19 ต.ค. 2021 เวลา 11:30 • ท่องเที่ยว
แบ็คแพ็ค 7 ประเทศ 1 เดือน (4) - อนุเสารีย์เจงกิสข่าน & Terelj Park
Chinggis Khan Statue Complex
วันที่ 6
เริ่มต้นวัน ก็เดินทางไป Chinggis Khan Statue Complex แต่เช้า ออกเดินทาง 9 โมงเช้า คนขับรถที่นัดไว้ก็มารับที่ Hostel ตรงเวลา ฉันถามชื่อคนขับไป 2 รอบแต่ก็ยังเรียกไม่ค่อยถูกอยู่ดี
1
ระหว่างทางก็ดูบรรยากาศทุ่งหญ้าไป มันจะเป็นทุ่งหญ้าเหลืองๆบนเขียวๆนิดๆ คือถ้ามาช่วงที่ทุ่งหญ้าสีเขียวน่าจะสวยจับใจเลยแหละ
ฝูงอาชาในทุ่งกว้าง
อากาศที่มองโกเลียช่วงที่ฉันไป (13 มิ.ย. 2019) ก็เย็นสบาย ไม่ได้หนาวมากแต่ต้องพกเสื้อกันหนาวไปด้วยนะ ซึ่งจากที่เช็คไว้ที่มองโกเลียจะเป็นประเทศที่ฉันจะได้เจออากาศเย็นที่สุดแล้วจากทุกๆประเทศที่จะเดินทางไป
อนุเสาวรีย์เจงกิสข่านจะเป็น อาคารที่ตั้งโดดเด่นอยู่กลางทุ่งหญ้า รอบๆจะไม่มีอะไรเลย เราจะเห็นรูปปั้นนักรบชาวเอเชียที่โด่งดังมากๆคนนี้มาแต่ไกลเลยละ
2
ภายในจะมีลิฟต์ให้เราขึ้นไปดูรูปปั้นเจงกิสข่านใกล้ๆได้ รูปปั้นของจริงใหญ่มากๆ แล้วพออยู่ด้านบนเราก็จะได้ดูวิวจากมุมสูงของทุ่งกว้างอันเวิ้งว้างแบบ 360 องศา
ส่วนด้านล่าง ใต้รูปปั้น ก็จะมีร้านกิ๊ฟช็อปให้ซื้อของฝาก สินค้าที่ทำจากหนังแท้จะราคาไม่แพงถ้าเทียบกับที่เมืองไทย
ส่วนชั้นได้ดินก็จะมีพิพิธภัณฑ์แสดงวิถีชีวิตคนสมัยก่อนให้ชม
ส่วนนี่น้องหมาปลอม แต่เขาทำเหมือนของจริงมาก
ออกจาก Chinggis Khan Statue Complex พี่คนขับก็พาแวะถ่ายรูปกับ Vulture และ Eagle ซะหน่อย ค่าถ่ายรูปตัวละ 5,000 ทูกริกมองโกเลีย (MNT) หรือประมาณ 60 บาทไทย
ฉันก็ขอแชะภาพเป็นที่ระลึกไว้นิดนึง ซึ่ง Vulture ตัวใหญ่ๆจริง
ถ่ายรูปกับ Vulture
จากนั้นก็แวะกินข้าวเที่ยงก่อน พี่คนขับพามาร้านอาหาร ที่เป็นทั้งร้านอาหารและที่พักคือถ้าใครอยากมาพักนอนเกอร์แบบเกอร์ตามโรงแรมก็จะได้อารมณ์ประมาณนี้
ส่วนนี่คือหน้าตาอาหาร มันคล้ายๆอาหารจีนเหมือนกัน ไส้ข้างในเป็นเนื้อแพะหรือแกะนี่แหละ จำไม่ได้ รสชาติพอได้แต่ส่วนตัวฉันไม่ชอบเนื้อแพะ เนื้อแกะ ก็เลยเหลือบานเลย
แล้วพี่เขาก็พาฉันไป Terelj Park สิ่งแรกที่ได้แวะชมก็คือ......Turtle Rock ไปดูพี่เต่า อาจจะต้องเรียกว่า ปู่ของปู่ๆๆๆๆทวดก็ได้ เพราะ Turtle Rock น่าจะ exist อยู่ในโลกนี้มาก่อนหน้าฉันหลายร้อยปี
Turtle Rock เหมือนเต่าจริงๆ
รอบ ๆ Turtle Rock ก็จะเป็นแบบที่เห็นคือเป็นทุ่งโล่ง ไม่ได้มีที่นั่งพักหรืออาคารใดๆ ใครมีโอกาสไปเที่ยวแล้วไม่ชอบแดดก็เตรียมอุปกรณ์กันแดดกันไปดีๆ แดดแรงแต่อากาศเย็นๆ
สวนใครที่ชอบดอกไม้ ต้นไม้ ใบหญ้า แถวๆนี้ มีดอกไม้สวยๆ แปลกตาให้ดูเยอะเลย
ดอกอะไรไม่รู้สีขาว
ดอกอะไรไม่รู้สีเหลือง
บรรยากาศรอบๆ Turtle Rock
จากนั้นพี่คนขับรถ ก็พาเราไปวัดที่เขาเรียกว่า Meditation Temple ทางเดินขึ้นวัดก็จะต้องปีนขึ้นบันไดขึ้นไปหลายสิบขั้นอยู่
บรรยากาศก็สงบสุขใช้ได้เลยละ มีคนมาเที่ยวแค่ 4-5 คนเอง เหมาะแล้วที่เป็น Meditation Temple
ทางเดินขึ้น Meditation Temple
ด้านในวัด
พระพุทธรูป
ภาพวาดภายในวัด สไตล์ภาพวาดก็จะคล้ายๆของจีน
ทางเดินลงจากวัด ฉันลองลงอีกทางดูเผื่อเจออะไรน่าสนใจ คือมันเป็นทางดินแต่ลองดูแล้วน่าจะลงไปด้านล่างได้เหมือนกัน ซึ่งทางสวยมาก ในรูปมันเก็บความสวยมาได้ไม่เท่าของจริง
ตอนนั้นที่ฉันเดินของฉันอยู่คนเดียว มันรู้สึกเหมือนอยู่บนสวรรค์เลย คงเพราะอากาศดีไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป ข้างทางเขียวชอุ่ม แล้วก็มีดอกไม้นานาพรรณ ถึงในรูปจะดูแห้งๆ ร้อนๆ
นอกจากทางสวยแล้ว ดอกไม้ป่าสวยๆ เยอะเลย
จากนั้นพี่คนขับก็พาฉันไปแวะบ้าน Nomadic Family ของจริง พี่คนขับรถอธิบายว่า มองโกเลียจะมี Nomadic Family ที่นับถือพุทธ ซึ่งจะเลี้ยงสัตว์เป็นหลัก กับ Kazakh Family ที่นับถือมุสลิมซึ่งชาว Kazakh จะเทรน Eagle ให้ออกล่าสัตว์ ซึ่งชาว Kazakh จะมีอยู่ประมาณ 5% ของชาวมองโกเลียทั้งหมด และจะอาศัยอยู่ทางแถบตะวันตก
พี่คนขับบอกอีกว่า Land ของชาวมองโกเลียจะเป็นแบบ public คือใครจะไปจับจองอาศัยทำมาหากินตรงไหนก็ได้ แต่ต้องเป็นพื้นที่ที่กำหนดไว้ให้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ถ้าใครอยากใช้ land ทำธุรกิจ อันนี้ต้องจ่ายเงินให้กับ Government
ฉันได้เข้าไปนั่งเล่นในบ้านของ Nomadic ด้วย เขาก็ทักทายแล้วก็เอาอาหารที่เขาทำมาให้ลองชิม ได้ไปลองชิมอาหารเขาแบบเล็มๆ น่าจะเป็นชีสที่เขาทำเอง แต่ว่ารสชาติมันไม่ค่อยถูกปากสักเท่าไร
เจ้าของบ้านตัวน้อยและอาหาร
สภาพภายในบ้าน ไม่มีทีวีหรือไฟฟ้าใดๆ แต่มีเครื่องดนตรีนะ มันก็เป็นชีวิตที่เรียบง่ายดีนะ มีเฉพาะสิ่งที่จำเป็น มีครอบครัว มีที่พัก มีอาหาร มียานพาหนะ (ม้าและรถมอเตอร์ไซต์) มีเสื้อผ้า มีอุปกรณ์ของใช้นิดหน่อย แบบนี้เขาก็อยู่กันได้ นึกถึงชีวิตตัวเองแล้วก็ เออเนาะ ทำไมเรามีเยอะจัง
สภาพภายในบ้าน
จบทริป Terelj Park แต่เพียงเท่านี้ พรุ่งนี้คือเดินดูพิพิธภัณฑ์ในเมือง Ulan-Bator อย่างเดียวเลย
จริงๆ ทัวร์ที่จัดพาชมพิพิธภัณฑ์ที่ฉันหามันไม่มีเลย เลยต้องจ้างพิเศษ เพราะส่วนใหญ่คนที่มามองโกเลียมักจะออกนอกเมืองไปนอน Ger หรือไปทริปที่ต้องไปค้างนอกเมือง 7 วัน 8 วัน เพื่อสัมผัสวิถีชิวิตจริงๆของคนที่นี่
แต่ฉันมีเวลาเที่ยวมองโกเลียไม่กี่วัน แล้วที่อยากดูพิพิธภัณฑ์ก็เพราะอยากเห็นโครงกระดูกไดโนเสาร์ของจริง เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปดูกันต่อ
อ่านต่อทริปของวันพรุ่งนี้คลิกลิงค์ด้านล่างได้เลย 👇👇
โฆษณา