31 ต.ค. 2021 เวลา 10:12 • สุขภาพ
-- อีก 2 เดือนหมดปี และพรุ่งนี้เปิดเรียนแล้วววว --
https://www.brighttv.co.th/news/global/halloween-festival-2019
มองเหตุการณ์รอบ ๆ ตัว
ต้นไม้โตขึ้น ถนนอยู่ในสภาพดี ป่าข้างทางรก ๆ
หลาน ๆ โตขึ้นแบบเรียนอยู่บ้าน
หลานระดับอนุบาล นอนดูไอแพด เรียนหนังสือ พร้อมนอนกินข้าวไปด้วย
หลานระดับประถม เริ่มเข้าใจวิธีเรียนออนไลน์
ไม่ต้องมีแม่มานั่งเฝ้า ตั้งใจเรียน และตั้งใจเล่นเกม
จนคิดว่าหลานน่าจะเป็นเด็กติดเกมในไม่ช้า
หลานระดับมัธยม เริ่มมีโลกส่วนตัวสูงขึ้น พูดน้อยลง
การเรียนดีไม่น่าเป็นห่วง แต่ไม่ค่อยมาสุงสิงเล่นกับพี่น้อง
ชอบอยู่ในห้องคนเดียว แชทกับเพื่อน ดูคลิป ดู tiktok
หลานระดับมหาวิทยาลัย หลังจากสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปีที่แล้ว
ได้คณะที่ไม่ชอบ ปีนี้จึงสอบใหม่ ก็ได้คณะที่ไม่ชอบอีก
แต่ยอมเรียนแล้ว เพราะว่าเริ่มเบื่อกับกับการหาสอบ หาที่เรียน
สำหรับเรา...เราขาดความมั่นใจในการทำอาชีพมาก
เหมือนมันตัดสินใจอะไรไม่ได้ชัดเจน
สิ่งแวดล้อมภายนอกมีผลต่อการสอนอย่างยิ่ง
บางครั้งเราไม่กล้าให้การบ้าน หรือให้งานเยอะ ๆ
เพราะไม่รู้ว่าเด็กจะเข้าใจแค่ไหน ว่างมาทำแค่ไหน
มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตหรือเปล่า ?
/บางครั้งครูเองก็กลัวการสอนไปชั่วขณะ
2
ก่อนการสอน วางแผนการสอน
ระหว่างการสอน
สอนเสร็จ ตัดเกรด
มีคำถามลอยมาในหัวตลอดเวลา
ว่า...การสอนไปเรื่อย ๆ ของเรา ทิ้งใครไว้ระหว่างทางหรือเปล่า ?
เขาเข้าใจจริงหรือเปล่า ใครช่วยทำการบ้าน ใครช่วยสอบ
นี่เราให้คะแนนใคร ?
มาถึงช่วงชีวิตที่ตัดเกรดในปี 2564 ตัดยากมาก
ตัดยังไงไม่ให้เด็กตก แต่ก็ต้องไร้ข้อสงสัย และภายในเกรดนั้นควรวัดความรู้เด็กด้วย รวมไปถึงวัดการสอนของตัวเองว่าทำให้เด็กเข้าใจได้แค่ไหน ควรปรับปรุงอะไร
ก็ต้องยอมรับว่าเทอมนี้ ตัดเกรดแบบเอาโค้งไปรับผู้มีผลสอบต่ำกว่าเกณฑ์
บวกคะแนนทุกทางทุกอย่าง ไม่มีใครสอบตก เกรดสวยงามตามพื้นดวง
ข้อดีของเราคือเราโชคดีได้สอนเด็กกลุ่มที่เคยสอนมาแล้ว ทำให้รู้จักคุ้นเคย
จำลายมือได้ แม้แต่ลายเส้นที่วาด แนวคิดที่ตอบ
การคุ้นเคยมีข้อดี อย่างน้อยทำให้เด็กกล้าถาม กล้าสารภาพ
และเราใช้วิธีการสอนเป็น 2 กลุ่ม สอนตรงเวลาปกติทั้งกลุ่ม
และแยกเด็กที่ไม่เข้าใจออกมาสอนอีกครั้งอีกกลุ่ม วิธีนี้เหนื่อยมาก ใช้พลังมาก
ตรวจงานหลายรอบ แต่ข้อดีคือเกิดการทำความเข้าใจกับการเรียนมากขึ้น
มาค้นพบวิธีนี้ตอนปลายเทอมแล้ว
3
อยากให้โรคร้ายหมดไปเร็ว ๆ
สอนแบบนี้พลังงานเหลือน้อยเหลือเกินแต่ละวัน
กลับบ้าน หลับง่ายมาก การตรวจงานทีละคน การคอมเมนทีละงาน
การมาสอนหรือเขียนอธิบายในสิ่งที่เขาทำผิด ใช้เวลาและพลังงานอย่างสูง
ล้าทั้งสมอง ลูกกะตา ร่างกายและสุขภาพจิต
วันที่ 1 พ.ย.2564 จะเปิดเรียนแล้ว
เป็นการเปิดเรียนที่ต้องเตรียมใจมากกว่าเตรียมตัว
/เป็นครั้งแรกที่ครูกลัวการเปิดเทอม แฮร่รรรรร
เมื่อวันศุกร์โรงเรียนทำ Big Cleaning กันทั้งโรงเรียน
ก่อนถึงวันที่ 1 พ.ย.นี้ เราก็ตอบคำถามผู้ปกครองทุกช่องทางรัว ๆ
คำถามส่วนมากจากผู้ปกครองก็จะเป็น
- โรงเรียนจะเปิดจริง ๆ เหรอคะ ?
- ถ้าเปิดจริง ๆ จะไปซื้อชุดนักเรียนใหม่ให้ลูกค่ะ คับใส่ไม่ได้แล้ว
- โรงเรียนมีมาตรการอะไรบ้างคะ ?
- ถ้าเด็กติดโควิดจากโรงเรียน ๆ จะรับผิดชอบยังไงคะ ?
O_O
บางแชทจากเด็ก
ลูกศิษย์ครูเอง/คำตอบข้างบนคือได้ค่ะ เรียนออนไลน์ได้
และก่อนปิดประตูกลับบ้าน ด.ช.คนหนึ่งปั่นจักรยานมาดูโรงเรียน
เด็ก : ผมว่าแล้วต้องเปิดจริง ๆ ด้วย ครูมากวาดโรงเรียนใหญ่เลย
เรา : อื้อ...เปิดนั่นแหละ เราพร้อมยังล่ะ ?
เด็ก : พร้อมมากค้าบบบบบบบ (พร้อมชู 2 นิ้ว)
ยิ้มตาหยี ร่าเริงทะลุแมส อยากจะบอกว่าพ่อแม่ให้มาโรงเรียนรึเปล่าเถอะเรา
เด็กชายจากไปพร้อมเสียงเพลง "หม่องโกวา ชีวูเซ ช็อกซ็อกซึ่มมีดา...."
1
O_O น่ากลัวไปอี๊กกกก
รายงานสถานการณ์ก่อนเปิดเรียน 12 ชั่วโมงค่ะ
31/10/2564
โฆษณา