22 ต.ค. 2021 เวลา 12:15 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่อง...มนต์รักข้ามภพ
เขียน...CORDIA
หมวด ...นิยายรักผู้ใหญ่
ตอนที่ 14
หวงเด็ก
จัดท่านั่งตัวเองที่อยู่ในชุดกระโปรงบางพลิ้วถอดกางเกงในออกโยนทิ้งข้างเตียง แล้วอ้าขาออกกว้างหันหน้าไปที่ประตูห้องน้ำ เป็นจังหวะที่ธาดานุ่งผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวสอบเดินออกมา เขาจ้องเขม็งมองภาพยั่วยวนตรงหน้า ธาดาลอบกลืนน้ำลายเมื่อกี้เขาเองก็ถึงพริกถึงขิงแล้วนะ เธอยังไม่อิ่มอีกหรือ ยังมีแรงยั่วเขาได้อีกนะ
"พี่หมอขา เข้ามาหาหนูหน่อยสิคะ หนูเจ็บตรงนี้" เธอส่งเสียงออดอ้อนอ่อนหวานกว่าที่เป็นเรียกหา นิ้วเรียวบางกรีดไปตามร่องกลีบของตนเอง ธาดาเองก็ยอมเดินไปหา ดวงตาเป็นประกายของเขามองต่ำลงไปที่หว่างขาที่มันเบ่งบานท้าทายเขา
"ผมทำหนูเจ็บหรือ เจ็บมากไหมครับ" ธาดาถามเสียงนุ่ม นิ้วเรียวหนาของตนเองยื่นมาลูบไล้ที่เนินเนื้อสาว
"เจ็บค่ะ พี่หมอใช้ลิ้นเลียให้หน่อยสิคะ พี่หมอกระแทกหนูแรง เมื่อคืนก็ไม่ได้พักเมื่อเช้าก็ยังจะต่ออีก" ปรางพูดขณะยกมือลูบใบหน้าสากไปด้วยหนวดเคราส่งสายตาหวานเยิ้ม เธอไม่รู้ว่าคนในสายยังจะอยู่ฟังอยู่หรือเปล่า แต่ยังคงแสร้งเล่นละครต่อไป
"ผมขอโทษนะครับ ก็หนูน่ากินจนอดใจไม่ไหวนี่นา"
"งั้นก็ต้องรักษาแผลให้หนูนะคะ" ปรางยังคงออดอ้อนหมอธาดา จับมือหนาลูบไล้กลีบเนื้อของตนเอง
////ปิดเนื้อหา18+/////
"ไปก่อนนะครับ เมียช่างยั่วของผม"
"อือ" ปรางขานรับในลำคอ เธอไม่มีแรงแม้แต่จะเปล่งเสียงพูดกับเขา เปลือกตาไม่สามารถฝืนเปิดขึ้นได้จึงต้องหลับตา
ธาดายิ้มขำกับคนดื้อรั้น ที่อ่อนเพลียจนลืมตาไม่ขึ้น จูบหนักที่ริมฝีปากอิ่มก่อนจะเดินออกจากห้องไป
วันหยุดของคุณหมอธาดาเวียนมาถึงอีกครั้ง และมันก็ตรงกับวันหยุดของนายตำรวจเพื่อนรัก ทั้งสองจึงนัดกันไปเที่ยวทะเลใกล้กรุงเทพฯ ปรางดีใจจนกระโดดหอมแก้มเขาหลายครั้งเมื่อรู้ว่าจะได้ไปเที่ยว ทะเลที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน เคยเห็นแต่ในโทรทัศน์มันสวยมาก น้ำสีฟ้าครามสดใส หาดทรายที่หมอธาดาบอกว่าสามารถถอดรองเท้าเดินได้เลย มันนุ่มเท้าจนเธออยากไปสัมผัส
ปรางอยู่ในชุดกระโปรงสีขาวมีลายเปลือกหอยกับปลาตัวเล็ก ๆ เป็นสายคล้องคอโชว์แผ่นหลังเนียน แต่ไม่ได้โชว์เพราะมีเสื้อคลุมบางเบาสีฟ้าอ่อนทับอีกชั้น พร้อมกับหมวกสานปีกกว้างใบใหญ่
"ดีใจไหมครับ ใกล้ถึงแล้ว" ธาดาหันมาคุยกับเมียเด็กของเขาที่นั่งไม่นิ่ง เห็นอะไรข้างทางก็ชี้ให้เขาดูด้วยความตื่นเต้น
"อยากเล่นน้ำทะเลค่ะ"
"เดี๋ยวก็ได้เล่น" ธาดาหลุดขำกับคำพูดของคนข้าง ๆ
เขาอดคิดไปถึงอนาคตที่ปรางมีลูกสาวตัวน้อยให้เขาไม่ได้เลย คงจะเหมือนแม่มาก เขาเองก็อยากมีลูกกับเธอ แต่อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอนเกินคาดเดาได้ หากเกิดว่าปรางได้กลับไปในที่ที่เธอจากมาเขาจะทำใจได้หรือไม่ ทุกคืนที่ปรางนอนหลับเขาไม่อาจข่มตาให้หลับได้เพราะกลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิด และไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไร หากเป็นไปได้เขาอยากใช้ชีวิตกับปรางทุกวินาที อยากอยู่กับเธอจนวินาทีสุดท้ายก่อนที่เธอจะจากเขาไป
รถยนต์ขับแล่นบนท้องถนนยิงยาวจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเกือบสามชั่วโมงถึงที่หมาย มองเห็นชายหาดสีขาวอยู่ไกล ๆ ทำให้รู้ว่าตอนนี้เราถึงทะเลแล้ว ปรางมองท้องทะเลกว้างสุดขอบฟ้าด้วยความตื่นเต้นยินดี ธาดาขับรถเลี้ยวเข้าไปจอดในอุทยานซึ่งเป็นจุดนัดพบผู้หมวดตะวันกับครอบครัว ธาดาหันไปบอกว่าวันนี้ตะวันพาภรรยาและลูกสาวมาด้วย เธอทำหน้าจืดเจื่อนเล็กน้อยก่อนจะหันมาฉีกยิ้มกว้างให้เขา เขารู้ว่าปรางไม่ได้รู้สึกรักหมวดตะวันแต่เพื่อนของเขาดันไปหน้าคล้ายคนรักเก่าของเธอนี้สิ
เมื่อคืนที่หมวดตะวันโทรมาชวนไปเที่ยวทะเล ธาดาอยากจะตอบปฏิเสธไปเพราะเขาอยากอยู่กับปรางที่บ้านสองคนมากกว่า แต่ก็ดูจะเห็นแก่ตัวเกินไป เขาอยากให้ปรางได้ออกไปเที่ยวไปเปิดหูเปิดตาบ้างอยู่แต่ในบ้านอยู่แต่กับเขา เธอคงจะเบื่อหน่าย จึงตอบรับคำชวนของเพื่อนไป
"สวัสดีค่ะพี่ซี" เนตรภรรยาคนสวยยกมือไหว้คุณหมอธาดาและหันมายิ้มให้ปรางอย่างเป็นมิตร
"ปรางจ้ะ นี่เนตรเป็นเมียไอ้หมวด แล้วลูกตาลล่ะ"
"นั่งอยู่โน่นค่ะ" เนตรชี้ไปทางลูกสาววัยห้าขวบที่นั่งดูการ์ตูนในโทรศัพท์มือถืออยู่ ธาดาไม่ค่อยอยากจะแนะนำให้เด็กเล็กที่อยู่ในวัยเรียนรู้เล่นมือถือมากนัก แต่ก็เข้าใจว่าแต่ละครอบครัวมีวิธีเลี้ยงดูไม่เหมือนกันเขาจึงทำได้เพียงมองดูเฉย ๆ
ทั้งสองบ้านเดินทางมาถึงที่เที่ยวตอนเก้าโมงจึงพากันสั่งอาหารมาทานกัน ปรางกับเขายังไม่ได้ทานมื้อเช้า เขาซื้อไส้กรอกชีสจากร้านสะดวกซื้อกับน้ำแร่บริสุทธิ์ให้เธอทานรองท้องไปก่อน ส่วนเขาดื่มกาแฟร้อนเพราะเขาต้องขับรถหลายชั่วโมง อาหารที่สั่งมีประมาณสามสี่อย่าง กุ้งทอดกระเทียม ต้มยำทะเลน้ำข้น หมึกนึ่งมะนาว หอยนางรมทรงเครื่องและปูไข่ดองน้ำจิ้มซีฟู้ด ซึ่งเป็นอาหารที่ปรางไม่เคยกินและไม่เคยเห็น
เธอกินไปด้วยแล้วหันมาถามเขาเป็นระยะ ลูกตาลเด็กน้อยหนึ่งเดียวที่ทำตัวเป็นกูรูบอกเมนูอาหารและรสชาติให้กับสาวหลงยุคอย่างปรางได้รู้ สามารถเรียกรอยยิ้มให้กับทุกคนบนโต๊ะอาหาร เมื่อทานอาหารเสร็จเนตรจึงชวนปรางไปเดินเล่นริมชายหาด ธาดายังไม่ให้ลงเล่นน้ำตอนนี้ เพราะแดดในเวลานี้แรงจัดกลัวผิวสวย ๆ ของเธอจะหมองคล้ำ ธาดาฉวยมือปรางเดินเข้าไปนั่งหลบมุม ในที่ลับตาคน เขาหยิบครีมกันแดดติดมือมาด้วย
"จะหวงอะไรขนาดนั้นว่ะ กูเห็นหมดแล้ว" หมวดอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซวเพื่อน อยากจะพูดต่อว่ามากกว่าเห็นก็กอดมาแล้ว แต่ก็เกรงใจเมียที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
หมวดตะวันคนเจ้าชู้ประตูดิน วีรกรรมของเขาที่ผ่านมาทำให้ภรรยาสาวเก็บเสื้อผ้าของเขายัดใส่กระเป๋าโยนออกนอกบ้านมาแล้ว หมวดตะวันจึงต้องแบกหน้าไปขออาศัยอยู่กับหมอธาดาเป็นเดือนกว่าจะเข้าบ้านได้ และตอนที่เนตรตั้งท้องลูกสาวอีกหมวดตะวันแอบไปนอนกกกอดกับพริตตี้สาวอยู่ที่คอนโดไม่กลับบ้าน อ้างว่าไปราชการต่างจังหวัด ทำให้เนตรร้องไห้เสียใจมากหนีไปอยู่บ้านแม่ที่กาญจนบุรีเกือบสองเดือน และหลังจากนั้นพวกบรรดาผู้หญิงที่หมวดตะวันไปติดพันก็ส่งรูปส่งข้อความไปก่อกวนภรรยา จนเธอโมโห โกรธจัดเนตรยื่นคำขาดหากยังประพฤติตัวแบบนี้เธอจะฟ้องหย่า
และแน่นอนว่าเขาเป็นข้าราชการต้องโดนโทษทางวินัยหนัก โดยเฉพาะเรื่องชู้สาว หมวดตะวันจึงตกลงหยุดทุกอย่างในทันทีกลับตัวกลับใจเป็นสามีที่ดี ดูแลเมียกับลูกเป็นอย่างดี แต่พอเรื่องเริ่มเงียบไม่วายกลับไปทำตัวเหลวแหลกเช่นเดิม แต่ครั้งนี้หมวดตะวันระวังตัวมากขึ้น เข้มงวดกับผู้หญิงที่เลี้ยงไว้บำเรอกามให้อยู่ในโอวาทห้ามก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว
"ไปแซวเขาทำไมคะ ตัวเองทำตัวดีแล้วเหรอ" ถูกภรรยาพูดเหน็บ หมวดตะวันหันส่งยิ้มแหยให้ เดินเข้าไปนั่งข้างลูกสาวเพื่อช่วยทาครีมกันแดดให้
ด้านธาดาเมื่อดึงปรางเข้ามานั่งม้านั่งหินอ่อนที่มีต้นไม้ใหญ่บังแดดอยู่ จัดการที่นั่งให้เธอแล้วถอดเสื้อคลุมออกให้ แผ่นหลังเนียนที่เผยให้เห็นเกือบครึ่ง ทำให้ธาดาแอบฉุนเฉียวไม่คิดว่าจะโป๊ขนาดนี้ หากรู้ว่าจะโชว์เยอะแบบนี้เขาจะไม่ให้เธอใส่ออกจากบ้านเลย อยากจับเธอเปลี่ยนชุดเสียเดี๋ยวนี้เลย
"ทำไมเลือกชุดนี้มาใส่ หือ" เขาเอ่ยถามเสียงขุ่น เมื่อเช้าธาดาให้ปรางเป็นคนเลือกชุดใส่เอง เธอหยิบชุดนี้ที่ยังอยู่ในไม้แขวนมาถามเขาว่าสวยไหม พอธาดาตอบว่าสวยปรางจึงตัดสินใจเลือกใส่ชุดนี้เลย
"ก็ พี่หมอบอกว่าสวยนี่ค่ะหนูเลยใส่ชุดนี้" น้ำเสียงที่เขาถามเธอทำให้รู้ว่าเขากำลังไม่พอใจเธอ ปรางจึงอ้อมแอ้มตอบเสียงเบา
"มันโป๊ ผมหวงนี่" ธาดาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง เมื่อรู้ว่าตนเองทำให้เธอกลัว ดึงเธอเข้าไปโอบเอวหลวม ๆ เพื่อง้องอน ปรางเมื่อได้ฟังคำตอบทำให้เธอยิ้มเอียงอาย "เปลี่ยนชุดดีกว่านะ เผื่อหนูลงเล่นน้ำจะได้ไม่ต้องกลับมาเปลี่ยนหลายรอบ"
"ค่ะ" ธาดาให้ปรางนั่งรอที่ม้านั่งหินอ่อน ส่วนเขาเดินกลับไปเอากระเป๋าที่โต๊ะ
ระหว่างปรางจึงบีบครีมใส่มือชโลมทาบนผิวขาวเนียน เธอทาแขนและขาโดยไม่ได้ระวังตัวเอง ภาพเย้ายวนตรงหน้าทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างมองกันตาเป็นประกาย โดยเฉพาะผู้ชาย ธาดาที่เดินกลับมาเห็นถึงกับควันออกหูเขารู้สึกถึงไอร้อนไปทั้งศีรษะอยากจะลากแม่ตัวดีขึ้นรถกลับบ้านให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เขาส่งสายตาเขียวปั้ดให้กับพวกผู้ชายที่มองเมียเขา พวกนั้นเมื่อรู้ว่าเธอมีเจ้าของจึงรีบเดินหนีไปอย่างไว
"ทำอะไรอะปราง" เธอสะดุ้งตกใจที่จู่ ๆ ธาดาก็พูดขึ้นมาเสียงดังเหมือนตะคอก ปรางสังเกตว่าธาดาอารมณ์แปรปรวนเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายจนเธอตามไม่ทัน
"ทะ ทาครีมไงคะ" ปรางชูหลอดครีมขึ้น หรือเธอใช้ผิดวิธี สิ่งนี้ไม่ได้เอาไว้ทาผิวหรอกเหรอ
"หึ ไปเปลี่ยนชุดเถอะ ห้องน้ำอยู่ทางนั้นผมจะรอตรงนี้นะ" น้ำเสียงของเขายังขุ่นอยู่ แม้จะพยายามทำให้เป็นปกติแล้ว ยื่นถุงเสื้อผ้าให้พร้อมชี้ไปยังจุดที่เป็นห้องน้ำให้ปราง เธอจึงลุกเดินไปตามทางที่ธาดาบอก
ตะวันและธาดานอนเล่นอยู่บนเตียงผ้าใบ ปล่อยให้สามสาวไปเล่นน้ำทะเล ธาดาย้ำคำสั่งให้ปรางเล่นน้ำแค่บริเวณที่เขากำหนดเพื่อที่จะได้อยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลา เขาเลือกชุดใส่เล่นน้ำให้ปรางเป็นเสื้อยืดสีดำแขนยาวกับกางเกงขาสั้นพอดีตัว ธาดามองเมียเด็กเล่นน้ำอย่างเพลิดเพลินตา เธอสดใสร่าเริงยิ้มไม่หุบเลย ลูกตาลลูกสาวของหมวดตะวันดีใจเหมือนได้เพื่อนเล่นในวัยเดียวกัน
"มึงจริงใจกับเขามากไหมวะ มึงแน่ใจแล้วเหรอว่าเป็นคนนี้" ตะวันเอ่ยถามเพื่อน เขาไม่อยากให้เพื่อนเลือกคนผิด ประวัติของปรางก็ยังไม่ชัดเจนกลัวจะเป็นนักต้มตุ๋นมาหลอกเอาเงินเพื่อนเขา
"อือ กูพาไปหาคุณแม่แล้ว"
"เฮ้ย จริงดิ ไม่บอกกูเลย"
"ก็ไม่เชิงพาไปแนะนำหรอกมึง พอดีท่านมาหากูที่บ้านแล้วเจอปรางเข้า ท่านเลยให้พาไปหาที่บ้าน" ธาดาขยายความให้เพื่อนฟัง เพื่อที่ตะวันจะได้ไม่คิดน้อยใจเขาที่ไม่ได้บอก
ธาดาแทบกระเด้งตัวลุกจากที่เตียงผ้าใบทันทีเมื่อเห็นหนุ่มฝรั่งผมทองเดินมาคุยกับเมียตนเองที่กำลังก่อกองทรายอยู่ริมหาด แต่โดนเพื่อนดึงแขนเอาไว้ก่อน
"ใจเย็นมึง เนตรก็อยู่"
"เป็นเอามากนะมึง กูคบเด็กสาว ๆ ยังไม่เป็นเท่ามึงเลย" ตะวันเปรียบเทียบใส่ตัวเอง ไม่จริงจังนัก แต่ไม่วายถูกเพื่อนสวนกลับ
"มึงไม่ได้คบจริงจัง มึงแค่เอาไว้กินเล่น ไอ้เวรอย่าเอาปรางไปเปรียบกับเด็กมึง"
"เอ่อ ๆ กูขอโทษ ว่าแต่พยาบาลที่มึงกินอร่อยไหมวะ กูสนใจว่ะ"
มีอยู่วันหนึ่งตะวันเข้าไปหาเพื่อนที่โรงพยาบาล แต่ดันไปเจอเพื่อนกำลังกินตับอยู่กับพยาบาลสาวทรงโต เขาเห็นแล้วเกิดความพึงพอใจอยากจะส่งเสียเลี้ยงดู และแม่นางพยาบาลคนนั้นยังทอดสะพานยั่วยวนเชิญชวนเขาอยู่ตลอดเวลา
"เด็กที่มึงซุกไว้สองคนยังไม่พออีกเหรอวะ ไม่กลัวเนตรรู้หรือไง กูบอกเลยนะคราวนี้บ้านกูไม่ต้อนรับกูมีปรางแล้ว" ธาดารีบออกตัวทันทีหากตะวันถูกไล่ตะเพิดออกจากบ้านเมื่อคราวก่อน เขาคงไม่ใจดีให้มันมาอยู่บ้านได้อีก
"ก็อย่าให้รู้ดิวะ ไม่ค่อยได้ไปหาเป็นเดือนแล้วว่ะ อีกคนก็หนีไปมีผัวแล้ว"
"เขาชื่อน้ำฝน มึงก็ไปทำความรู้จักกันเอาเองกูไม่ยุ่ง"ธาดาตัดสินใจบอกเพื่อนไป เพราะเขารู้ว่าน้ำฝนคิดจะจับเขา ธาดาต้องการตีตัวออกห่างนี่จึงเป็นโอกาสดีที่น้ำฝนจะได้ออกไปจากชีวิตเขากับปรางเสียที
เล่นน้ำนานร่วมสองชั่วโมง แดดเริ่มแรงจัดเนตรจึงพาลูกสาวและปรางขึ้นไปหลบแดดรอให้แดดอ่อนกว่านี้ค่อยกลับมาเล่นน้ำกันอีกครั้ง วันนี้ไม่ใช่วันหยุดสำคัญเป็นเพียงวันธรรมดาที่คนส่วนใหญ่ทำงานกัน นักท่องเที่ยวจึงบางตามาก และหาดบริเวณเป็นของบ้านพักจึงมีแต่นักท่องเที่ยวเข้ามาพักเท่านั้นที่จะเล่นน้ำบริเวณนี้ ธาดากับตะวันเปิดห้องพักสองห้องสำหรับพักผ่อนและอาบน้ำชำระล้างคราบน้ำทะเลเค็มออกจากร่างกาย
ธาดาไม่ทันสังเกตเห็นสภาพเสื้อผ้าเปียกปอนรัดรูปแนบเนื้อเน้นทรวดทรงองค์เอวชัดเจนขึ้น พอเห็นทุกอย่างชัดเจนขึ้นธาดาตวัดสายตาดุมองเพื่อนที่สวมใส่แว่นตาสีดำสนิทอำพรางดวงตาไว้ แต่เขารู้ว่ามันกำลังแอบมองเมียเขาอยู่
"เย็ดเข้!" เสียงอุทานของเพื่อนทำให้ธาดาเงยหน้ามองตาม
"ไอ้หมวด มึงห้ามมองเมียกู"
"กูไม่ได้มอง" ตะวันรีบตอบปฏิเสธทันควัน
"ถอดแว่นออกเดี๋ยวนี้!"
"กูขอโทษ" เขาถอดแว่นออกแล้วเบือนหน้าหนีไปอีกทาง เมื่อเพื่อนจับได้
ธาดาทนไม่ได้ ตะวันไม่มองแต่ก็มีนักท่องเที่ยวชายคนอื่นมองอยู่ดี จึงลุกถอดเสื้อฮาวายเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหาปรางแล้วสวมเสื้อทับเพื่อปกปิดเรือนร่างอ้อนแอ้นอย่างหวงแหน รีบขอตัวกับเพื่อนขึ้นห้องพาปรางไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด
"แต่หนูจะเล่นน้ำอีกอยู่นะคะ" ปรางรีบค้านเมื่อธาดาพูดจบ เขาจะพาเธอไปอาบน้ำแล้วเธอจะได้เล่นน้ำอีกไหม
"ตอนบ่ายจะเล่นด้วย" เขาตอบเมียเสียงเรียบ ปรางจึงยอมเดินตามแรงจูงไป ธาดาพูดแบบนี้แสดงว่าเธอจะได้เล่นน้ำอีกครั้ง
"พี่หมอคะ น้ำทะเลเค็มมากเลยค่ะ แล้วมันก็แสบตาด้วย" ระหว่างที่รอลิฟต์ปรางชวนหมอธาดาคุย พร้อมกับเอานิ้วชี้ที่ตาข้างซ้ายของตนเองที่แสบเคืองเพราะน้ำทะเลเข้าตา
ด้วยส่วนสูงที่มากกว่าทำให้ธาดาต้องก้มต่ำมาก ปรางจึงเขย่งปลายเท้าขึ้นให้เสมอกับเขา ธาดาใช้มือข้างที่ว่างจับใบหน้านวลที่ที่เปลี่ยนสีเพราะถูกแสงแดดเผาเป็นเวลานาน ทำให้ผิวขาวของเธอเป็นผิวสีแทน ดูสวยไปอีกแบบ
"แดงเลย แล้วดูผิวสิ ดำคล้ำเลย ตอนบ่ายไม่ต้องเล่นแล้วมั้ง"
"เล่น! หนูอยากเล่นน้ำ แค่หลับตาน้ำทะเลก็ไม่เข้าตาแล้วค่ะ" หญิงสาวหลับตาประกอบคำพูดของตนเอง มองดูน่ารัก เธออยากเล่นน้ำจนต้องยอมให้ตัวเองเจ็บตัว รอบสองเขาคงต้องเล่นน้ำเป็นเพื่อนเธอจริง ๆ เสียแล้ว ทั้ง ๆ ที่พูดออกไปอย่างนั้นเท่านั้นเองไม่ได้จะลงเล่นน้ำจริง ๆ
สิ่งที่คาดหวังจากการเปิดห้องคือเขาอยากทำกิจกรรมบนเตียงกับเธอ แต่ดันผิดคาดเมื่อปรางอาบน้ำเปลี่ยนชุดทานมื้อเที่ยงเสร็จ เธอผล็อยหลับไปในทันทีเรียกได้ว่าหัวถึงหมอนแล้วหลับทันที ธาดาจึงไม่กวน เขาเลือกที่จะออกไปเดินข้างนอก ชวนตะวันออกไปตลาดเพื่อซื้ออาหารทะเลมาทำปิ้งย่างกินกัน วันนี้คงต้องอยู่ที่นี่จนฟ้ามืด
"กูว่าจะเช่าบ้านเป็นหลังเอาหลังที่มีสระว่ายน้ำ จะได้ไม่ต้องเล่นน้ำทะเลตากแดด มึงว่าไง" ธาดาเสนอความคิด ตกบ่ายแดดแรงขืนลงเล่นน้ำคงจะมีใครได้จับไข้บ้าง และอีกอย่างน้ำทะเลสกปรกกว่าที่คิด กลัวจะเป็นอันตราย อย่างน้อยสระว่ายน้ำเจ้าของบ้านพักต้องดูแลทำความสะอาดอยู่แล้ว
"ก็ดีนะมึง เราจะได้จัดปาร์ตี้ริมสระไปด้วยเลย แถมเป็นส่วนตัวด้วย"
"งั้นแวะหาบ้านพักก่อนนะ ค่อยไปตลาด"
"จัดไปเพื่อน"
เปลี่ยนสถานที่เล่นน้ำจากทะเลเป็นสระว่ายน้ำส่วนตัว บ้านธาดาที่เธออยู่ไม่มีสระว่ายน้ำมีแต่บ้านคุณแม่ของเขา ทั้งหลังใหญ่แล้วยังมีสระว่ายน้ำในตัวเธอเคยเอาขาลงไปแช่น้ำเล่น ลูกตาลเด็กน้อยดีใจจนส่งเสียงร้องกระโดดโลดเต้น วิ่งรอบสระว่ายน้ำ ปรางเห็นอากัปกิริยาน่ารักน่าชังของเด็กน้อยเธอเองอยากทำแบบนั้นบ้าง แต่ต้องสำรวมอาการเพราะเธอนั้นโตแล้ว จึงหันไปฉีกยิ้มหวานกับธาดาแทน
"มื้อเย็นเราจะกินปิ้งย่างกินนะ หนุ่ม ๆ ช่วยเตรียมเตากับอุปกรณ์นะคะ ส่วนสาว ๆ อย่างเราเข้าครัวกันค่ะ" เนตรแจกแจงหน้าที่เสร็จสรรพ ช่วยกันถือของคนละไม้คนละมือเข้าไปไว้ในบ้าน ปรางเดินไปช่วยเนตรล้างกุ้งกับหมึกในครัว
ปรางอยู่ในชุดว่ายน้ำทูพีชวินเทจเอวสูงสีเขียวไม่มีลวดลาย พอเรือนร่างงดงามอยู่ในชุดแบบนี้ยิ่งทำให้เธอแลดูเซ็กซี่เย้ายวนชวนมองมากขึ้น ขับผิวขาวให้เด่นชัด ธาดาคิดผิดอีกแล้วที่ไม่ยอมเข้าไปเลือกชุดให้เธอด้วยตนเอง เขาไว้วานให้เนตรเป็นคนพาปรางไปเลือกซื้อชุดว่ายน้ำให้
ส่วนเนตรนั้นสาวสวยบั้นท้ายดินระเบิดอยู่ในชุดว่ายน้ำวันพีชเว้าหน้า แม้จะเป็นชุดว่ายน้ำที่เรียบ ๆ แต่แอบเซ็กซี่นิด ๆ การเผยให้เห็นสัดส่วนบางจุดของร่างกายทำให้เก๋แปลกตาน่ามองไม่น้อย ส่วนลูกสาวน้องลูกตาลอยู่ในชุดว่ายน้ำวันพีชสีชมพูหวานแหวว ทำให้คุณพ่อชมไม่ขาดปากว่าลูกสาวเขาสวยน่ารัก ธาดาแอบหมั่นไส้เพื่อนเล็กน้อยในความเห่อลูกสาว ตะวันรักและหวงลูกสาวคนเดียวของเขามาก มากถึงขนาดยอมละทิ้งทุกอย่างเพื่อให้ตนเองได้อยู่กับลูก แต่นิสัยเจ้าชู้นั้นแก้ยากทำให้เขาต้องออกไปหาเศษหาเลยนอกบ้านบ่อย ๆ
"ทำไมไม่เอาแบบแขนยาว ใส่แบบนี้ไม่ใส่เสียดีกว่า" คนหวงเมียกวักมือเรียกเมียเด็กไปต่อว่าเล็กน้อย คำพูดของธาดาทำให้เนตรที่เดินผ่านมาได้ยินเข้า อดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซว
"เนตรว่าน่ารักดีออกนะคะ น้องปรางใส่อะไรก็สวยเลือกไม่ถูกเลยค่ะ"
"ไม่หวงผัวตัวเองบ้างหรือเนตร" คนถูกพาดพิงรีบค้านขึ้นมาทันที
"เฮ้ย ๆ เกี่ยวไรกับกู"
"ถ้าพี่ตะวันคิดไม่ดีก็โคตรเลวจนไม่น่าคบเป็นเพื่อนแล้วค่ะ"
"เหี้ยหมอ เนตรจ๋าผัวไม่คิดแน่นอนจ๊ะ" หมวดตะวันหันมาด่าเพื่อนที่ทำให้ตนเองถูกเมียด่า ก่อนจะหันไปอ้อนเมีย
ทริปทะเลจบลงตอนรุ่งเช้าของอีกวัน เมื่อคืนต่างคนก็ต่างเพลียต่างเหนื่อยจึงลงความเห็นว่า ไหน ๆ ก็เสียเงินค่าที่พักแล้ว ก็ขอนอนสักคืน พรุ่งนี้เช้าคงเดินทางกลับ หมอธาดาเข้างานบ่ายสองจึงไม่มีปัญหาอะไร เขาสะดวกนอนค้าง เปลี่ยนบรรยายกับเมียบ้างชีวิตรักจะได้ไม่น่าเบื่อ
เมื่อคืนกว่าทุกคนจะเข้านอนกัน เวลาล่วงเลยไปเกือบเที่ยงคืน หมอธาดาที่ไม่คิดจะแตะสิ่งมึนเมาก็เกิดอาการเมาเพราะเพื่อนเซ้าซี้ชวนดื่ม นาน ๆ จะได้มาเที่ยวกัน เนตรพาลูกสาวเข้านอนตั้งแต่สี่ทุ่มและไม่ได้ออกมาจากห้อง คาดว่าน่าจะหลับไปพร้อมกับลูกสาว บริเวณสระว่ายน้ำจึงมีแต่หมอธาดา ปราง และหมวดตะวันที่เริ่มแสดงอาการเมามายไม่ไหวฟุบหลับอยู่ข้างเตาปิ้งย่าง ธาดาจึงต้องทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีแบกร่างเพื่อนพากลับไปนอนในห้อง
เดินกลับลงมามองเห็นปรางกำลังเก็บแก้วกับขวดเหล้าใส่ถาดเพื่อเอาไปล้างในครัว เขามองภาพตรงหน้าอย่างลุ่มหลงในเมื่อเรือนร่างงดงามของปรางยังอยู่ในชุดว่ายน้ำแสนเซ็กซี่เย้ายวนใจเขาเช่นนี้ จึงเดินไปหาช้า ๆ เธอเดินผ่านหน้าเขาเข้าไปในครัว ธาดาเดินตาม หยุดยืนซ้อนหลังเธออยู่เขาสอดมือโอบเอวบางไว้แน่น กดจุมพิตที่ไหล่บางที่ยังมีเส้นสายเดี่ยวของชุดว่ายน้ำคล้องอยู่
"ประเดี๋ยวมีคนมาเห็นหรอกค่ะ" ปรางเตือน เพราะเธอกลัวว่าสองคนนั้นจะตื่นและออกมาเจอเธอกับหมอธาดากำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกันอยู่จะดูไม่ดี
"หลับกันหมดแล้วไม่มีใครตื่นตอนนี้หรอก มีแค่เราสองคน" ธาดากระซิบข้างแก้มนิ่ม มือของเขาเริ่มอยู่ไม่สุขมันเลื่อนขึ้นมากอบกุมที่เต้างามที่มีชุดว่ายน้ำชิ้นบนกั้นอยู่ ธาดาออกแรงบีบเคล้นคลึงตามอารมณ์ปรารถนาตนเอง
"วันนี้หนูสวยไปทั้งตัวเลยนะจนผมอดใจไม่ไหว ยิ่งอยู่ในชุดแบบนี้แล้วด้วย" น้ำเสียงกระเง้ากระงอด ต้องการการง้องอน
ปรางหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับหมอธาดา แต่ด้วยความสูงของเขากับเธอทำให้เธอต้องแหงนหน้าขึ้นมอง ธาดาเห็นอาการแหงนหน้าของคนตัวเล็กแล้วสงสาร จึงช้อนอุ้มขึ้นมาวางบนโต๊ะ เขาทำราวกับว่าเธอเป็นวัตถุที่ไร้น้ำหนักทั้งน้ำหนักเธอที่เคยชั่งที่โรงพยาบาลก็สี่สิบห้ากิโลกรัมแล้ว
"เมียใครทำไมตัวหอมแบบนี้นะ แลบลิ้นหน่อยสิครับ" ธาดาส่งเสียงออดอ้อน ยกแขนเรียวขึ้นกอดคอเขา ดึงเอวบางให้แนบชิดไร้ช่องว่างระหว่างร่างกาย
ปรางยอมทำตามที่เขาร้องขอ ค่อย ๆ และส่งลิ้นออกมาช้า ๆ แล้วหลับตาพริ้มเพื่อรอคอยสิ่งที่เขาจะทำต่อจากนี้ ธาดาโน้มหน้าชิดใกล้กับใบหน้านวลเรียวปากอ้างับลิ้นน้อยดูดเข้ามาในโพรงปากตนเองเบา ๆ ทั้งสองตระกองกอดแนบชิด จูบแลกลิ้นดูดดื่มเนิ่นนาน
"ไปที่ห้องกันไหม" ปรางเอ่ยถามเสียงเบา เธอไม่อยากทำเรื่องบัดสีในที่โล่งแจ้งเช่นนี้
ธาดากดจูบหนักที่ริมฝีปากบาง เขาถอยห่างออกจากเธอเพียงเสี้ยววินาทีเพื่อถอดเสื้อออกเหลือเพียงกางเกงขาสั้น เขายิ้มให้เธอก่อนจะช้อนอุ้มในท่าลิงอุ้มแตง เดินออกจากห้องครัว ผ่านห้องนั่งเล่นที่เขากับตะวันนั่งดื่มกันเลยไปยังประตูที่เชื่อมกับสระว่ายน้ำ ปรางมองหน้าคนยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างไม่เข้าใจว่าพามาที่นี่ทำไม
"เล่นน้ำกันครับ" ธาดาพูดจบก้าวขาลงไปในน้ำทันที ทั้งสองตกลงไปในน้ำที่มีความลึกเกือบสองเมตร เท้าของปรางสามารถแตะถึงพื้นได้แต่ปากกับจมูกเธอก็จมในน้ำ จึงกระโจนกอดคอธาดาไว้แน่นด้วยความกลัวระคนตกใจ
ธาดาไม่หยุดอยู่แค่นี้ เขาพาเธอว่ายไปกลางสระที่ขาของเธอสามารถยืนได้และอยู่ในระดับหน้าอกของเธอ เขาไล้นิ้วมือไปที่ดวงหน้าเนียนที่ตื่นกลัวเมื่อครู่ ใช้นิ้วเกลี่ยริมฝีปากบางนิ่มอย่างหลงใหลเลื่อนลงมาที่ไหล่บางใช้นิ้วเกี่ยวเส้นสายเดี่ยวให้ จับกดสะโพกให้บดเบียดกับส่วนกลางลำตัวของเขาที่กำลังตื่นพะงาบพร้อมสู้ศึก ดุ้นดันผ่านเนื้อผ้าให้สาวเจ้าได้รู้สึกถึงความมีตัวตนของเขา
"อยากรักปรางในน้ำ" เขากระซิบบอกข้างแก้มนิ่ม กดจมูกฝังแก้มอย่างอดใจไม่อยู่ ปรางขัดเขินในคำพูดตรงไปตรงมาของเขา
โฆษณา