21 ต.ค. 2021 เวลา 02:00 • กีฬา
" จากนักเตะสู่เจ้าของทีม "
กระแสการเทคโอเวอร์สโมสร นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ยังไม่จางหายไปเสียทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเหล่าเจ้าของใหม่ได้เข้ามาชมเกมในเซนต์ เจมส์ พาร์ค เป็นนัดแรกอย่างเป็นทางการ
มันเป็นเกมนัดที่ 1,000 ของ สตีฟ บรูซ เราได้เห็นสาลิกาดงพ่ายสเปอร์ส 2-3 และคาดกันว่าอาจไม่มีนัดต่อไปที่นี่สำหรับบรูซ
เรื่องของการเทคโอเวอร์หรือซื้อหุ้นสโมสรยุคนี้ มักเป็นเรื่องของนายทุนคนนอก แต่ก็มีอยู่บ้างที่อดีตนักฟุตบอลเข้ามาซื้อสโมสรเอง กลายเป็นเจ้าของสโมสรเสียเอง
สมัยก่อน เคยมีตัวอย่างให้เห็น หนึ่งในนั้นคือกรณีของแมนเชสเตอร์ ซิตี้
ยุคที่ แมนฯ ซิตี้ รุ่งเรืองทศวรรษที่ 60s-70s ยุคเดียวกับ ไมค์ ซัมเมอร์ บี, โคลิน เบลล์ พวกเขายังมีกองหน้าที่ชื่อว่า ฟรานซิส ลี อีกคน
ฟรานซิส ลี เป็นเจ้าของสถิตินักเตะที่ยิงประตูใน แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ได้เยอะสุดถึง 10 ลูก ก่อนโดน เวย์น รูนี่ย์ ทำลายเมื่อปี 2013 นี่เอง
ลี เล่นให้ แมนฯ ซิตี้ จนถึงปี 1974 จากนั้นย้ายไปเล่นให้ดาร์บี้ อีก 2 ปีก็แขวนสตั๊ด หลังเลิกเล่น เขาหันไปจับธุรกิจ เปิดบริษัททำกระดาษชำระชื่อว่า F.H. Lee Ltd ซึ่งก็ไปได้รุ่งมากๆ
กระทั่งปี 1994 ฟรานซิส ลี ในวัย 50 ปี ก็เข้ามาเทคโอเวอร์แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมที่เขาเคยเล่น เป็นเจ้าของหุ้นใหญ่ ด้วยวงเงินเพียง 3 ล้านปอนด์เท่านั้น (ซึ่งถือว่าไม่ได้แพง แต่ก็ไม่ได้ถูก เมื่อมองจากขนาดของธุรกิจฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก และค่าเงินกลางในยุค 90s)
ภายใต้การเป็นประธานสโมสรของเขา ปรากฏว่า แมนฯ ซิตี้ ดำดิ่งผลงานไม่ดี ในที่สุดเขาก็อำลาตำแหน่งประธานสโมสร ส่งต่อให้ เดวิด เบิร์นสตีน เข้ามาบริหารแทนในปี 1998 แต่ยังถือครองหุ้นจำนวนหนึ่งเอาไว้
กระทั่งการเข้ามาเทคโอเวอร์ของ ทักษิณ ชินวัตร ในปี 2007 นั่นเองที่ ฟรานซิส ลี ยอมปล่อยหุ้นที่เหลือออกไป
อีกรายที่หลายคนไม่รู้ว่าเคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาก่อน ก็คือ เดฟ วีแลน ประธานสโมสี วีแกน แอธเลติก
วีแลน เกิดที่แบรดฟอร์ด แต่มาโตที่วีแกน ทำให้เขาเป็นแฟนวีแกน ตั้งแต่เด็กๆ พอโตมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เล่นให้ แบล็คเบิร์น กับ ครูว์ อเล็กซานดร้า
ตอนเล่นให้ แบล็คเบิร์น เคยพาทีมเข้าชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ด้วย ลงเล่นแพ้ให้ วูล์ฟแฮมป์ตันไป 0-3 อกหักชวดแชมป์
พอเลิกเล่นเขาหันไปเรียนรู้ทำธุรกิจ เริ่มต้นจากเชนร้านขายของชำ ที่ต่อมาขายกิจการต่อให้ "มอร์ริสันส์" หนึ่งในเชสซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ของอังกฤษ
2
จากนั้นเขาหันเข้าสู่ธุรกิจอุปกรณ์กีฬาคือ JJB Sports และต่อมาก็เป็น DW ซึ่งเป็นชื่อสปอนเซอร์และสนามของวีแกนด้วย โดยธุรกิจของปู่เดฟ เป็นคู่แข่งกับ Sport Direct ของไมค์ แอชลี่ย์ "อดีต" เจ้าของสโมสรนิวคาสเซิ่ล นั่นเอง
เดฟ วีแลน เทคโอเวอร์วีแกน ทีมรักตอนปี 1995 ตั้งแต่อยู่ในระดับดิวิชั่น 3 (ลีก วัน ตอนนี้) เขาได้เห็นทีมค่อยๆ ยกระดับขึ้นมา
ดังนั้นตอนที่ โรเบร์โต้ มาร์ตีเนซ นำวีแกนพลิกนรกเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ เมื่อปี 2013 จึงกลายเป็นจุดสูงสุดของ เดฟ วีแลน เพราะสมัยเป็นนักเตะเขาเคยอกหักพลาดหวังในนัดชิง เอฟเอ คัพ มาแล้วนั่นเอง
ทว่าการเทคโอเวอร์ที่ดังที่สุดคงต้องยกให้ กลุ่ม คลาส ออฟ 92 พากันไปซื้อซัลฟอร์ด ซิตี้ โดยร่วมหุ้นกับเสี่ย ปีเตอร์ ลิม ชาวสิงคโปร์
จากเคยเป็นนักเตะ กลุ่มเด็กในสังกัดของ เฟอร์กี้ เติบโตไปซื้อสโมสรเองเลย
หนึ่งใน คลาส ออฟ 92 อย่าง เดวิด เบ็คแฮม ซึ่งดังที่สุด รวยที่สุด ก็ไปสร้างทีม อินเตอร์ ไมอามี่ ถึงสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ใช่เบ็คแฮม คนเดียวที่เคยไปเป็นเจ้าของสโมสรใน USA
1
หลายคนอาจไม่รู้ว่า เอแด็น อาซาร์ กับ เดมบา บา ก็เป็นเจ้าของสโมสรร่วมอยู่ในอเมริกา พวกเขาร่วมกันก่อตั้งสโมสรฟุตบอลที่ชื่อว่า ซานดีเอโก้ 1904 ปัจจุบันเล่นอยู่ใน NISA ลีกระดับดิวิชั่น 3 ของสหรัฐอเมริกา
1
ตอนแรกโปรเจ็คท์นี้มี โยอัน กาบาย และ มุสซ่า โซว์ ร่วมด้วย ก่อนถอนตัวไปภายหลังเหลือเพียงอาซาร์ กับ บา ที่ยังเป็นเจ้าของอยู่ ร่วมกับคนนอกที่เป็นนักธุรกิจอีก 2 ราย
แต่ที่ฮือฮาอีกรายก็คือ โรนัลโด้ R9 เมื่อปี 2018 เข้าไปซื้อหุ้นสโมสร เรอัล บายาโดลิด 51% ด้วยวงเงินประมาณ 30 ล้านยูโร เพราะนี่เป็นกรณีแรกที่อดีตนักเตะดัง มาเป็นเจ้าของสโมสรที่อยู่บนลีกสูงสุด ของลีกใหญ่ระดับท็อป 5 ยุโรป
โรนัลโด้ เคยเป็นหุ้นส่วนสโมสรเล็กๆ ชื่อ ฟอร์ท โลเดอร์เดล สไตรเกอร์ส ในสหรัฐอเมริกามาแล้วเมื่อปี 2014 จนตอนนั้นมีข่าวว่าเขาอาจคัมแบ็กจากการแขวนสตั๊ดเพื่อมาเล่นให้ทีมที่ว่านี้
สำหรับการซื้อหุ้นของ บายาโดลิด จากประธานคนก่อนอย่าง การ์ลอส ซัวเรซ ทำให้ โรนัลโด้ ได้ขึ้นนั่งเป็นประธานสโมสรแทน ส่วน ซัวเรซ ยังอยู่กับสโมสร ทำหน้าที่ฝ่ายบริหารต่อไปเนื่องจากเป็นคนเก่งมีฝีมือ
อดีตดาวยิงทีมชาติบราซิล เปิดเผยว่าก่อนจะตัดสินใจซื้อบายาโดลิด เขาเคยได้รับข้อเสนอให้เทคโอเวอร์ หรือซื้อหุ้นสโมสรในอังกฤษมาแล้วด้วย แต่มันแพงเกินไป เพราะเงินลงทุนเหล่านี้ เป็นเงินส่วนตัวของเขาเองเลย
ล่าสุด DAZN ได้เตรียมฉายภาพยนต์สารคดีเรื่องการเป็นเจ้าของสโมสรของ โรนัลโด้ ในชื่อ "เอล เปรซิเดนเต้" มีช็อตที่เขาพูดถึงเรื่องนี้
"ผมมองหาทีมที่จะซื้อและได้ความช่วยเหลือจากบางคนในเรื่องนี้ มีหลายโอกาสในอังกฤษ และยังมีอยู่ แต่การที่ลีกท้องถิ่นที่นั่นมีการจัดการและมีมูลค่าที่สูงสุดในโลก สโมสรที่นั่นเลยมีราคาสูงกว่าที่อื่นในยุโรป มันน่าสนใจจริงๆ"
1
"ตอนนี้เราเห็นพรีเมียร์ ลีก เป็นผู้นำในธุรกิจฟุตบอล ขณะที่ลีกอื่นๆ พยายามเต็มที่เพื่อไล่ตามในแง่ของการเงิน เพราะการต่อสู้กับฟุตบอลอังกฤษเป็นเรื่องยากมากในทุกวันนี้"
"ตอนนั้น มีข้อเสนอเข้ามา เบรนท์ฟอร์ด คือหนึ่งในทีมที่เสนอมายังผม ผมได้คุยกับพวกเขาและเข้าใจแผนธุรกิจและมันดีมากๆ"
"ยังมีสโมสรในลีกระดับ 3 ที่มีศักยภาพมากนั่นคือชาร์ลตัน ทีมในลอนดอน มีประวัติศาสตร์ยาวนาน นั่นก็ติดต่อผมเช่นกัน แต่ทีมเหล่านี้ต้องการเงินลงทุนมากกว่า 50 ล้านปอนด์ ในที่สุดผมตัดสินใจซื้อ บายาโดลิด ด้วยราคาที่ถูกกว่า และยังรักษาคุณภาพชีวิตของผมที่มีในกรุงมาดริดเอาไว้ได้ ระยะทางที่ไม่ไกลระหว่าง มาดริด กับบายาโดลิด มีส่วนสำคัญมาก เพราะมันทำให้ผมสามารถอยู่ใกล้กับธุรกิจของผมได้ตลอดเวลา ผมคิดว่ามันคือการตัดสินใจที่ดีที่สุดที่ผมจะทำได้แล้วหละ"
"ลีกอังกฤษยังเป็นเป้าหมายของผมในอนาคตอันใกล้ เพราะเมื่อผมเริ่มต้นที่ บายาโดลิด ไอเดียของผมคือการขายธุรกิจและพยายามสร้างเน็ตเวิร์คที่มีสโมสรต่างๆ แน่นอน นับตั้งแต่ผมลงทุนไปกับบายาโดลิดจากกระเป๋าของผมเอง ผมไม่ได้มีสภาพคล่องมากพอให้ลงทุนซื้อทีมอื่นได้พร้อมๆ กัน และ พูดตามตรง การมีโปรเจ็คท์กับทีมอื่นด้วยในเวลานั้นคงทำให้มันยุ่งยากมาก แต่ผมก็มีความสุขกับสิ่งที่เป็นไปในตอนนี้"
ในรายของ โรนัลโด้ ถือว่าน่าสนใจมาก สมัยเป็นนักเตะดัง เที่ยว ปาร์ตี้กระจุย แต่เรื่องเงินเรื่องทองเขาบริหารจัดการได้ดีทีเดียว
เมื่อเลิกเล่นยังมีรายได้จากการเป็นพรีเซนเตอร์ต่างๆ อยู่เรื่อยๆ ลงทุนอย่างถูกที่ถูกทาง ตอนนี้หันมาลงเงินในการเป็นเจ้าของสโมสรอีกต่างหาก
จากปี 2018 ที่เป็นเจ้าของหุ้น 51% ที่บายาโดลิด แต่ในเดือนเมษายน 2020 เขาได้ซื้อหุ้นเพิ่ม ตอนนี้เป็น 82% แล้ว เรียกได้ว่าเกือบเบ็ดเสร็จ
อย่างที่บอกว่า โรนัลโด้ ต้องการจะทำเน็ตเวิร์ตสโมสรต่างๆ ในลักษณะเดียวกับที่ เร้ดบูลล์ หรือกลุ่ม ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป ทำ คือเป็นเจ้าของหลายสโมสรในประเทศต่างๆ เชื่อมโยงกัน
แล้วก็น่าสนใจที่เขายืนยันว่ายังมีเป้าหมายอยากมาเป็นเจ้าของสโมสรในอังกฤษด้วย ไม่แน่ เราอาจได้เห็นเรื่องนี้ในอนาคตอันใกล้ ถ้าธุรกิจของเขาเป็นไปได้ด้วยดี
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา