Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Histofun Deluxe
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
21 ต.ค. 2021 เวลา 09:23 • ประวัติศาสตร์
• เศษกระเบื้องไล่เผด็จการ
รู้จักกับ 'Ostracism' วิธีขับไล่เผด็จการแบบฉบับชาวเอเธนส์
ทุกคนน่าจะทราบกันเป็นอย่างดีว่า ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยนั้น ได้ถือกำเนิดขึ้นในนครรัฐเอเธนส์ แห่งอารยธรรมกรีกโบราณ เมื่อราว 500 ปีก่อนคริสตกาล
แน่นอนว่า ก่อนที่ชาวเอเธนส์จะมีระบอบการแบบประชาธิปไตย พวกเขาจะต้องเคยผ่านยุคสมัยของการปกครองแบบเผด็จการและเป็นทรราชย์มาก่อน
ดังนั้นเมื่อชาวเอเธนส์ได้ใช้ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยแล้ว พวกเขาจึงต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้การปกครองแบบเผด็จการกลับคืนสู่เอเธนส์ได้อีกครั้ง
ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ชาวเอเธนส์ใช้ในการรักษาความเป็นประชาธิปไตย และต่อต้านการเป็นเผด็จการนั้น ก็คือกระบวนที่เรียกว่า "Ostracism" (ในภาษาอังกฤษ คำ ๆ นี้ มีความหมายว่า การเนรเทศ, การคว่ำบาตร, การขับไล่)
โดยในทุก ๆ ปี ชาวเอเธนส์ (ซึ่งจะมีเฉพาะพลเมืองที่เป็นผู้ชายเท่านั้น ผู้หญิงและเด็ก ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วม) จะมารวมตัวกันเพื่อประชุมหารือกันว่า ในปีนั้นพวกเขาจะทำการโหวตให้ใครถูกเนรเทศให้ออกไปจากเอเธนส์
ซึ่งบุคคลที่ชาวเอเธนส์มีความเห็นว่า สมควรที่จะถูกเนรเทศนั้น จะต้องเป็นบุคคลที่ชาวเอเธนส์มองว่า พยายามทำตัวเป็นภัยคุกคามต่อระบอบประชาธิปไตย เปรียบเสมือนเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครสามารถตั้งตนเป็นเผด็จการได้
โดยวิธีที่ชาวเอเธนส์ใช้โหวตว่า ใครสมควรที่จะถูกเนรเทศนั้น ก็คือพวกเขาจะทำการเขียนชื่อของบุคคลคนนั้น ไว้ที่เศษของเครื่องปั้นดินเผาที่เรียกว่า "ostrakon" (ซึ่งก็คือที่มาของคำว่า Ostracism) จากนั้นก็จะนำเศษกระเบื้องที่มีชื่อนั้น ใส่ลงไปในภาชนะที่เป็นไหหรือถ้วย
เศษกระเบื้องที่มีการเขียนชื่อของคนที่ต้องการให้ถูกเนรเทศ
เมื่อการโหวตคะแนนเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ก็จะทำการนับคะแนนเสียงจากเศษกระเบื้องที่ถูกเขียนทั้งหมด เพื่อนับว่าชื่อของใครถูกเขียนในเศษกระเบื้องนี้มากที่สุด
โดยผู้ที่มีชื่อในเศษกระเบื้อง ostrakon มากที่สุด เขาคนนั้นจะต้องถูกเนรเทศออกไปจากเอเธนส์เป็นเวลานานถึง 10 ปี
ที่น่าสนใจก็คือ บุคคลที่ถูกเนรเทศนั้น จะไม่ได้สูญเสียสถานะของการเป็นพลเมืองเอเธนส์ ครอบครัวของบุคคลนั้น ก็ยังคงสามารถอาศัยอยู่ในเอเธนส์ได้ต่อไป และทรัพย์สินส่วนตัวก็จะไม่ถูกยึด
และเมื่อครบกำหนดเวลา 10 ปีเมื่อไหร่ บุคคลที่ถูกเนรเทศก็สามารถกลับมายังเอเธนส์ได้อีกครั้ง โดยที่เขายังคงสามารถเข้ามาบริหาร และรับตำแหน่งปกครองของเอเธนส์ได้ตามปกติ
ในประวัติศาสตร์ของเอเธนส์ ได้มีบุคคลสำคัญอยู่หลายคน ที่เคยถูก Ostracism ไม่ว่าจะเป็น วีรบุรุษในสงครามเปอร์เซีย อย่าง เธมิสโตคลีส (Themistocles) รวมไปถึง รัฐบุรุษอย่าง เพริคลีส (Pericles) เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้ Ostracism จึงเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของระบอบประชาธิปไตยแบบเอเธนส์ ที่ถูกใช้เพื่อป้องกันไม่ให้อำนาจอธิปไตยที่ควรจะเป็นของประชาชนนั้น ตกไปอยู่ในกำมือของบุคคลเพียงคนเดียวเท่านั้น
ซึ่งนี้ก็ได้กลายเป็นต้นแบบสำคัญของระบอบประชาธิปไตยแบบปัจจุบัน ที่อำนาจอธิปไตยควรจะอยู่กับประชาชน มิใช่อยู่กับใครคนใดคนหนึ่ง ที่อาจจะกลายเป็นเผด็จการ ที่จะคอยทิ่มแทงประชาชนเมื่อไหร่ก็ได้
** เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
เศษกระเบื้องและก้อนกรวด เป็นสิ่งที่ชาวกรีกโบราณนิยมใช้ในการทำความสะอาดก้น หลังจากที่เข้าห้องน้ำ
*** Reference
•
https://www.ancient.eu/Ostracism/
•
https://www.nationalgeographic.org/media/ostracism-ancient-greece/
•
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Ostracism
•
https://www.britannica.com/topic/ostracism
#HistofunDeluxe
8 บันทึก
9
1
8
9
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย