18 ต.ค. 2021 เวลา 15:46 • กีฬา
#แมนมาร์คพรากตัวตาย (man-marking VS uncaged)
มินิปรีวิวภาค2 : แมนยูไนเต็ด VS อตาลันต้า
หลังจากโพสต์ "หลอนก่อนนอน" ไปเมื่อวานแล้ว ถือเป็นมินิปรีวิวเบื้องต้นในภาค1แล้วกัน ผลการแข่งขันช่วงนี้หลายๆท่านก็อาจจะกำลังเซ็ง และดาวน์ลงไปเรื่อยๆ วันนี้ผมมานำเสนออีกแง่มุมบ้างดีกว่า (แม้จะไม่มีอะไรดีๆให้เขียน แต่เราสามารถสร้างมันขึ้นมาเองจากการวิเคราะห์และค้นหาได้ครับ)
หลังจากที่จี้จุดบกพร่องมาเยอะมากพอแล้ว มันก็ยังมีบางจุดที่น่าสนใจเช่นกันในกรณีของคู่ต่อสู้รายต่อไปอย่างอตาลันต้า
การแพ้ 4 จาก 7 นัดหลังสุดในทุกๆรายการทำให้ตอนนี้แมนยูไนเต็ดในยุคโซลชากำลังประสบกับความยากลำบากสุดๆ ยิ่งนัดล่าสุดที่แพ้เลสเตอร์ 4-2 ทำให้เสียงตอบรับจากแฟนบอลแย่ลงเรื่อยๆอย่างที่เห็นกัน แฟนบอลหลายๆท่านแน่ใจมานานแล้วว่ายังไงก็ต้อง Ole Out
ในขณะที่อีกมากมายก็เริ่มหมดความอดทนในช่วงไม่กี่นัดที่ผ่านมาซึ่งรู้สึกว่า "โคตรสิ้นหวัง" จริงๆ ก็ไม่ต่างจากแอดเลย แอดก็ต้องยอมรับเช่นกันว่า ระดับความเชื่อมั่นใจตัวโอเล่ลดลงไปแทบจะไม่เหลือแล้วเหมือนกัน ดังนั้นแฟนเพจน่าจะพออ่านความรู้สึกของแอดมินคนเขียนเพจได้
แต่เมื่อไรก็ตามที่กุนซือชาวนอร์วีเจี้ยนผู้นี้ "จำเป็น" ต้องได้ผลการแข่งขันที่ดีขึ้นมาเมื่อไหร่ เขามักจะทำได้เสมอ
และอยากบอกว่า ตอนนี้ถึงเวลาที่ว่านั้นแล้ว กับสองนัดข้างหน้า มันจะได้เห็นกันจะจะเลยว่า รอดหรือไม่รอด เพราะอย่างเช่นว่า ชนะอตาลันต้าได้ก็จริง แต่สุดท้ายเจอลิเวอร์พูลกดคาบ้าน ผมก็คิดว่าไม่รอดเช่นกัน
ทางรอดที่จะช่วยต่ออายุโซลชาไปได้อีกคือ การชนะสองนัดรวดในสองเกมหน้านี้เท่านั้น ที่จะทำให้เขาได้รับโอกาสต่อไปอีกระยะใหญ่ๆ
คู่ต่อสู้รายต่อไปอย่าง Atalanta ที่เราจะเปิด OTF ต้อนรับพวกเขา ถึงแม้พวกเขาจะแข็งแกร่งมากจริงๆ อย่างที่แอดเขียนไว้ในโพสต์เมื่อวานแล้ว เรื่อง 3-4-1-2 และภาพรวมคร่าวๆของฟอร์มการเล่นที่ดีของพวกเขาที่ยังไม่ดรอปลงไปจากปีที่แล้วมากนัก
แต่ นี่คือคู่ต่อสู้ทีมสำคัญที่จะพาแมนยูไนเต็ดกลับเข้าสู่ร่องสู่รอยได้ ด้วยเหตุผลจาก "สไตล์การเล่นของทีม" ในปัจจุบันนี่แหละ
หลายคนๆคนรวมถึงผมด้วยอาจจะงงว่า ก็แอดมึงเพิ่งบ่นถึงระบบการเล่นที่ย่ำแย่ของทีมไม่ใช่เรอะ แล้วจะเอาอะไรไปชนะอตาฯวะ?
อ่ะ อ่านกันก่อน
จาน ปิเอโร กาสเปรินี่ เป็นทีมที่เน้นเกมรุกค่อนข้างเยอะอย่างที่ผมบอกไป และหลายๆท่านก็ทราบดีอยู่แล้ว ยิ่งปีนี้แอดเพิ่มเติมไว้ให้ด้วยว่า พวกเขาสมดุลมากขึ้น ไม่ใช่ว่ายิงเยอะจริง แต่ก็เสียประตูเยอะ ผมเห็นว่าปีนี้พวกเขาดูบาลานซ์ดี กับ GD +4 ในเซเรียอา เมื่อเทียบกับประตูได้เสียแล้ว ผมคิดว่ายังไม่สุดโต่งเท่าปีที่แล้วเท่าไหร่ เดี๋ยวเกมถัดๆไปก็จะเห็นเอง
มีสถิตินึงทีผมเชื่อว่า "หลายคนยังไม่รู้" นั่นก็คือ อตาลันต้า เป็นทีมจากอิตาลีที่บ้าเกมบุกที่สุด เพราะพวกเขาคือทีมที่ยิงประตูได้ในเกมเซเรียอา มากที่สุดในลีกมา "3ปีติดต่อกันแล้ว" ตั้งแต่ 18/19 19/20 และ 20/21 ปีที่แล้ว ก็ยังเหมือนเดิม!
นี่คือภาพจริงของจริง ไม่มีตัวแสดงแทน แม้จะไม่ได้แชมป์ แต่ยิงมากกว่ายูเว่ในปีที่เป็นแชมป์ทั้งสองซีซั่น และยิงมากกว่าอินเตอร์ในปีที่เป็นแชมป์
อตาลันต้าก็จะยังคงเป็นทีมที่ยิงได้เยอะอยู่เช่นเคยในUCL แม้ว่าต้องเจอคู่แข่งที่หินขึ้นกว่าในลีก แต่ว่าทางสื่ออย่าง MEN ตั้งข้อสังเกตเอาไว้อย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ อตาลันต้ามี "จุดร่วม" เดียวกันอย่างหนึ่งกับ "ลีดส์ ยูไนเต็ด" (ของกูเนี่ยแหละ)
และโซลชาน่าจะเจาะได้
นั่นก็คือ กัสเปรินี่ กับ บิเอลซ่า ชอบที่จะใช้ "man-marking" ไล่จัดการแมนยูไนเต็ดแบบ "ทั่วทั้งสนาม" (man-marking all over the pitch) ซึ่งนักเตะจะได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เอาชนะการดวลในแต่ละจุดของสนามเพื่อที่จะชิงบอลเอาชนะให้ได้ในทุกๆbattleของ 1 on 1 ทั่วทั้งสนาม และชิงจังหวะทำเกมบุกสวนกลับได้ทันทีที่คู่แข่งเสียบอล พวกเขาจึงเป็นทีมที่ยิงได้เยอะขนาดนี้
(อ่านมาถึงตรงนี้ ผมให้เวลาผู้อ่านคิดถึง "กลยุทธ์" ที่จะเอามาใช้แก้ทางในเกมนี้ให้ดีๆว่านึกถึงอะไร ผมนึกออกแล้วแต่ผมยังไม่เฉลย อ่านต่อกันไปก่อน)
นี่คือระบบการเล่นที่ใช้ได้ผลมาตลอดของอตาลันต้า ซึ่งยูไนเต็ดก็ต้องระวัง แต่.. อยากจะบอกว่า เมื่อใดก็ตามที่แมนยูไนเต็ดเจอ "แมนมาร์คเต็มสนาม" ในลักษณะแบบนี้ ทีมเรามีความเร็ว และมีความสามารถในการทะลุทะลวงเกมเปิดกลางสนามในแอเรีย "Middle Third" ได้ดีมากๆ
และเมื่อทะลวงได้ มันก็ขึ้นไปถึงพื้นที่สุดท้ายตลอด ยิ่งมีตัวรุกสายสปีดเยอะๆยิ่งมีโอกาสสูง! แล้วตอนนี้อี่น้องด็อกเตอร์ก็กลับมาแล้วด้วย ยิ่งน่าคิดว่าถ้าแรชฟอร์ดกลับมาในวันนั้น จะเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ลูกทีมของโซลชา เจอกับเด็กของบิเอลซ่ามาสองครั้งที่โอลด์แทรฟฟอร์ด และอีกหนึ่งเกมที่เอลแลนด์โร้ด สนามในฝันของแอดที่อยากจะไปเยือนสักครั้งก่อนตาย โซลชาระเบิดตูดบิเอลซ่าดังป้าบๆๆๆไปด้วยสกอร์รวมทั้งหมด "11 ประตู ต่อ 3" เห็นตัวเลขแล้วต้องร้องเพลงของซีซั่นไฟว์เลย .. "What the F You gave Me"
และบิเอลซ่าโดดเด่นในเรื่องไหนครับ? ใช่แล้ว การเล่น man-marking ด้วยบอลระบบที่นักเตะทุกตัวช่วยกันทำงานเหมือนเครื่องจักร ที่หลายๆท่านมาคอมเม้นในโพสต์ของแอดแย้บๆนั่นแหละ ใช่เลย มันคือเครื่องจักรแบบเดียวกันกับเครื่องของบิเอลซ่า
และโซลชาคือวิศวรกรที่มีคู่มือในการแยกชิ้นส่วนเครื่องจักรนี้
จุดหนึ่งที่โซลชาได้รับการตำหนินั่นก็คือ การปลดปล่อยอิสระการเล่นให้นักเตะมากเกินไป ก็อย่างที่แอดบอกบ่อยๆ ว่านี่คือสไตล์ของแกที่ส่วนหนึ่งเป็นจุดดีที่ทำให้นักเตะแฮปปี้ในสนาม นั่นก็คือการปลดปล่อยอิสระให้playerในสนามได้เล่นกันเต็มที่อย่างที่ตัวเองเป็น ไม่เอาระบบอะไรไปครอบไว้เยอะ ปลดปล่อยให้เด็กใช้จินตนาการและเล่นอย่างที่เล่น
แต่บางทีอะไรที่มันมากเกินไปก็ไม่ดี เราก็เห็นกันอยู่จากการที่เลี้ยงฝืนยิงเองอย่างพร่ำเพรื่อของเมสัน กรีนวู้ด อย่างที่เราเห็นกัน ซึ่งแม้ว่าน้องจะยิงลูกไฟติด และแอดจำใจต้องให้คะแนนสูง แต่ถ้าถามว่าแอดพอใจกับ "วิธีคิด" ของเด็กไหม ผมบอกเลยว่าผมไม่ชอบมากๆ และน่าแปลกที่ปีก่อน ไอ้น้องเขียวมันไม่เป็นแบบนี้
แปลกมากจริงๆ แต่ที่แปลกกว่าคือ ทีมงานก็ยังคงไม่ห้ามเด็กมันอีก ปล่อยให้เล่นแบบเดิมต่อไปจนเพื่อนร่วมทีมหมดโอกาสไปเยอะ โดยเฉพาะCR7 ที่ค่อนข้างน่าสงสารว่า อุตส่าอยู่ในตำแหน่งที่ดีบ่อยมากๆ แต่เพื่อนตัวที่ควรจ่าย แม่งก็ไม่จ่ายอย่างกรีนวู้ด
ส่วนไอ้ตัวที่ขยันจ่าย ก็จ่ายไม่ดูหีดูแตดอะไรเช่นกันอย่างบรูโน่ แฟร์นันด์ส (ฮา)
นี่คืออีกอย่างหนึ่งของการปลดปล่อยอิสระนักเตะ บรูโน่เองก็พยายามมากเกินไปที่จะปั้นพี่โด้ รู้ว่าเป็นไอดอล รู้ว่าเข้าใจจังหวะกันเอง แต่ว่าบางทีเมื่อมีโด้อยู่ scopeของ "Vision" บรูโน่ แฟร์นันด์ส ดูจะลดลงไปเพราะไปโฟกัสที่โด้คนเดียว
นี่คืออีกปัญหานึงที่เกิดขึ้น อันมาจากสไตล์ของน้าโอเล่แกเอง ซึ่งแอดมองเห็นจุดนี้และรู้สึกว่ามันใช่
การให้อิสระเป็นสิ่งที่ดีมาก ผมเป็นนักบอลผมก็อยากเล่นตามที่ตัวเองต้องการ แต่มันก็ต้อง "บาลานซ์" กันอีกนั่นแหละว่า ควรมีอะไรมาควบคุมนักเตะบ้าง ไม่เช่นนั้นมันก็จะกลายเป็นทีมที่ไม่ใช่ทีม
นักเตะที่ "uncaged" หรือได้รับการปลดปล่อยอิสระจากกรงมากเกินไป มันก็จะบินหนีไปเลย เวลาลงเล่นในสนามจึงเป็นสิ่งที่พวกคุณเห็น นั่นก็คือต่างคนต่างเล่นในสิ่งที่ตัวเองถนัด ที่ตัวเองเชื่อว่า เนี่ย ไม้ตายกู (เช่นอีน้องเขียวเป็นต้น ลากเข้าใน หวดด้วยซ้ายข้างถนัด เพราะเชื่อว่า เนี่ยไม้ตายกู ซึ่งก็เป็นไม้ตายน้องมันจริงๆนะไม่งั้นลูกไฟศิษย์RVPไม่มีทางเกิดขึ้นแน่)
รวมถึงคนอื่นๆอย่างเช่นมาติช ก็พยายามแทงบอลขึ้นหน้า / ป็อกบาก็พยายามบังบอล เก็บบอลไว้กับตัวแล้วใช้ความสามารถเฉพาะตัวพาบอลหนี2-3คนเวลาโดนรุม เป็นต้น
ซานโช่ลากเลื้อยไปกับบอล บรูโน่พยายามเปิดเร็ว และยิงไกล
"ทุกคนใช้ความสามารถของตัวเองกันหมดเลย" เห็นชัดนะครับ
ดังนั้นถ้าคุณต้องการคำตอบว่าอะไรคือปัญหาของเราในตอนนี้ อย่างนึงก็คือการที่นักเตะต่างคนต่างเล่น และเล่นด้วยความสามารถเฉพาะตัวมากเกินไป ซึ่งมันก็เป็นผลมาจากการ "uncaged" ของโซลชานั่นเองที่ปลดปล่อยนักเตะ
มันคือปัญหาเวลาเจอทีมอื่นๆก็จริงในเรื่องนี้ และเป็นปัญหาหนักของทีมในขณะนี้ด้วย แต่ว่า เมื่อใดก็ตามที่แมนยูไนเต็ด เจอทีมที่เล่น "man-marking" อย่างเช่นลีดส์ ยูไนเต็ดเป็นต้น
ซึ่งแมนมาร์ค ต่างกันกับระบบเพรสซิ่งทั่วๆไป ที่การเล่นเพรสซิ่ง จะไม่ใช่การใช้แมนมาร์ค เนื่องการเพรสคือระบบที่ต้องเล่นกันเป็นทีม นักเตะตัวอื่นๆต้องช่วยกันวิ่งบีบกันเป็นทอดๆ และคอยตัดบอลด้วยการเพรส ไม่ว่าจะเพรสสูงแล้วรอตัดบอล หรือจะโซนเพรสแค่ครึ่งสนาม
แต่แมนมาร์ค คือการเข้าป้องกันแบบที่ใช้นักเตะรับผิดชอบตัวต่อตัวกับเด็กของเรา อันนี้มองเห็นภาพนะครับ
เกิดอะไรขึ้น? แมนยูไนเต็ดที่เล่นด้วยการใช้ความสามารถเฉพาะตัวเยอะกว่าทีมอื่นๆ ก็จะได้ประโยชน์ทันที เพราะว่า "ความสามารถเฉพาะตัว" อันโดดเด่นนี่แหละที่จะเป็นประโยชน์เวลาเจอ "man-marking"
เขียนถึงตรงนี้ หน้าไอ้ซานโช่ ลอยมาก่อนคนแรกเลยครับในเกมเจออตาลันต้านี้ ผมคาดหวังมากกกกกกกกกกก
2
อีกคนที่น่าสนใจคือ ดอนนี่ ฟานเดอเบค ที่น่าลองใช้ในเกมหนีการประกบแบบนี้ด้วยการเคลื่อนที่ของเขายามไม่มีบอล และการขยับตำแหน่งให้แล้วไป จะเล่นงานเดมแมนมาร์คได้ดีมากๆ ดอนนี่คืออีกตัวที่ผมหวัง แม้ความเป็นไปได้จะต่ำก็ตาม
ปีศาจแดงมีการเล่นที่ยืดหยุ่นมากเวลาเจอสถานการณ์เช่นนั้น นอกจากความสามารถเฉพาะตัวแล้ว การสลับตำแหน่งกันแบบ free-form ในตัวรุก ที่บรูโน่จะสลับออกข้าง ตัวรุกด้านนอกหุบเข้าใน ไม่ว่าจะซานโช่ แรชฟอร์ด
1
(แรชกระชากเข้าใน ซานโช่ลากเลื้อยเอาชนะกินตัวคู่แข่ง และกินได้1 แปลว่าเพื่อนที่เหลือของอตาลันต้าก็จะลำบากอีก)
การสวิตช์positionของนักเตะ จะยิ่งทำให้ตัวประกบแมนมาร์คของคู่แข่ง เจอกับปัญหาหนักมากๆ เพราะเมื่อวิ่งออกนอกพื้นที่ประกบ คู่แข่งจะเจอปัญหาทันทีเมื่อตัวประกบวิ่งหนี และหากมีการ "เปลี่ยนหน้า" กันมายืนในจุดๆนั้น เอาง่ายๆสุดเลยนะ แบบเบสิคๆเลย "ปีกเปลี่ยนฝั่งกัน" แค่นี้ตัวผู้เล่นของอตาลันต้าก็น่าจะเจอปัญหาแล้ว ถ้าคู่แข่งออกจากตำแหน่งที่เขาควรจะยืนอยู่
1
นี่คือจุดที่น่าสนใจเรื่องของ "positioning" ที่น่าจะใช้เล่นงานทีมที่บ้าเล่นman-marking ได้ดี เพราะยิ่งการเคลื่อนที่ของทีมมัน "Fluid" (ไหล) มากเพียงใด คู่แข่งสายแมนมาร์คจะปวดหัวครับ ข้อนี้ใครเล่นเกมพวกFMอยู่เอาไปใช้ได้นะ แอดแนะนำไว้ให้ สักวันนึงแอดสตรีมได้ว่างๆจะมาสตรีมFMให้ดูเลยว่า ไอ้แอดมินเพจนี้ดีแต่พูดทฤษฎีรึเปล่า ให้คุมทีมเองจริงๆจะเป็นยังไง (555555)
(อย่าลบหลู่ผู้ชายที่เล่น CM มาตั้งแต่อยู่มอปลายนะครับ ในยามที่คนอื่นเล่นกันแต่วินนิ่ง แอดเล่นแต่เกมสายวางแผนอย่าง Championship Managerนะ ^^)
ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่า เมห์เล่ หรือ โกเซ่นส์ จะทำไงถ้าอยู่ดีๆมาเจอกับ แรชฟอร์ด ที่ย้ายมาอยู่ทางขวา ในขณะที่รับมือกับกรีนวู้ด หรือ ซานโช่อยู่ดีๆ แล้วนี่ยังไม่รวม เจสซี่ ลินการ์ด ที่มีอิสระในการเล่นสูงๆอีก
ความสามารถเฉพาะตัว และ การสวิตช์ตำแหน่ง จะทำให้ยูไนเต็ดเล่นงานอตาลันต้าได้แน่ๆ ผมก็เชื่อแบบนั้นเหมือนกัน
แม้ว่าเกมรุกของอตาลันต้าจะ "มีของ" ในการเจาะแมนยูไนเต็ดเช่นกัน ซึ่งผมดูสภาพของมิดฟิลด์และกองหลังตอนนี้ ผมก็เชื่อว่า อตาลันต้าจะมายิงที่บ้านแมนยูได้ 1-2 ลูก ไม่ต่างกันกับที่ปรีวิวในไลฟ์กับเลสเตอร์เลย ผมรู้สึกเช่นนั้น
แต่คุณก็เห็นว่า ลีดส์ ยูไนเต็ด เจอ "ของแข็งอันเท่านี่" ของเรากระทุ้งเข้าไปหนักๆรัวๆลึกๆซะ 11-3 อตาลันต้าจะมีสภาพเป็นยังไง ถ้าวันนั้นพวกเขาไม่ปรับแผน และยังคงมาทำตัวแบบเดียวกับ "ลีดส์ ยูไนเต็ด" ยามที่เล่นที่โอลด์แทรฟฟอร์ดอีก
วันนั้นสงสัยว่าผมจะได้ร้องเพลง "สองเพลง" แน่นอน
Viva Ronaldo กับ King of Uruguay จะต้องดังกระหึ่มในเกมนั้น
ถ้าจะมีแมตช์ไหนสักแมตช์ที่จะทำให้ทีมได้โมเมนตัมบ้าง โซลชาลดกระแสโดนด่าลงไปได้สักหนึ่งเกม ผมก็คิดว่าอตาลันต้านี่แหละ ด้วยเหตุผลเรื่องเชิงแทคติกล้วนๆ
อีกสองวันเจอกัน
#BELIEVE
-ศาลาผี-
โฆษณา