19 ต.ค. 2021 เวลา 05:09 • ความคิดเห็น
“มีข่าวร้ายมาบอกว่ะ โยโย่ สันติเสียชีวิตแล้ว”
“เฮ้ย! อย่าล้อเล่นนะเว้ย” ผมร้องลั่น
“เรื่องจริง”
ผมกับโย (สันติ สิงหวังชา) เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัย ม.ต้น ม.ปลาย แล้วก็มหาลัย
1
ใช่, เราเรียน ม.ต้น ที่โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตรด้วยกัน
ตอน ม. ปลาย เราก็เรียนโรงเรียนเตรียมอุดมด้วยกัน
พอ มหาลัย เราก็เรียนวิศวะจุฬาฯ ด้วยกัน
1
อันที่จริง เราสอบเทียบเหมือนกันด้วย (สมัยนี้ไม่มีสอบเทียบแล้ว) ผมกับโยสอบเทียบตั้งแต่ ม.1 ตอนสอบเทียบมีแค่เราที่เป็นเด็ก ที่เหลือเป็นผู้ใหญ่ ตอนสอบเทียบเราจึงตัวติดกัน (เพราะไม่รู้จะคุยกับใคร)
2
โดยไม่รู้ตัว โยเป็นเพื่อนที่เรียนกับผมยาวนานที่สุด 9 ปี (3+2+4)
1
อันที่จริง ผมไม่เคยเรียกชื่อ โย ส่วนใหญ่จะเรียก สันติ
ทำไม?
1
ถ้าใครเคยเรียนโรงเรียนชายล้วน จะรู้ว่าเราไม่ค่อยเรียกชื่อเล่นกัน ส่วนใหญ่จะเรียกชื่อที่เพื่อนตั้งให้
3
ชื่อที่เพื่อนตั้งให้โยคือ เป็ด
ส่วนชื่อที่เพื่อนตั้งให้ผมคือ จิ้งจก
เด็ก ม.ต้น ไม่ค่อยคิดอะไรมากหรอก ส่วนใหญ่มักตั้งชื่อเพื่อนตามสัตว์ต่าง ๆ หรือไม่ก็เรียกชื่อพ่อ
ใช่, ผมยังจำได้เลยว่าชื่อพ่อของโยคือ นริศ
พอมารู้ทีหลังว่าเป็นเจ้าของค่ายมวยดัง สิงหวังชา ทำเอาขนลุกซู่
1
ผมไม่ชอบเรียกชื่อพ่อ ส่วนใหญ่จึงเรียก สันติ ถ้าวันไหนอยากกวนตีนก็เรียก ไอ้เป็ด
โยเองก็ชอบกวนตีนผมเหมือนกัน บางทีก็ชอบชวนเพื่อนมาช่วยกันล้อ
1
โย: “อ๊ะ! ได้ยินเสียงไหม?”
เพื่อน: “หือ! เสียงอะไรเหรอ?”
โย่: “นี่ไง จุ๊ จุ๊ จุ๊ เสียงจิ้งจก”
เพื่อน: “อ้าว ไอ้บิวร้องนี่หว่า”
แล้วมันสองคนก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก พร้อมกับรีบวิ่งหนีผมที่ปรี่เข้ามาถีบ
1
ด้วยความที่เป็นโรงเรียนชายล้วน สรรพนามที่เราเรียกกันคือ กู และ มึง
บางครั้งก็มีคำว่า ไอ้ นำหน้า
บางครั้งก็มีคำว่า ไอ้+สัตว์เลื้อยคลาน นำหน้า
สำหรับพวกเรา คำสรรพนามคล้ายดัชนี้ชี้ความสนิท ยิ่งหยาบคาย แปลว่ายิ่งสนิท ตลกดีเหมือนกัน
3
ตอนม. ปลาย เรามาเข้าเตรียมอุดมด้วยกัน รุ่นเรามีเข้าเตรียม ฯ แค่ 4 คน คือโย ผม นิติพงษ์ แล้วก็ปฐมพงศ์ แม้ช่วงแรกจะเกาะกลุ่มกัน แต่พออยู่คนละห้องเราก็ค่อย ๆ ห่างกัน
4
โยจึงถือโอกาสลบชื่อเป็ดออกจากสารบบ และให้เพื่อนทุกคนเรียกตัวเองว่าโย หรือ โยโย่
ผมจึงเลิกเรียกชื่อเป็ด และหันมาเรียก สันติ เพียงชื่อเดียว (แต่ในบทความนี้ขอเรียกว่า โย)
2
เราเรียน ม. ปลาย 2 ปี แล้วก็มาเข้าวิศวะจุฬา ฯ ด้วยกัน แต่อยู่คนละภาควิชา ผมเรียนสิ่งแวดล้อม ส่วนโยเรียนโยธา (ชื่อโย และเรียนโยธา ตลกดีเหมือนกัน ^^)
3
ตอนเรียนโยธาเหมือนจะเข้าทาง โยเรียนได้ดีและเก่งเป็นลำดับต้น ๆ ของภาค ด้วยความที่เป็นคนสบาย ๆ เฮฮา แถมเรียนเก่ง จึงเป็นที่รักของเพื่อน ๆ
1
แม้จะอยู่คนละภาค แต่พอเจอหน้ากันเรายังคงทักทาย กวนตีนแบบหอมปากหอมคอ
2
พอเรียนจบเราไม่แทบไม่เจอกันเลย มารู้ข่าวอีกครั้งคือโยกลายเป็นนักเล่นหุ้นรุ่นใหม่ที่ทุกคนรู้จัก ใช้ชื่อในวงการว่า โยโย่ หรือ yoyoway (ถ้าใครเล่นหุ้นแนว VI ต้องรู้จักชื่อนี้)
5
รู้ข่าวอีกครั้งคือโยกำลังจะแต่งงาน เจ้าสาวของโยคือส่วง
1
ส่วงเป็นเพื่อนของผมตั้งแต่สมัยเรียนประถม เพิ่งรู้ว่าสองคนนี้รู้จักกัน และกำลังจะแต่งงานกัน (โลกกลมดีแท้)
โยเป็นคนดี และส่วงก็เป็นคนดี
ดีใจกับเพื่อนทั้งสองมาก
3
ยิ่งเวลาผ่านไป ชื่อเสียงของโยยิ่งเป็นที่รู้จัก เปลี่ยนสถานะจากนักลงทุนรุ่นใหม่ กลายเป็น นักลงทุนรุ่นใหญ่ ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับหลาย ๆ คน
เวลามีเพื่อนรู้ว่าผมรู้จักโย yoyoway ทุกคนจะทึ่งมาก
1
“รู้จัก yoyoway จริงดิ?”
“เจ๋งอ่ะ รู้จักคนดังด้วย”
1
การมีเพื่อนดัง ทำเอาผมพลอยยืดไปด้วย ดีใจกับโยที่มีวันนี้
1
เรื่องความร่ำรวยคงไม่ต้องพูดถึง โยเลยจุดนั้นไปนานแล้ว แต่โยยังเป็นสันติคนเดิม ยังคงสบาย ๆ และเฮฮา
2
พอโยรู้ว่าผมทำเพจ บางครั้งก็มีแชตมาถามเรื่อง Excel บ้าง แต่ก็คุยกันไม่บ่อย
เวลาเราคุยกัน สรรพนามที่ใช้ยังคงเหมือนเดิม (กู และ มึง) เคยเป็นไงก็เป็นงั้น มิตรภาพของเราไม่ผันตามกาลเวลา
2
“โยเสียชีวิตยังไง?” ผมถามกลับ
“ยังไม่รู้รายละเอียด เหมือนจะเป็นอุบัติเหตุ เหตุเกิดเมื่อเช้านี้เอง (18 ตุลาคม 2021)”
“เรื่องจริงใช่ไหม” ผมถามย้ำ เหมือนอยากให้เพื่อนบอกว่าไม่จริง
“เรื่องจริง ลองเช็คกับเพื่อนสนิทอีกคนแล้ว ทุกคนช็อคมาก”
1
ตอนที่ผมกำลังพิมพ์บทความนี้ บอกตามตรงว่ามือสั่นและต้องหยุดเป็นพัก ๆ
ไม่อยากเชื่อว่าเพื่อนที่โตมาด้วยกัน เรียนมาด้วยกัน ตบหัววิ่งไล่เตะตูดกัน จะจากไปด้วยวัยเพียงสี่สิบปี
1
“จุ๊ จุ๊ จุ๊ อุ๊ย! จิ้งจกร้อง” แล้วโยก็หัวเราะ
1
คิดถึงมึงว่ะสันติ อยากให้มึงกลับมาล้อกูอีก…
หลับให้สบายนะเพื่อน
4
โฆษณา