่ตัวเองทำ และพร้อมที่จะทุ่มเทเพื่อมัน พวกเขาจะสามารถสร้างคุณค่าให้กับสิ่งใดก็ตามที่พวกเขาทำอยู่
หากเราคุยเรื่องนี้กันในมุมมองของคนทำงานทั่วไป เราอาจบอกกันว่าให้เราทำในสิ่งที่เราหลงใหล ทำงานในสิ่งที่เราใส่ใจจริงๆ เพื่อที่เราจะสามารถทุ่มเทและมีความสุขไปกับการทำสิ่งนั้น
แต่จะเป็นอย่างไร หากเราต้องคุยเรื่องนี้กันในมุมของผู้นำ เมื่อเราจะทำทีมที่ประสบความสำเร็จได้ เราต้องมีคนทำงานที่มีความหลงใหลกับงานที่ทำ มีแรงขับเคลื่อน มีความเชื่อในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่
ทางหนึ่งเราอาจบอกกันได้ว่า เราต้องค้นหาคนที่ใช่ คนทำงานที่เชื่อในสิ่งเดียวกัน สนใจในสิ่งเดียวกัน หลงใหลในสิ่งเดียวกัน เพื่อทำงานที่ทุกคนหลงใหลไปด้วยกัน
แต่หลายครั้งหน้าที่ของผู้นำไม่ใช่การเลือก หรือคัดสรรสมาชิกในทีม แต่เป็นการผลักดันผู้คนที่มีอยู่ให้ก้าวได้ไกลที่สุด และพาทีมไปสู่ความสำเร็จ
ในอีกความหมายหนึ่งคือ ไม่ว่าผู้นำจะต้องทำงานกับใคร เขาจะต้องสร้าง “ความหลงใหล” ในงาน ให้กับคนเหล่านั้นให้ได้
#ThePassionPyramid
The Passion Pyramid หรือ พีรามิดของแรงผลักดัน คือแนวคิดจากสถาบันผู้นำ Intégro Leadership Institute ที่จัดลำดับขั้นของแรงขับดันและความหลงใหล ที่ผู้คนมีต่องานของพวกเขา ไปจนถึงวิธีการที่ผู้นำจะผลักดันให้เกิดแรงขับเคลื่อนในรูปแบบนั้นได้อย่างไร
แนวคิดพีรามิดแรงผลักดัน มีความคล้ายคลึงกับแนวคิดลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์ (maslow's hierarchy of needs) ที่เป็นพีรามิดซึ่งจัดลำดับความต้องการของมนุษย์ และผู้คนจะตอบสนองความต้องการในระดับล่างก่อนที่จะสามารถไล่ขึ้นไปค้นหาความต้องการในลำดับขั้นถัดไป ซึ่งไล่มาตั้งแต่การตอบสนองความต้องการทางร่างกาย มาสู่การตอบสนองความต้องการทางจิตวิทยา และสุดท้ายคือการเติมเต็มความหมายในการมีชีวิตอยู่ของตัวเอง
ในพีรามิดของแรงผลักดันนี้ก็เช่นกัน คนทำงานจะมีแรงที่ผลักดันพวกเขาในการทำงานมากขึ้นไล่ไปตามลำดับขั้นเหล่านี้ โดย Intégro Leadership Institute ก็ได้แบ่งพีรามิดนี้ไว้ 5 ลำดับขั้นด้วยกัน
1. เพื่อเป็นที่ยอมรับ
2. เพื่อเรียนรู้และเติบโต
3. เพื่อเข้า “วงใน”
4. เพื่อทำสิ่งที่มีคุณค่า
5. เพื่อเป็นทีมที่ชนะ
ทั้ง 5 ลำดับขั้นนี้ Intégro Leadership Institute ยังได้กล่าวถึงทักษะของผู้นำ ที่จะสามารถตอบสนองต่อแรงผลักดันเหล่านี้ และผลลัพธ์ที่จะได้มาจะเป็นอย่างไร ซึ่งไล่เรียงขึ้นมาจากลำดับล่างสุด
#เพื่อเป็นที่ยอมรับ
ความต้องการแรกเริ่มของคนทำงาน คือการได้เป็นที่ยอมรับ สิ่งที่ผู้นำต้องทำคือการสร้างพื้นฐานของความไว้ใจซึ่งกันและกันภายในทีม เพื่อทำให้คนทำงานยินดีที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน
#เพื่อเรียนรู้และเติบโต
การต้องการความยอมรับ เป็นความต้องการหรือแรงขับเคลื่อนอันเป็นพื้นฐานที่สุดของคนทำงาน และสิ่งที่จะขับเคลื่อนพวกเขาต่อมาจากนั้นคือความต้องการที่จะเรียนรู้และเติบโต ซึ่งสอดคล้องกับหน้าที่ของคนที่เป็นผู้นำ ที่จะต้องเป็นคนที่คอยให้คำแนะนำ คอยสอนงาน หรือช่วยคนทำงานให้พัฒนาตัวเองได้ ผลลัพธ์ของการทำเช่นนี้จะทำให้เขาได้มาซึ่งทีมที่มีประสิทธิภาพ และทีมที่มีความสามารถมากขึ้น
#เพื่อเข้า"วงใน"
วงใน (Inner Circle) คือพื้นที่ที่ทำให้คนคนหนึ่งรู้สึกได้ว่าตนเองได้รับการยอมรับ ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ถูกจดจำ ความต้องการทางสังคมของมนุษย์ต้องการสิ่งนี้โดยพื้นฐานอยู่แล้ว และการต้องการเป้นคนในวงในของคนทำงานนั้น คือความต้องการที่จะได้รับการจดจำจากงานที่ทำ และได้รับการยอมรับให้เป้นส่วนหนึ่ง สิ่งที่ผู้นำทำได้เพื่อสนองความต้องการนี้ คือการทำให้สภาพแวดล้อมในการทำงานมีความเปิดกว้าง เปิดโอกาสให้คนทำงานมีส่วนร่วม และได้รับการยอมรับอยู่เสมอ ผลลัพธ์จากการทำเช่นนี้คือการทำให้คนทำงานมีความรู้สึกเชื่อมโยง หรือผูกพันกับทีมและองค์กร
#เพื่อทำสิ่งที่มีคุณค่า
แรงผลักดันในขั้นนี้ก็เป็นอีกสิ่งที่มีจากการเติมเต็มความต้องการทางจิตวิทยาของผู้คน คือการได้ทำในสิ่งที่มีคุณค่า มีความหมาย เช่นการทำเพื่อสังคม เพื่อสิ่งแวดล้อม หรือเพื่อจุดประสงค์ที่ดีบางอย่าง สิ่งนี้เองก็สอดคล้องไปกับหน้าที่สำคัญของผู้นำ คือการสร้างวิสัยทัศน์และเป้าหมายสำหรับทีม ตอบคำถามที่ว่าเราทำงานนี้ไปเพื่ออะไร เพื่อให้คนทำงานได้เห็นคุณค่าในสิ่งที่พวกเขาทำ และผลลัพธ์ของการทำเช่นนี้ คือทีมที่มีวามมุ่งมั่นตั้งใจยิ่งขึ้น เพราะพวกเขาเข้าใจในเป้าหมายและความสำคัญของสิ่งที่ทำ
#เพื่อเป็นทีมที่ชนะ
แรงผลักดันในขั้นนี้ คือจุดสูงสุดในแรงขับเคลื่อนในการทำงาน เป็นจุดที่คนทำงานรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของทีม และเข้าใจในความหมายของงานที่ทำ และมีเป้าหมายส่วนตัวคือการพาทีมไปสู่จุดที่ประสบความสำเร็จ ความเชื่อและแรงผลักดันภายในเช่นนี้ ทำให้คนทำงานพร้อมที่จะทุ่มเท ลงแรง เพื่อไปสู่เป้าหมายที่ทีมหรือองค์กรมีร่วมกัน ในการตอบสนองต่อความตั้งใจนี้ของคนทำงาน ผู้นำเองก็ต้องทุ่มเทสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพ สร้างทีมที่จะทำให้ความสำเร็จที่ตั้งเป้าหมายไว้นั้นเป็นไปได้ และผลลัพธ์ในการทำเช่นนั้น คือการเกิดทีมของผู้คนที่หลงใหลและทุ่มเทในงานที่พวกเขาทำ
เขียน Siravich Singhapon
Source : LinkedIn
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
.
.
“Knowledge is the only way to success”
- - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามคอนเทนต์เพื่อพัฒนาตัวเองสู่ความสำเร็จจาก Future Trends ได้ที่
(อย่าลืมกด See First เพื่อไม่ให้พลาดคอนเทนต์ใหม่ในทุก ๆ วัน)
#FutureTrends #KnowledgeforSuccess
โฆษณา