19 ต.ค. 2021 เวลา 03:51 • ประวัติศาสตร์
“สงครามกลางเมืองอังกฤษ (English Civil War)”
ระหว่างค.ศ.1642-1651 (พ.ศ.2185-2194) ได้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในอังกฤษ
สงครามครั้งนี้ ต้นเหตุหลักมาจากเรื่องความขัดแย้งทางศาสนา และการปกครองในดินแดนสามแห่ง นั่นคืออังกฤษ สก็อตแลนด์ และไอร์แลนด์
ผลลัพธ์ของสงคราม นั่นคือ “พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ (Charles I of England)” ถูกประหารในปีค.ศ.1649 (พ.ศ.2192) พร้อมๆ กับการก่อกำเนิดกองกำลังแห่งชาติของอังกฤษ
สำหรับเรื่องราวของสงครามกลางเมืองอังกฤษ ต้องย้อนเล่าตั้งแต่เมื่อพระประมุของค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ทิวดอร์ นั่นคือ “สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ (Elizabeth I)” สวรรคตในปีค.ศ.1603 (พ.ศ.2146)
เมื่อพระองค์สวรรคต ผู้ที่ขึ้นมาเป็นพระประมุขสืบต่อจากพระองค์ นั่นคือพระญาติของพระองค์ ซึ่งก็คือ “พระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ (James VI and I)” ผู้ซึ่งปกครองทั้งอังกฤษ สก็อตแลนด์ และไอร์แลนด์ และนี่เป็นครั้งแรกที่ดินแดนทั้งสามรวมกันเป็นหนึ่งเดียว
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ (Elizabeth I)
พระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ (James VI and I)
ในทีแรก กลุ่มผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกในอังกฤษก็ยอมรับการขึ้นปกครองของพระเจ้าเจมส์ที่ 1 หากแต่ในเวลาต่อมา ก็หันมาต่อต้านพระองค์ และได้วางแผนจะปลงพระชนม์พระองค์อีกด้วย
ในเวลาต่อมา “พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ (Charles I of England)” พระราชโอรสของพระเจ้าเจมส์ที่ 1 ได้ขึ้นครองราชย์ในปีค.ศ.1625 (พ.ศ.2168) และได้อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงคาทอลิกที่มีพระนามว่า “เฮนเรียตต้า มาเรียแห่งฝรั่งเศส (Henrietta Maria)”
การอภิเษกสมรสของพระองค์ ทำให้หลายคนสงสัยว่าพระองค์จะทรงนำธรรมเนียมคาทอลิกกลับเข้ามาใช้ในคริสตจักรแห่งอังกฤษ
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ยังทรงเชื่อว่าพระองค์มีสิทธิในการปกครองอย่างเต็มที่ และในปีค.ศ.1629 (พ.ศ.2172) พระองค์ก็ทรงให้ยุบสภา
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ (Charles I of England)
ในเวลาต่อมา พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ทรงพยายามที่จะให้การประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในสก็อตแลนด์เป็นแบบอังกฤษให้มากขึ้น ทำให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วย ทำการต่อต้านเป็นอันมาก
กองทัพสก็อตแลนด์ได้บดขยี้กองทัพของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 และรุกรานอังกฤษ ทำให้พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ต้องทรงเรียกคืนรัฐสภาอีกครั้งในปีค.ศ.1640 (พ.ศ.2183) เพื่อหาเงินมาใช้ในกองทัพ
แต่ผลที่ได้กลับตรงกันข้าม สภาได้จำกัดพระราชอำนาจของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 และทำการตัดสินโทษและประหารชีวิตหนึ่งในคนของพระองค์
ท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองในลอนดอน ชุมชนคาทอลิกในไอร์แลนด์ได้ก่อกบฎ และทำการสังหารชาวโปรเตสแตนท์นับร้อยในเดือนตุลาคม ค.ศ.1641 (พ.ศ.2184)
ความรุนแรงนี้ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 กับสภาก็ขัดแย้งกันเอง
1
มกราคม ค.ศ.1642 (พ.ศ.2185) พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ได้ทรงพยายามจะจับกุมสมาชิกสภาที่ต่อต้านพระองค์จำนวนห้าคน หากแต่ล้มเหลว ทำให้พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ต้องเสด็จหนีจากลอนดอนไปยังภาคเหนือของอังกฤษ และทำการเรียกระดมพลผู้สนับสนุนพระองค์ เพื่อเตรียมพร้อมทำสงคราม
1
เมื่อสงครามเริ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม ค.ศ.1642 (พ.ศ.2185) กองทัพรอยัลลิสต์ได้เข้าควบคุมภาคเหนือและตะวันตกของฝรั่งเศส ในขณะที่สภาก็ได้เข้าควบคุมภาคใต้และตะวันออกของประเทศ
ในปีค.ศ.1643 (พ.ศ.2186) กองทัพของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ดูเหมือนจะได้เปรียบ หลังจากที่ได้เข้าเป็นพันธมิตรกับกลุ่มชาวไอริชคาทอลิก
หากแต่ภายหลัง กองทัพทหารสก็อตแลนด์หลายนาย ก็ได้เข้าร่วมกับฝั่งสภาในเดือนมกราคม ค.ศ.1644 (พ.ศ.2187)
2 กรกฎาคม ค.ศ.1644 (พ.ศ.2187) กองทัพรอยัลลิสต์และกองทัพของสภา ได้ปะทะกันที่มาร์สตันมัวร์ ซึ่งยุทธการนี้ เรียกว่า “ยุทธการที่มาร์สตันมัวร์ (Battle of Marston Moor)” เป็นหนึ่งในยุทธการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสงครามกลางเมือง
1
กองทัพสภาจำนวนกว่า 28,000 นาย ได้บดขยี้กองทัพรอยัลลิสต์จำนวนเพียง 18,000 นาย และทำให้พระราชอำนาจของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ทางภาคเหนือของอังกฤษต้องสิ้นสุดลง
ค.ศ.1645 (พ.ศ.2188) สภาได้จัดตั้งกองทัพที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีจำนวน 22,000 นาย โดยโมเดลกองทัพนี้ สามารถเอาชนะกองทัพรอยัลลิสต์ได้อีกครั้งในเดือนมิถุนายน ค.ศ.1645 (พ.ศ.2188)
แต่ถึงแม้จะพ่ายแพ้ แต่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ก็ยังไม่ทรงยอมแพ้ หากแต่พระองค์ได้ทรงพยายามที่จะรวมอำนาจทางศาสนาและการเมืองไว้ที่ศูนย์กลาง หากแต่ความพยายามของพระองค์ก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างวุ่นวายและเกิดจลาจลทั่วอังกฤษในปีค.ศ.1648 (พ.ศ.2191)
สุดท้ายแล้ว พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ก็ถูกนำองค์ขึ้นศาล และถูกตัดสินให้ประหารด้วยการตัดพระเศียรในวันที่ 30 มกราคม ค.ศ.1649 (พ.ศ.2192)
ภายหลังจากพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 สวรรคต กองทัพของ “โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ (Oliver Cromwell)” ก็ได้นำทัพบุกยึดไอร์แลนด์ และทำการสังหารชาวไอร์แลนด์และกองทัพรอยัลลิสต์จำนวนมาก
ในขณะเดียวกัน สก็อตแลนด์ก็ได้เจรจาและตกลงผลประโยชน์กับ “พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ (Charles II of England)” พระราชโอรสในพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ (Charles II of England)
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ได้ทรงจัดตั้งกองทัพอังกฤษและรอยัลลิสต์ชาวสก็อตแลนด์มาเป็นเวลาซักพักหนึ่งแล้ว ทำให้ครอมเวลล์ต้องนำทัพรุกรานสก็อตแลนด์ในปีค.ศ.1650 (พ.ศ.2193)
ภายหลังจากพ่ายแพ้ต่อกองทัพครอมเวลล์ในเดือนกันยายน ค.ศ.1650 (พ.ศ.2193) พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ก็ได้นำทัพเข้าสู้รบกับกองทัพสภา หากแต่ก็ต้องพ่ายแพ้อีกครั้ง
ความพ่ายแพ้นี้ทำให้พระองค์ต้องเสด็จหนี และสงครามกลางเมืองครั้งที่ 3 ก็ได้จบลง
มีการประเมินว่ามีทหารเสียชีวิตในสงครามนี้ราวๆ 200,000 นาย ทั้งจากการสู้รบ และเสียชีวิตจากโรคระบาด
และสงครามกลางเมืองนี้ ก็เป็นสงครามที่สำคัญครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อังกฤษ และนำพาไปสู่เหตุการณ์ทางการเมืองต่างๆ ในอังกฤษในสมัยต่อมา
โฆษณา