Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Trendmizi
•
ติดตาม
21 ต.ค. 2021 เวลา 10:43 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
สรุปเทรนด์จากรายงาน Huawei Intelligence World 2030
ในอนาคตข้างหน้า เราย่อมคาดหวังว่าจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งในด้านอาหารการกิน พื้นที่อยู่อาศัย การเดินทาง พลังงาน ฯลฯ หรือมีเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
วันนี้ เทรนมีซี่ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับโลกอัจฉริยะในอนาคต จาก Huawei ซึ่งเผยแพร่ข้อมูล ผลการวิจัยและข้อมูลเกี่ยวกับโลกในทศวรรษหน้า จากการประชุม Huawei Intelligence World 2030 Forum โดยได้แบ่งเทรนด์ออกเป็น 8 ด้าน ดังนี้
รายงานเทรนด์ตามอุตสาหกรรม
📍 1) ด้านการแพทย์: ประมวลผลสุขภาพได้ คุณภาพชีวิตดีขึ้น ภายในปี 2030 จะมีการใช้ไบโอเซ็นเซอร์อย่างแพร่หลาย และข้อมูลสุขภาพจำนวนมากจะถูกเก็บไว้ในคลาวด์ ผู้คนจะเริ่มจัดการกับสุขภาพตัวเองได้มากขึ้น เปลี่ยนโฟกัสจากการรักษาเป็นการป้องกันโรค และการรักษาแบบเฉพาะบุคคล (Personalised Treatments) จะกลายเป็นจริงมากขึ้นด้วยเทคโนโลยีอย่าง IoT และ AI นอกจากนี้ เครื่องมือแพทย์แบบพกพาจะช่วยให้คนเข้าถึง Telemedicine (การแพทย์ทางไกล) จากที่บ้านได้ง่ายขึ้น Huawei ได้ทำนายว่าความสามารถในการประมวลผลทั่วๆ ไป จะมากถึง 3.3 ZFLOPS มากกว่าปี 2020 ถึง 10 เท่า และความสามารถในการประมวลผล AI จะเท่ากับ 105 ZFLOPS (มากกว่าเดิม 500 เท่าจากปี 2020)
📍 2) ด้านอาหาร: การผลิตอาหารด้วยข้อมูล เพื่อการบริโภคที่อุดมสมบูรณ์และเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม
ภายในปี 2030 จะมีกราฟข้อมูลที่ช่วยทำการเกษตรแม่นยำ (Precision Farming) ได้มากยิ่งขึ้น และสามารถควบคุมปัจจัยที่กระทบต่อการเติบโตของพืชได้ เช่นอุณหภูมิ หรือความชื้น ทำให้เกิดการเกษตรแนวตั้ง (Vertical Farming) ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากความแปรปรวนทางสภาพอากาศ นอกจากนี้ การพิมพ์แบบ 3 มิติจะช่วยให้เกิดการผลิตเนื้อสัตว์เทียมที่รสชาติดีและตรงตามความต้องการ ยิ่งไปกว่านั้น เรายังพึ่งพาข้อมูลขององค์กรเพื่อสร้างระบบอาหารที่ยืดหยุ่นและยั่งยืนมากขึ้น โดย Huawei ทำนายว่าจะมีคอนเน็คชั่นด้านอาหารมากกว่า 2 แสนล้านคอนเน็คชั่น และข้อมูลขนาดกว่า 1YB จะถูกสร้างขึ้นทุกปีทั่วโลก (มากกว่าปี 2020 ถึง 23 เท่า)
📍 3) ด้านการอยู่อาศัย: ออกแบบพื้นที่เฉพาะบุคคลด้วยประสบการณ์อินเตอร์แอคทีฟใหม่ๆ
ภายในปี 2030 เราจะใช้ชีวิตอยู่อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น เราสามารถจัดการสิ่งต่างๆ ผ่านแคตตาล็อกดิจิตอลขนาด 10 กิกะบิต โฮโลแกรม และเทคโนโลยีต่างๆ ได้ ระบบจัดส่งอัตโนมัติสามารถส่งข้าวของเครื่องใช้จากคลังสินค้าสาธารณะถึงหน้าประตูบ้านได้ทุกเมื่อตามต้องการ หรือระบบจัดการอัจฉริยะที่อาจลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในบ้านหรืออาคารที่เราอยู่จนเหลือ 0 ได้ นอกจากนี้ เทคโนโลยี IoT รุ่นใหม่จะช่วยให้เราอยู่อาศัยและทำงานในสภาพแวดล้อมแบบปรับตัวที่เข้าใจความต้องการอย่างแท้จริงได้้ ซึ่ง Huawei ทำนายว่าจะมีผู้ใช้ไฟเบอร์บรอดแบรนด์ (Fiber Broadband) กว่า 1.6 พันล้านราย และบ้านเรือนกว่า 23% จะเข้าถึงอินเตอร์เน็ตไฟเบอร์บรอดแบรนด์ 10 กิกะบิตได้ภายในปี 2030
📍 4) ด้านการคมนาคม: การเดินทางอัจฉริยะเพื่อเปิดทางไปสู่พื้นที่ที่สาม
เราจะเห็นนวัตกรรมด้านคมนาคมในหลายๆด้าน อาทิ รถที่ใช้พลังงานสีเขียวและขับเคลื่อนอัตโนมัติจะกลายเป็นพื้นที่ท่ีสาม (Third Space : พื้นที่ที่นอกเหนือจากบ้านและที่ทำงาน) ได้ หรือยาน eVTOL (ยานพาหนะไฟฟ้าที่บินขึ้นและลงจอดได้ในแนวดิ่ง) จะเข้ามาช่วยผู้ประสบภัยได้เร็วขึ้น ช่วยให้ค่าขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ถูกลง หรืออาจเปลี่ยนวิถีการเดินทางของมนุษย์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยอัลกอริทึ่มขับเคลื่อนอัตโนมัติที่เสถียรและปลอดภัย
เซ็นเซอร์ที่คุ้มค่าและเชื่อถือได้ ระบบบูรณาการจากอวกาศสู่ภาคพื้นดินที่รวดเร็วและเสถียร และระบบสมองส่วนกลางพร้อมการประมวลผลขนาดมหึมาในการจัดการด้านจราจร โดยจะต้องใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อพัฒนายานยนต์ที่ส่งมอบประสบการณ์การลดคาร์บอนเป็นศูนย์ Huawei ได้ทำนายว่า รถยนต์ใหม่ที่ออกขายกว่า 50% นั้นจะเป็นรถพลังงานไฟฟ้าภายในปี 2030
📍 5) ด้านเมือง: โครงสร้างพื้นฐานดิจิตอลใหม่ๆ เพื่อให้เมืองน่าอยู่ยิ่งขึ้น
การแพร่หลายของโครงสร้างพื้นฐานดิจิตอลใหม่ๆ ทำให้เกิดการจัดการสิ่งแวดล้อมเมืองที่ดีขึ้น รวมถึงการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและธรรมาภิบาลที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ การนำแพล็ตฟอร์มดิจิตอลแบบรวมศูนย์ (Centralized Digital Platforms) มาใช้กับงานบริการภาครัฐเพื่อให้งานบริการเข้าถึงง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้นั้น ส่งผลให้ตัวเมืองมีความสะดวกสบายและน่าอยู่ยิ่งขึ้น โดย Huawei ได้ทำนายว่า 40% ขององค์กรจะเข้าถึงไวไฟขนาด 10 กิกะบิตได้ภายในปี 2030
📍 6) ด้านองค์กรต่างๆ: ผลผลิตใหม่ โมเดลการผลิตใหม่ และความยืดหยุ่นใหม่
ภายในปี 2030 การนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้ในภาคธุรกิจ (Digital Transformation) ทำให้องค์กรทันสมัยยิ่งขึ้น เช่น การใช้เครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพอย่างหุ่นยนต์โคบอทส์หรือหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ โดยโมเดลธุรกิจยุคใหม่นั้นจะเน้นที่มนุษย์เป็นศูนย์กลาง (People-centric) และมีความยืดหยุ่นมากขึ้นทั้งด้านการผลิต โลจิสติกส์ และอื่นๆ นอกจากนี้ การทำให้เป็นดิจิตอล (Digitalisation) จะช่วยให้องค์กรสามารถผสมผสานและจับตาดูห่วงโซ่อุปทานเพื่อรับมือกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนไปอย่างยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่ง Huawei ได้ทำนายว่าค่าใช้จ่ายด้านแอพพลิเคชั่นขององค์กรกว่า 87% จะลงไปที่ระบบคลาวด์ และการประมวลผลโดยใช้ AI จะคิดเป็น 7% ของการลงทุนด้าน IT ทั้งหมดขององค์กร นอกจากนี้องค์กรต่างๆ ถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างเครือข่าย 5G เป็น ของตัวเองภายในปี 2030
📍 7) ด้านพลังงาน: พลังงานอัจฉริยะเพื่อโลกที่ดีกว่า
พลังงานจะเป็นสีเขียวและอัจฉริยะยิ่งขึ้นในปี 2030 โรงไฟฟ้าจะผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานทดแทนในทะเลสาบและพื้นท่ีทะเลใกล้ชายฝั่ง การใช้อินเตอร์เน็ตพลังงาน (Energy Internet) จะเกิดขึ้นโดยนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาเชื่อมต่อกับการผลิตและจัดเก็บกริดไฟฟ้า รวมไปถึงโรงไฟฟ้าเสมือนจริงและคลาวด์พลังงาน นอกจากนี้ อาจเกิดศูนย์ข้อมูลและเสาโทรคมนาคมแบบไร้คาร์บอน (Zero-carbon) ในอนาคตอันใกล้ได้อีกดด้วย ซึ่ง Huawei ได้ทำนายว่าไฟฟ้าที่ผลิตกว่า 50% นั้นมาจากแหล่งพลังงานทดแทนได้ภายในปี 2030
📍8) ความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย (Digital Trust): เทคโนโลยีและระเบียบข้อบังคับเพื่อสร้างความปลอดภัยทางดิจิตอล
ในปี 2030 Digital Trust จะเป็นความต้องการพื้นฐานของสังคม เราย่อมต้องการการวัดผลที่ผสมกันทั้งเชิงเทคนิคและเชิงองค์กร เช่นบล็อคเชน การตรวจจับทุจริตผ่านAI และการประมวลผลข้อมูลอย่างปลอดภัย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยการออกระเบียบข้อบังคับด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เช่น GDPR การใช้มาตรการเหล่านี้จะทำให้โลกของเราอัจฉริยะยิ่งขึ้นด้วย Digital Trust โดย Huawei ทำนายว่าการใช้เทคโนโลยีเพื่อประมวลผลข้อมูลอย่างปลอดภัย (Privacy-enhancing computation) จะคิดเป็นมากกว่า 50% ของการประมวลผทั้งหมด และองค์กรกว่า 85% ทั่วโลกจะใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนภายในปี 2030
ทั้งหมดนี้เป็นเทรนด์เกี่ยวกับโลกอัจฉริยะในทศวรรษหน้า ซึ่งช่วยให้เห็นภาพคร่าวๆ ของอนาคตว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละอุตสาหกรรมอย่างไรบ้าง วิถีชีวิตใหม่ๆ ที่อาจเปลี่ยนโฉมจากวันนี้ไปจนจำไม่ได้ ทุกคนอ่านแล้วคิดอย่างไรกันบ้างครับ?
Trendmizi คลังเทรนด์ออนไลน์เพื่อการพัฒนาแบรนด์และธุรกิจ โดยศูนย์วิจัยเทรนด์และคอนเซ็ปต์แห่งอนาคต Baramizi Lab
#Trendmizi
#คลังเทรนด์ออนไลน์
#trend
ที่มา :
https://www-file.huawei.com/-/media/CORP2020/pdf/giv/Intelligent_World_2030_en.pdf
https://www.huawei.com/en/giv
รูป: Huawei
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย