Blockdit Logo (Mobile)
Future Trends
•
5 พ.ย. 2021 เวลา 13:30
ลางาน 1 สัปดาห์ไปปลีกวิเวกในกระท่อม
‘Think Week’ เทคนิคการพักที่ Bill Gates ใช้มากว่า 41 ปี
คงไม่มีใครไม่รู้จักกับบิลล์ เกตส์ (Bill Gates) มหาเศรษฐีที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกมาเป็นเวลานาน
อย่างที่รู้กันดีว่า เขาเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟต์ (Microsoft) บริษัทเจ้าของซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์ออฟฟิศที่เราใช้กันในทุกวันนี้ แต่ถ้าใครยังนึกภาพไม่ออก งั้นลองเปิดคอมพิวเตอร์ใกล้ๆ ตัวดู มีโปรแกรมที่ชื่อขึ้นต้นว่า “ไมโครซอฟต์.…” อยู่ในเครื่องอย่างน้อยสักหนึ่งโปรแกรมใช่ไหมล่ะ
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นฝีมือของเขานั่นแหละ เอาเป็นว่า เราขอเคลมตรงนี้เลยก็แล้วกันว่า ไมโครซอฟต์ถือเป็นโปรแกรมที่ไร้เทียมทานที่สุด ณ ตอนนี้ เพราะแม้แต่โปรแกรม Keynote ที่สตีฟ จอบส์ (Steve Jobs) ผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิล (Apple) คิดค้นขึ้นมาเนี่ยก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ทำให้ไม่สามารถสู้โปรแกรมนี้อยู่ดี
ในสมัยที่ยังเป็นซีอีโอของไมโครซอฟต์ เขาต้องแบกรับความเครียด และความกดดันแทบจะทุกวันจนเกิดภาวะหมดไฟ (burnout) หลายต่อหลายครั้ง
เมื่อไฟในการทำงานที่มีนั้นดับมอดลง ชีวิตวนอยู่แต่ลูปเดิมๆ การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพก็เป็นสิ่งที่ยากยิ่งขึ้น
ฉะนั้น บิลล์จึงลางานไปปลีกวิเวกในกระท่อมลับกลางป่าเพียงลำพังเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อใช้เวลาในการอ่านเอกสารสำคัญ และคิดค้นสิ่งใหม่ๆ โดยเขาเรียกช่วงเวลาเหล่านี้ว่า ‘Think Week’ หรือสัปดาห์แห่งการคิด นั่นเอง
อันที่จริงเขาได้ใช้เทคนิคนี้มาตั้งแต่ปี 1980 แล้ว และก็ใช้ลากยาวมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน โดยเฉลี่ยเขาจะทำอยู่ที่ประมาณปีละ 2 ครั้งด้วยกัน และผลลัพธ์ที่ได้กลับมาก็น่าทึ่งมากเลยทีเดียว เพราะเมื่อสิ้นสุด Think Week ลง บิลล์ก็ได้ไอเดียเจ๋งๆ กลับมาอีกด้วย โดยหนึ่งในไอเดียเหล่านั้นก็คือผลงานการเปิดตัวอินเทอร์เน็ตเอ็กซ์พลอเลอร์ (Internet Explorer) ที่เป็นประตูบานสำคัญทำให้เขาประสบความสำเร็จ และเอาชนะคู่แข่งอย่างเน็ตสเคป (Netscape) ไปได้ใสๆ
ล่าสุดลอร่า สแต็ค (Laura Stack) ซีอีโอของเดอะโปรดักทิวิตี้โปร (The Productivity Pro) ก็ได้ลองนำเอาเทคนิคนี้ไปใช้เช่นกัน ซึ่งหลังจากใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอก็ได้ออกปากว่า Think Week เป็นเทคนิคหนึ่งที่ดีมากๆ รวมไปถึงยังบอกด้วยว่า เราทุกคนควรมีสถานที่ที่ 3 (third place) ที่ไม่ใช่ออฟฟิศหรือบ้านเป็นของตัวเอง เพื่อใช้เวลาปลดปล่อยความคิดต่างๆ เนื่องจากในหลายๆ ครั้งไอเดียดีๆ ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากการทำงานปกติที่วนลูปซ้ำๆ แบบเดิมทุกวัน
และนี่ก็เป็นเพียงเทคนิคที่เรานำมาแชร์กัน ซึ่งถ้าพูดกันตามตรง มันอาจจะดูเป็นไปไม่ค่อยได้สักเท่าไรสำหรับหลายๆ คน เพราะก็ต้องหาเงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง และพวกเราก็ไม่ได้เป็นตัวท็อปๆ แบบซีอีโอหรือมหาเศรษฐีที่คิดจะอินดี้เดินหายเข้าไปในป่าสักสัปดาห์ก็ยังมีกินมีใช้ใช่ไหมล่ะ อย่างบางคนเองก็มีวันลาพักร้อนตามกฎหมายแรงงานเพียงแค่ 6 วันต่อปีเท่านั้น ซึ่งถ้าลาไป Think Week จริงก็คงจะเต็มกลืนอยู่เหมือนกัน แถมบางบริษัทเนี่ยก็ไม่อนุญาตให้ลาติดๆ กันทั้งสัปดาห์อีกต่างหาก
เข้าใจดีว่า เงื่อนไขของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป วันนี้ เราเลยนำเทคนิค Think Week ฉบับคนมี ‘เวลาน้อย’ มาฝากกัน
1. เปลี่ยนจาก Think Week เป็น Think Day แทน
ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถลาได้เยอะๆ และติดๆ กัน บางที่ถ้าลาเกินก็หักเงินเดือนเอาซะแล้ว แต่แทนที่จะลารวดเดียวทั้งสัปดาห์ ลองเปลี่ยนเป็นการลดขนาดของมันให้สั้นลงดู ปรับจาก 7 วันให้เหลือเพียงวันเดียวหรือแค่ช่วงเช้าของวัน
ใช้เวลาในการคิดทบทวนสิ่งต่างๆ และถ้าทำเสร็จเร็วกว่ากำหนด ก็อาจจะลองปรับเพิ่มเวลาตามความเหมาะสม แต่ทั้งนี้ เราไม่ขอพอบอกดีกว่ามันควรอยู่ที่เท่าไร เพราะความพึงพอใจกับคำว่า “เหมาะสม” ของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป
2. เลือกสถานที่ และตัดขาดจากสิ่งรบกวน
เลือกสถานที่เหมาะ ซึ่งก็อาจจะไม่ต้องถึงขั้นไปสร้างกระท่อมส่วนตัวกลางป่าแบบบิลล์ เกตส์ขนาดนั้นก็ได้ แต่เป็นที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ที่เงียบสงบ และเป็นส่วนตัว ยกตัวอย่างเช่น โรงแรม โฮสเทล ร้านกาแฟ เป็นต้น
พอได้สถานที่แล้วก็ถอดปลั๊กตัวเองออกจากความวุ่นวายซะ ให้เวลาเคลื่อนไปอย่างช้าๆ ปิดการแจ้งเตือน ลบบางแอปพลิเคชันออกจากมือถือชั่วคราว เปิดโหมดห้ามรบกวน หรือจะเป็นการปิดเครื่องไปเลยก็ได้เหมือนกัน แต่ก่อนจะปิดก็อย่าลืมบอกคนรอบข้างด้วยล่ะ เพราะถ้าคุณหายไปเฉยๆ พวกเขาก็อาจจะเป็นห่วงเอาได้
3. กำหนดหัวข้อในการคิดทบทวน
คิดไปเลยว่า จะทำอะไรใน Think Day มีเป้าหมายอะไรที่ต้องการทบทวนรึเปล่า? ยกตัวอย่างเช่น พัฒนาไอเดียงานใหม่ๆ อ่านหนังสือสร้างแรงบันดาลใจ หรือทบทวนผลงานที่ผ่านมา อาจจะฟังดูซีเรียสไปหน่อย หลายคนอาจคิดว่า แค่พักทำไมต้องมานั่งกำหนดเป้าหมายเหมือนตอนทำงานอีก มันควรเป็นช่วงเวลาในการหยุดพัก ปล่อยจิตใจให้สบายไม่ใช่หรอกเหรอ?
ที่จริงก็ถูกอยู่ประมาณหนึ่งแหละ แต่อย่างที่เล่าไปก่อนหน้าว่า เทคนิคการพักนี้เป็นเทคนิคที่ไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่การลาพักร้อนที่สูญเปล่าแต่อย่างใด ดังนั้น ก็ควรจะมีเป้าหมายแบบเดียวกับในวันทำงานด้วยเหมือนกัน เพื่อที่ว่าจะได้ทั้งพัก และบรรลุผลตามที่ตั้งเอาไว้นั่นเอง
บางครั้งการถอยออกมาพักเพื่อมองในมุมที่กว้างขึ้นก็อาจจะเวิร์กกว่าการเร่งทำงานต่อไปเรื่อยๆ ลองหาช่วงเวลาให้ตัวเองได้หยุดคิดทบทวนถึงสิ่งต่างๆ อาจจะเป็น Think Week Think Day หรือ Think Morning แบบไหนก็ได้ทั้งนั้น
ไม่แน่หรอก คุณอาจจะเจอขุมพลังล้ำค่าแบบบิลล์ เกตส์ในช่วงเวลาเหล่านี้ก็ได้นะ
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
.
.
“Knowledge is the only way to success”
- - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามคอนเทนต์เพื่อพัฒนาตัวเองสู่ความสำเร็จจาก Future Trends ได้ที่
Facebook : https://bit.ly/38fXEYs
Youtube : https://bit.ly/3gBYyzG
(อย่าลืมกด See First เพื่อไม่ให้พลาดคอนเทนต์ใหม่ในทุก ๆ วัน)
#FutureTrends #KnowledgeforSuccess
โฆษณา