21 ต.ค. 2021 เวลา 01:33 • กีฬา
เรื่องท้าทายของคุณชาย "เลบรอน"
ฤดูกาลที่ 19 ของ เลบรอน เจมส์ เดินทาง มาถึงแล้ว แน่นอนว่าในปีนี้ยังคงหนักอึ้งกับเส้นทางสู่แชมป์ เป็นสมัยที่ 2 กับ เลเกอร์ส แม้ปีนี้จะระดมผู้เล่นระดับออลสตาร์มากมายมาสู่ทีม
ทั้งพี่เต่า รัสเซลล์ เวสต์บรูก
ดไวท์ โฮเวิร์ด
ราจอน รอนโด
คาร์เมโล แอนโทนีย์
แม้อายุรวมๆจะมากโขเฉลี่ย 30.9 ปีแต่ชื่อโตประสบการณ์ดีเรื่องแชมป์มีลุ้นสูง แต่มองในแง่ดี ไมอามี่ ฤดูกาล2012-13 ได้แชมป์อายุเฉลี่ยคนละ 31.2
ทว่าลุ้นกันหนักเพราะคู่แข่งก็เติมหนักพอกันเช่นกันกับคำที่ เลบรอน หนีอย่างไรก็ไม่รอด ไม่อยากถูกจับโยง ก็ลี่ยงไม่ได้กับคำว่า GOAT ที่สุดตลอดกาล ไม้เบื่อไม้เมาที่เขาถูกนำไปเปรียบเทียบกับ ไมเคิล จอร์แดน อยู่เสมอโดยฝ่ายเชียร์ เลบรอน ก็มักจะยกเอาสถิติตัวเลขมากมายที่เหนือกว่า ประเภทมากกว่ามาใช้เป็นอาวุธหลักดีเบต
ขณะที่แฟน จอร์แดน ใช้แง่ Productive ทรงประสิทธิภาพกว่า ดีเลยวันนี้ติดอาวุธให้ทีม เลบรอน สถิติที่เชื่อขนมกินได้ว่า พี่เจมส์ จะไต่สถิติขึ้นสูงไปอีกในฤดูกาลนี้ โดยตัวเลขทั้งหมดนับก่อนเริ่มฤดูกาลครับ
จำนวน Games Played
ฤดูกาลนี้ฤดูกาลกลับมาเล่นกันเต็มเม็ดเต็มหน่วย 82 เกม แต่จะหวังให้ เจมส์ เล่นครบคงยากไปหน่อย ด้วยอายุที่มากขึ้นแถมเล่นครบทุกนัดมันไม่เกิดมานานตั้งแต่ปี 2017 งั้นตีเซฟๆเล่นบ้างพักบ้าง 70 เกมคงพอได้อยู่นาในกรณีที่ไม่มีตัวเจ็บหรือทีมไม่หลุดวงโคจรไปก่อน
เลบรอน ที่ลงสนามตลอดอาชีพไปแล้ว 1,310 รั้งอันดับที่ 19 ตลอดกาลหากตัวเลข 70 เกมที่คาดหากทำได้จริง เขาจะแซงหน้าผ่าน Jamal Crawford (1,327), Moses Malone (1,329), Gary Payton (1,335), Paul Pierce (1,343), Kobe Bryant (1,346), ไปจบเท่ากับ Clifford Robinson (1,380).
หากบริหารเวลาดีๆลงแต่ละเกมน้อยหน่อย 28 นาทีไรงี้ จนสามารถเล่นได้ 80 เกม เจมส์จะแซง Reggie Miller (1,389) ขึ้นอันดับที่ 12th all time.
แล้วถ้าเล่นครบ 82 เกมนะเหรอพวกเขาจะขึ้นมาทาบ Tim Duncan (1392) ในลำดับที่ 10th ตลอดกาล Mr. Top10
นาทีลงสนาม Minutes Played
เรื่องนี้ขึ้นชื่อมากด้วยความที่อยู่นานและแกร่งทนเหลือเกินทำให้ตอนนี้เขาลงสนามมากที่สุดในระดับท็อปตลอดกาลของลีก หากลงเต็มทั้งฤดูกาล โอกาสขึ้นมายืนท็อป 3 มีสูง
ณ ปัจจุบัน เลบรอน ลงสนามไปแล้ว 50,005 นาที อยู่ในลำดับที่ 6 ด้วยความที่อยู่มานานเขาตามหลัง Jason Kidd (50,111) Kevin Garnett (50,418) เพียงหลักร้อยนาที 2 คนนี้เจมส์ น่าจะผ่านได้ไม่ยาก มองโลกในแง่ดี ถ้าไม่มีอาการบาดเจ็บลงสนามเต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือน 2 ปีก่อนที่เล่นไป 67 เกม เฉลี่ย 34.6 นาที/เกม
ปีนี้เล่นได้อีกสัก 70 เกม นาทีสะสมจะบอกไปราว 2400 นาที โอกาสที่จะไล่แซงตำนานอย่าง Dirk Nowitzki for ในอันดับ 3 (51,368) เกิดขึ้นได้ ถ้าแกร่งจริงมองไปที่การแซง Karl Malone (54,852) ปีหน้าได้เลยแต่จะขึ้นที่ 1 คงยากจริงๆเพราะรุ่นใหญ่ Kareem Abdul-Jabbar ทำไว้ 57,446 นาที ไล่ยากเกินไป
แม้ในปัจจุบัน เลบรอน จะโดน Bully เบาๆในหลากหลายประเด็น ทั้งความแม่นที่ยังฝากผีฝากไข้ไม่ได้ทั้งสามแต้ม ลูกโทษ ทั้งที่เปิดดูตามสถิติ เขาเกาะอยู่ในท็อป 20 ในหน้าประวัติศาสตร์สบายๆแต่สิ่งที่ไม่มีใครส่ายหน้าได้นั่นคือความเป็นยอด All Around หรือผู้เล่นที่ทำอะไรได้ทุกอย่างในเกมทั้งรับ รุก รีบาวด์ หรือสร้างโอกาสให้เพื่อนจนนำมาซึ่งความสำเร็จ ซึ่งสถิติจากนี้ไปจะยืนยันความยอดเยี่ยมของ เจมส์ครับ
Mr.10,000 rebounds
ภาพจำของ เลบรอน กับเกมรีบาวด์ แม้จะไม่ชัดเจนเหมือน เซนเตอร์อาชีพ แต่มันไม่น้อยแน่ๆในตำแหน่งเดียวกันเขาไม่เป็นรองใคร จบจากฤดูกาลที่ผ่านมา ยอดสะสมในบัญชีเดินรีบาวด์สะพัดเบ็ดเสร็จ 9751 ครั้ง เท่ากับว่าหนทางสู่ตำแหน่งผู้เล่นคนที่ 41 ในฐานะ Mr. 10,000 รีบาวด์ของ NBA อ้ารอให้เอาหน้าซุก
ปีนี้ขออีกเพียง 249 rebounds เท่านั้นจะไปถึงหลักชัยที่ว่า
ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะหาลงเต็มฤดูกาลปกติก็มีราว 5008 ครั้ง
ปีก่อนฤดูกาลสั้นลงไม่มากยังมีตั้ง 346 สำเร็จแน่ ส่วนจะแซงพวก DeAndre Jordan 9,878 ไหมก็เป็นไปได้เพราะ เจมส์ น่าจะลงสนามต่อเนื่องกว่าเพื่อนร่วมทีมรายใหม่
เช่นกันกับรุ่นพี่ที่เลิกไปแล้วอย่าง Red Kerr (10,092) Shaw Marion (10,101) ถ้าทุกอย่างลงตัวเขาน่าจะรั้งลำดับที่ 38 ในฤดูกาลนี้
Top 6 Best Passer ?
วัดกันนิ้วต่อนิ้ว ปอนด์ต่อปอนด์ว่าใครคือผู้เล่นร่างยักษ์ที่สร้างแอสซิสต์ใน NBA ได้ดีที่สุดแน่นอนว่า เลบรอน กับ แมจิก จอห์นสัน ถูกนำมาเปรียบเทียบอย่างออกรสสูสี 10-9 แย่งกันรอง เจมส์ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าในวัย 35 เขาคือตัวจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยมแถวหน้าในลีก เขาทำแคเรียไฮถึง 684 ครั้ง
ณ ตอนนี้เขามีแอสซิสต์ในมือแล้ว 9,696 ครั้งรั้งที่ 8 ตลอดกาล เป้าหมายที่พอเป็นไปได้ในปีนี้อยู่ที่ อันดับ 7 Oscar Robertson (9,887)ส่วน Magic Johnson (10,141) ในอันดับ 6 คงต้องลุ้นหนักเพราะปีนี้อย่าลืมว่า เจมส์ มีคนแชร์สัมปทานอย่าง รัสเซลล์ เวสต์บรูก ที่เกมๆนึงเฉลี่ยร่วม 10 ครั้งแล้วจำนวน
ส่วน ท็อป 5 คงไม่ต้องไปลุ้นมากนัก เพราะหนีกันไปไกลแล้ว
Assists Leaders All Time
1 John Stockton 15,806
2 Jason Kidd 12,091
3 Steve Nash 10,335
4 Mark Jackson 10,334
5 CHRIS PAUL 10,275
Steals Steals Steals
การขโมยบอล เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่ชัดของเกมรับที่ดี เพราะผู้เล่นที่ทำได้ย่อมต้องมีทั้งอ่านเกมคาดการณ์คู่แข่งได้แม่นยำ ร่างกายต้องพร้อมตอบสนองการตัดสินใจที่ดีถึงจะทำได้ทันทีทันใด แน่นอนว่า เจมส์ มีครบ ตลอด 14 ฤดูกาลแรกในอาชีพเขาทำได้เกิน 100 ครั้งจนมา 2 ปีหลังนี่แหละลดลงเหลือ 78 72 และ 48 ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำที่สุดในชีวิต
ปัจจุบันเขารั้งที่ 13 all-time list 2,063 career steals หากยกระดับกลับไป 70 ครั้งต่อฤดูกาลจบปีนี้เขาจะเข้าทำเนียบ ท็อป 10
แซงผ่าน Mookie Blaylock (2,075)
Karl Malone (2,085)
Alvin Robertson (2,112)
ถ้าจับพลัดจับพลูกลับไปทะลุ 100 สตีล เป็นครั้งแรกตั้งแต่ 2017-2018.โอกาสไล่ตาม Hakeem Olajuwon (2,162) อันดับที่ 9 เปิดกว้างแน่นอน
Total Points เครื่องจักรทำคะแนน
อีกหนึ่งเครื่องหมายการค้าของ เลบรอน ที่ทั่วหล้าต่างยอมรับนั่นคือความสามารถในการทำแต้ม แม้ในปีที่ผ่านมาจะเป็น แคเรียโลว์ เป็นแต้มที่ต่ำที่สุดในหนึ่งฤดูกาลของอาชีพ เลบรอน 45 เกมทำไป 1126 คะแนน ทำให้ช่องว่างที่จะลดระยะห่างจากอันดับ 2 อย่าง คาร์ล มาโลน 36,928 points ยังไม่ใกล้นัก
เขาต้องการอีก 1,562 points ถึงจะเพียงพอในการไล่ล่าตำแหน่งการทำแต้มมากที่สุดอันดับ 2 ตลอดกาล
ถามว่าเป็นไปได้ไหมลองคำนวณกันครับ
ถ้าลงได้ครบ 82 เกม ต้องมีค่าเฉลี่ย 19.1 แต้ม
หากเล่นได้ 72 เกม ต้องเปลี่ยนแต่ละเกมเป็น 21.6 ต่อเกม
หากเล่นได้น้อยลงเหลือ 60 เกม แต้ม 26 ต่อเกม
เป็นไงกับสามตัวเลขนี้คุณว่ามันเป็นไปได้ไหมคงไม่ยากเกินทนแต่ เจมส์ ต้องท็อปฟอร์มสุดๆเหมือนกัน อย่างปี 2019-20 เขาลงสนาม 65 เกม เฉลี่ย 25.3 แต้ม คะแนนรวมออกมาแบบนั้นผ่านแน่นอน 1698
แล้วถ้าต้องการขึ้นที่ 1 ตลอดกาลแซง Kareem Abdul-Jabbar เขาต้องการ3021 แต้ม เลยทีเดียว 2 ปีครึ่งไหวไหม
Total Wins / 1,000-win club
เมื่อผลงานส่วนตัวดีย่อมส่งให้ทีมเก็บชัยชนะได้ง่ายขึ้น เมื่อ เลบรอน เล่นดีมาตลอดอาชีพ 17 18 เรื่องจำนวนเกมชนะเต็มกระเป๋า 869 เกม นี่ขนาดปีที่ผ่านมาเก็บได้น้อยไปหน่อยแค่ 55 เกมเท่านั้น ยังรั้งอันดับ 8 ตลอดกาลได้
ดังนั้นเอาปีก่อนเป็นตัวตั้งที่ 55 เกม เจมส์ จะมียอดสะสมเกมชนะ 922 เกม ตัวเลขนี้ LBJ จะแซงตำนานรุ่นพี่ทั้ง Tony Parker (892) Dirk Nowitzki (916) สบายๆ จากนั้นค่อยมองเป้าหมายต่อไปที่ Karl Malone 952 เกม
ส่วนเป้าหมายสูงสุดในเรื่อง Game Win นั่นคือ 1,000-win club ซึ่งในประวัติศาสตร์ลีกมีเพียง Kareem Abdul-Jabbar (1,074), Robert Parish (1,014), and Tim Duncan (1,001) เท่านั้นบนหอคอยงาช้างแห่งนี้
Championships / แหวนแชมป์สู่คำว่า GOAT
เดินทางมาความท้าทายสุดท้ายในฤดูกาลนี้ของ เจมส์ เป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากแหวนแชมป์ ณ ตอนนี้เจ้าตัวมีครอบครองมาแล้ว 4 ดังนั้นหากประสบความสำเร็จอีกสมัย โอกาสไล่ล่าเหล่าตำนานรุ่นพี่ที่ขึ้นชั้นไปแล้วทั้ง ทิม ดันแคน แหวน 5 วง ตำนานรุ่นปู่ Bill Russell แหวนแชมป์ 11 วง
โดยเฉพาะคู่ดีเบตโดยตรงในฐานะผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาล Michael Jordan แชมป์ 6 สมัยในสีเสื้อ Bulls
แม้ เจมส์ จะเข้าชิงมากสมัยกว่า หลายทีมกว่าแต่เมื่อมาเปรียบเทียบกับประสิทธิผลแสน Productive ชิง 6 ครั้งได้แชมป์ 6 สมัย
แต่ด้วยตัวเลขความสม่ำเสมอชั้นเยี่ยมมากมายที่ เจมส์ สร้างไว้ทำให้แฟนบาสและสื่อสาย NBA จำนวนไม่น้อยเชื่อว่าได้อีกสักวงก็น่าจะยกระดับให้เขาอยู่ในคลาสเดียวกับ จอร์แดน ได้แล้วศักดิ์และสิทธิ เท่ากันว่าง่ายๆ GOAT discussion จะเดือดเป็นเท่าทวี
ทั้งนี้ แชมป์ 5สมัย จะส่ให้ เจมส์ อยู่ในระดับเดียวกับ George Mikan, Magic Johnson, Kobe Bryant, Don Nelson, Dennis Rodman, และ Tim Duncan.
ขึ้นชื่อว่า คิงเจมส์ ยังไงก็เป็นที่จับจ้องจองกฐินแน่ๆไม่ว่าผลงานของเขาจะออกมาสวยหรูหรือบู่สุดกู่ย่อมถูกนำมาพูดถึงวิพากษ์ไปต่างๆนาๆ
โดยเฉพาะในปีนี้ 2021-22 มีความท้าทายมากมายที่รอให้เขาเก็บเกี่ยวเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดความสำเร็จของตัวเองอีกมาก เป็นด่านบอสเพื่อไล่ตามรุ่นพี่ เป็นกำแพงสูงลิบให้เด็กรุ่นหลังได้เดินตามต่อไป
โฆษณา