20 ต.ค. 2021 เวลา 12:02 • สุขภาพ
## ไทยเรียนรู้อะไรได้บ้าง หลังยอดติดเชื้อใหม่รายวันในอังกฤษพุ่งเกือบ 5 หมื่น เมืองผู้ดีเร่งเตรียมมาตรการรองรับก่อนหน้าหนาวมาเยือน ##
5
#สหราชอาณาจักร หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า อังกฤษ เป็น 1 ใน 5 ประเทศที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอ่ยถึงในฐานะประเทศที่มี "ความเสี่ยงต่ำ" ซึ่งนักท่องเที่ยวจากประเทศในกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเมื่อเราเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน
3
แต่ในขณะนี้ ซึ่งไทยยังไม่มีการประกาศรายชื่อประเทศ low risk ออกมาอย่างเป็นทางการ รัฐบาลของอังกฤษเองก็กำลังแสดงความกังวลถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเกือบ 50,000 คน
2
โฆษกนายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ออกมาเตือนด้วยว่า สถานการณ์ในเดือนต่อๆ ไปจะ "ท้าทาย" เป็นอย่างยิ่ง และนอกจากการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชน การรักษาผู้ป่วย การตรวจหาเชื้อและให้คำแนะนำด้านสาธารณสุขแล้ว ทางการอังกฤษจะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
6
ตามรายงานของ The Guardian กลุ่มที่มีการระบาดหนักคือนักเรียนมัธยม ส่วนกลุ่มที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและเสียชีวิตมากคือกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้เปราะบางที่มีภูมิต้านทานต่ำ
╔═══════════╗
ZERO COVID THAILAND เพจสำหรับแชร์ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อช่วยยุติการแพร่กระจายของโควิด-19ในไทย
#กดไลค์และติดตามเพจ เพื่อรับแนวทางป้องกันโควิด-19 อย่างทันท่วงที งานวิจัย และ ข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์แบบเข้มข้น
╚═══════════╝
2
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (18 ต.ค.2564) อังกฤษมีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 49,156 คน ซึ่งนับว่าสูงที่สุดตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา และตัวเลขเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 16% ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดของอังกฤษคือ 68,053 คนเมื่อวันที่ 8 มกราคมในปีนี้
1
ตัวเลขผู้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ที่ 5,561 คนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มจากสัปดาห์ก่อน 6.9% และผู้ที่เสียชีวิตภายใน 28 วันหลังจากตรวจพบว่าเป็นโควิดมีจำนวนถึง 869 คนในรอบสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 11.4% จากสัปดาห์ที่แล้ว
5
หมอชาวอังกฤษถึงกับออกมาบอกว่า "รับไม่ได้" กับการที่มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยถึง 120 คนต่อวัน รัฐบาลอังกฤษต้อง "หามาตรการอื่น" เตรียมรับมือเอาไว้ด้วยเผื่อสถานการณ์แย่ลง
1
ก่อนหน้านี้ ศาสตราจารย์ นีล เฟอร์กูสัน (Prof Neil Ferguson) แห่ง Imperial College London ได้ออกมาเรียกร้องให้เร่งฉีดวัคซีนให้เด็กวัยรุ่นและฉีดกระตุ้นให้กับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว เพื่อลดความเสี่ยงการระบาดระลอกใหม่ในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง
นับถืงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกในอังกฤษ คือ 49,462,425 คน และเข็มที่สอง 45,400,990 คน
1
อันที่จริง การระบาดในเด็กและวัยรุ่นไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย ก่อนหน้านี้ มีงานวิจัย เรื่อง Long COVID - the physical and mental health of children and non-hospitalised young people 3 months after SARS-CoV-2 infection; a national matched cohort study (The CLoCk) Study โดยทีมของ University College London พบว่า เด็กๆ และเยาวชนมากถึง 1 ใน 7 คน หรือ 14% อาจยังคงประสบกับอาการผิดปกติต่างๆ อยู่ในระยะเวลา 15 สัปดาห์ (เกือบ 4 เดือน) หลังจากตรวจพบเชื้อ ซึ่งเรารู้จักกันในชื่อ "ลองโควิด" หรือโควิดเรื้อรัง อันอาจส่งผลต่อทางร่างกาย และจิตใจของเด็กต่อไปในอนาคตได้ค่ะ
3
ส่วนในนอร์เวย์ การศึกษา Health care use up to 6 months after COVID-19 in 700.000 children and adolescents: a pre-post study ที่นำโดย Karin Magnusson นักระบาดวิทยา จากสถาบันวิจัยสาธารณสุขของนอร์เวย์ ได้ศึกษาในเด็กๆ และเยาวชนทุกคน เพื่อดูผลกระทบของโควิดต่อระบบการดูแลสุขภาพของนอร์เวย์ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 ถึง 1 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งในจำนวนนี้ มีเด็กและวัยรุ่นที่ติดโควิดจำนวน 10,306 คน
นักวิจัยพบว่า เด็กที่ติดโควิดต้องเข้ารับการดูแลรักษาเป็นระยะเวลานานถึง 6 เดือน ทั้งนี้ ในจำนวนเด็กๆ ที่ติดโควิด ‘เด็กเล็ก’ จะใช้บริการสุขภาพนานประมาณ 3-6 เดือน ซึ่งมากกว่า ‘เด็กในวัยประถมและมัธยม’ ที่มาใช้บริการสุขภาพโดยเฉลี่ยประมาณเพียง 1-3 เดือน เท่านั้น
งานวิจัยนี้ยืนยันว่า เด็กๆ และเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ไม่ได้ปลอดภัยจากโควิดอย่างที่เคยเชื่อกัน นี่ยังไม่นับงานวิจัยจากอิสราเอลและที่อื่นๆ ที่มีผลบ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกันด้วยนะคะ
2
เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศอังกฤษแล้ว เรานึกย้อนถึงสถานการณ์ในประเทศไทยของเราด้วยไหมคะ หากมองในแง่ของจำนวนประชากร ตัวเลขจำนวนประชากรของอังกฤษปลายปี 2020 ตามที่ธนาคารโลกบอกไว้คือ 67.2 ล้านคน ส่วนของประเทศไทยมี 69.8 ล้านคน นับว่าใกล้เคียงกันเลยใช่ไหมคะ
5
ไม่เพียงเท่านั้น ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ นอกจากจะเป็นกำหนดวันเปิดภาคเรียนให้เด็กของไทยได้กลับมาเรียนในโรงเรียนตามเดิมทั่วประเทศแล้ว ล่าสุด นายกฯ ก็ประกาศออกมาว่า “เราจะมีการเปิดประเทศ” ในวันเดียวกันอีกด้วยค่ะ
1
เราจึงต้องถามตัวเองว่า ไทยเราเตรียมพร้อมแค่ไหนกันนะ
1
ณ วันนี้ (19 ต.ค. 2564) เรามียอดผู้ป่วยใหม่รายวันอยู่ที่ 9,122 คน ยอดผู้เสียชีวิต 71 ​ราย มีผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนาม 105,546 คน อาการหนัก 2,762 ราย และอัตราผู้ฉีดวัคซีนเข็มแรก 38.1 ล้านคน (53%) เข็มที่สอง 26.5 ล้านคน (36.8%) และเข็มกระตุ้น 1.98 ล้านคน (2.7%)
2
ทั้งเรื่องการเปิดโรงเรียนและการเปิดประเทศ รัฐบาลของไทยได้เน้นย้ำถึงการเร่งจัดหาและฉีดวัคซีนให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ในขณะที่ค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการอื่นๆ ลง
1
แต่เราต้องไม่ลืมว่า การหวังพึ่งวัคซีนนั้นเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง อย่างน้อย เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (Center for Disease Control and Prevention) ได้ออกมาบอกว่ามีการติดตามผลจากการฉีดวัคซีนในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ตอนต้นเป็นพิเศษ หลังจากการฉีดวัคซีน mRNA ซึ่งถือว่าเป็นวัคซีนคุณภาพดีนั้น พบผลข้างเคียงในเด็กวัยรุ่นเป็นการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบมากกว่าผู้ใหญ่ถึง 3.5 เท่า
2
ดังนั้น การเริ่มต้นในการปกป้องที่สำคัญที่สุด คือ #การให้ความรู้กับเด็กๆ ค่ะ ว่า ‘โควิดแพร่กระจายทางอากาศได้’ โดยอาจใช้สื่อการเรียนรู้ที่เข้าใจง่าย เช่น การ์ตูนอนิเมชั่น เรื่องจริงที่มาในรูปแบบของนิทานสนุกๆ เป็นกุญแจสำคัญที่จะปลดล็อคให้เด็กๆ เกิดความเข้าใจได้อย่างแท้จริง เมื่อรู้ถึงสาเหตุแล้ว เราจึงจะสามารถใช้หลักของเหตุและผล อธิบายถึงแนวทางการป้องกันที่แสนมีประสิทธิภาพให้เด็กๆ ได้ค่ะ
3
โดยวิธีนั้นก็คือ การเน้นย้ำให้เด็กๆ “ใส่หน้ากาก” ที่สามารถปกป้องพวกเขาจากละอองไวรัสได้ เช่น หน้ากาก ‘N95’ หรือคุณภาพที่ดีกว่า โดยต้องใส่หน้ากากให้มิดชิด กระชับกับใบหน้า และใส่ทุกเวลาหากต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น
2
นอกจากนั้นหากมีการเปิดเรียนจริง หนทางที่ผู้ใหญ่อย่างเราจะช่วยเด็กๆ ได้ เพื่อให้แน่ใจว่า พวกเขาจะ “ปลอดภัย” จากโควิด นั่นก็คือ ควรมีการพิจารณาเพิ่มงบประมาณในการจัดการเรื่องการระบายอากาศในห้องเรียนและอาคารเรียน รวมทั้งการติดตั้งเครื่องวัด ‘CO2’ ในห้องเรียนและอาคารต่างๆ ในสถานศึกษาอีกด้วยค่ะ
1
การจัดการหลายๆ อย่างอาจจะดูยุ่งยาก เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเด็กๆ จะใส่หน้ากากอยู่ตลอดเวลาได้ พวกเขาจะทนกับความรู้สึกอึดอัดได้มากแค่ไหน ความหวาดระแวงจะเกิดขึ้นกับผู้ปกครองอยู่เสมอ เมื่อต้องปล่อยมือส่งลูกของพวกเขาไปโรงเรียน
2
ในฐานะประชาชน สิ่งที่เราทำได้ และควรทำให้ดีที่สุด คือ “ปกป้องตัวเอง และคนที่รักให้พ้นจากโควิดให้ได้” ด้วยการใส่หน้ากาก ‘N95’ หรือคุณภาพดีกว่าอย่างมิดชิด หากไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงหมั่นตรวจค้นหาเชื้อด้วยชุดตรวจ ‘ATK’ อย่างน้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์ และพยายามอยู่ในสถานที่ที่มี ‘การระบายอากาศ’ ที่มีประสิทธิภาพนะคะ
จะดีกว่าไหม? ถ้าประเทศของเราเลือกที่จะกำจัดโควิด-19 ออกไป ไม่ให้สามารถกลับเข้ามาแพร่ระบาดได้อีก ภาครัฐมีนโยบายอย่างชัดเจนแน่วแน่ว่า จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ยอดผู้ติดเชื้อเหลือ “0” ให้เร็วที่สุด และกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งเมื่อทุกอย่าง ทุกคน ทุกชีวิต ปลอดภัยจากภัยคุกคามที่ชื่อว่า “โควิด-19”
1
ไม่ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น Zero Covid Thailand ขอร่วมเป็นกำลังใจ และแรงสนับสนุนให้ทุกคนยกการ์ดให้สูง และผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ค่ะ
แล้วเราจะจับมือฟันฝ่าความยากลำบากนี้ไปด้วยกันจนสุดทางนะคะ
1
ติดตามเราได้ที่
1
อ้างอิง:
UK Covid cases near 50,000 in one day as No 10 warns of ‘challenging’ winter
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อ COVID-19 อัพเดทรายวัน
เปิดประเทศ เปิดโรงเรียน จะปลอดภัยจริงไหม? เมื่อโควิดเบนสาย มุ่งระบาดในกลุ่มเด็กๆ และเยาวชน
Health care use up to 6 months after COVID-19 in 700.000 children and adolescents: a pre-post study
Long covid: One in seven children may still have symptoms 15 weeks after infection, data show
Myocarditis and Pericarditis After mRNA COVID-19 Vaccination
โฆษณา