24 ต.ค. 2021 เวลา 08:31 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
มุกุงฮวากชชีพิออซซึมนีดา
ดอกมุกุงฮวาบานแล้วจ้า......
เหตุผลบางภาพประกอบอาจจะไม่เกี่ยว...
เป็นอีกครั้้งหนึ่งที่อยากอยากจะเขียนเกี่ยวกับภาพยนต์ที่กำลังเป็นกระแส ที่แม้เรื่องนี้จะเริ่มซา ๆ ไปแล้วก็ตาม หลังจากที่เคยเขียนถึง ภาพยนต์รางวัลออสกาสัญชาติเกาหลี PARASITE หนังสะท้อนสังคมเกาหลี ที่ทำออกมาสกิดใจได้แบบเจ็บ ๆ ลองไปตามอ่านได้ที่โพสเก่า ๆ
หากพูดถึงความ hot แล้ว squid game เป็น ซีรีส์ที่ยอดการรับชมเป็นแชมเปี่ยน ติดอันดับหนึ่ง ใน 90 ประเทศทั่วโลก โอ้...บระเจ้าาาาาา เห้ย!!! กล่าวคือ ตั้งแต่ก่อตั้ง netflix มา ก็มีแต่เรื่องนี้แหละที่ทำได้ขนาดนี้ที่ถือว่าเป็น biggest show ever ของ netflix ดูกันจนถึงขั้นที่ว่า
SK Broadband หรือผู้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในเกาหลีใต้ ถึงกับฟ้องร้อง Netflix ให้ช่วยจ่ายเงินต้นทุนทราฟิกอินเทอร์เน็ต และต้นทุนการดูแลรักษาที่เพิ่มสูงขึ้นมากมายจากการใช้บริการดู squid game
หรือแม้แต่นางเอกหน้าเก๋ ๆ จองโฮยอน (Jung Ho Yeon) ที่ก่อนหน้านั้นมีผู้ติดตามทางอินสตาแกรมเพียงแค่ 4 แสนคน แต่หลังจาก squid game ออกฉายเพียงเท่านั้น ผู้ติดตามก็เพิ่มขึ้นเป็นดอกเห็ด เป็น 16.7 ล้านคนทัน หรือคิดเป็น 4,075 เปอร์เซ็นต์ แง้ววววว ขนาดนั้นเลยที่เดียว เชียว และล่าสุดเธอก็ได้ขึ้นแท่น Global Ambassador ของแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Louis Vuitton ไปเรียบร้อยโรงเรียนเกาหลี แล้วด้วย เจ๋งฝุด ๆ
มาเข้าเรื่องกันดีกว่า
เรื่องนี้ เป็นภาพยนต์ซีรีย์ที่ถูกฉาย ตั้งแต่ 17 กันยายน 2564 แล้ว ทาง netflix มีทั้งหมด 9 ตอน เป็นเรื่องที่นำเสนอเรื่องราวการแข่งขันเล่นเกมส์ของกลุ่มคนที่ล้วนล้มเหลว ติดหนี้ ถูกสังคมกดทับ สิ้นหวังในชีวิต ที่จำยอมเอาชีวิตเข้าเดิมพันแลกด้วยเงินก้อนโต เพื่อให้โอกาสตัวเองพบกับชีวิตที่ดีกว่า...อย่างน้อยก็ยังดีกว่าจมปรักกับชีวิตที่บัดซบ ขัดสน ล้มเหลว
สำหรับคนที่ยังไม่เคยดู แนะนำว่าให้ไปหามาดูเอง ใน netflix หรือถ้าจะเอาแบบเถื่อน ๆ ก็สามารถหาดูได้จากเว็ปดูหนังฟรี ก็มีให้ดูแยะไป ไม่สปอยละ แต่คงขอมีบ้าง
ประเด็นสำคัญที่อยากอยากพูดถึง คือ กระแสที่ดังระเบิดระเบ้อ ส่วนตัวแล้วต้องสารภาพว่า ความเริ่มสนใจขึ้นมาในซีรีย์เรื่องดังนี้ เห็นทีจะมาจาก ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทยที่ออกอาการเป็นห่วงคนดู โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนไทยที่ดูแล้ว อาจจะเอามาเป็นตัวอย่างในการแข่งขันและฆ่าแกงกันแบบในหนัง ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ต้องเลียนแบบจากหนังต่างประเทศ ก็มีตัวอย่างที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทย แสดงการเข่นฆ่ากันทั้งทางตรงและทางอ้อม ก็มีให้เห็นเกลื่อนกลาด เลือดเย็นอยู่แล้ว
จึงยิ่งกระตุ้นต่อมเผือกอยากรู้ขึ้นมาทันใด ว่ามันมีอะไรนักหนา แล้วก็หามาดูจนได้ และเกือบจะม้วนเดียวจบกันเลยทีเดียว
หนังได้นำเอาการละเล่นที่เก่าแก่ ที่แสนธรรมดาของเกาหลีมาเป็นเกมส์ในการดำเนินเรื่อง แต่ให้เป็นเกมส์การละเล่นที่เสียวไส้ ลุ้นระทึกตลอดเวลานั้นมันทำให้กลายเป็นการละเล่นเก่าแก่ที่ไม่ธรรมดาขึ้นมาทันที เพราะมันเดิมพันด้วยชีวิต ใครแพ้ต้องตุยสถานเดียว โอ้...พระเจ้าช่วย มันช่างโหดแท้
แต่ใด ๆ ก็ตามผู้เล่นจะโทษใครไม่ได้เลย เพราะเป็นการสมัครใจเล่นเองล้วน ๆ เกมส์มีกติกาชัดเจน ผู้เล่นได้สมัครเข้ามาเล่นเอง แม้การได้ลองเล่นครั้งแรก ทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนต้องโหวตยกเลิกการเล่นเกมส์กะทันหัน ทั้งที่ผ่านการเล่นไปได้แค่เกมส์เดียวเอง
ทุกคนกลับบ้าน...กลับไปใช้ชีวิตปกติ ชีวิตที่...บัดซบ...เหมือนเดิม
นานวันเข้า เมื่อได้รับการติดต่อให้กลับเข้ามาเล่นเกมส์อีกครั้ง พวกเขา...ส่วนใหญ่ จึงไม่ลังเล
พวกเขากลับมาพบกับเพื่อน ๆ หน้าเดิม ๆ หน้าที่หาทางออกไม่เจอ แม้บางคนจะมีหน้า มีภาพลักษณ์ที่เหมือนจะดูดี เลิศเลอ แต่ก็มิวายมีชีวิตบัดซบ เหมือน ๆ กัน
การกลับมารอบนี้ ทุกคนจึงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เป็นผู้ชนะ เราจึงได้เห็นการงัดเอาความเป็นยักษ์ ความเป็นซาตานในตัวตนของมนุษย์ออกมาใช้กันอย่างตระกานตา แม้ว่าในความเป็นมนุษย์นั้น มีพื้นฐานของความดีอยู่แล้วแต่เดิม ก็ตามที แต่ในเมื่อมีผลประโยชน์เข้ามา เมื่อเข้าภาวะจนตรอกเสียแล้ว เทวดาหน้าไหนในตัวตนของมนุษย์ก็ไม่สามารถชนะซาตานในตัวตนเองได้ ในที่สุดแล้วมนุษย์ผู้ประเสริฐก็จะเป็นพญามารที่พร้อมจะห้ำหั่นกันได้ทุกเมื่อ ทันทีเช่นกัน
มีการแสดงความคิดเห็น การวิจารณ์เกี่ยวกับ squid game มากมาย เช่น สื่อโสมแดง เกาหลีเหนือ อันเป็นประเทศพี่น้องที่คอยจ้องซ้ำเติมหากฝ่ายใดพลาดท่ากันอยู่ก่อนแล้ว ได้ออกมาวิจารณ์ซีรีส์ดังกล่าวอย่างถึงพริกถึงขิงว่าซีรีส์เรื่องนี้คือการตีแผ่ความจริงของสังคมเกาหลีใต้ล้วน ๆ โดยระบุว่า “ซีรีส์เกาหลีใต้เรื่อง Squid Game เป็นการเปิดเผยความจริงของสังคมเกาหลีใต้ ที่คนอ่อนแอเป็นเหยื่อของคนที่แข็งแกร่ง และการทุจริตคอร์รัปชัน ที่ปกคลุมไปทั่วมันจึงได้รับความนิยมจากคนดู” คุ้น ๆ นะ ...หรือเราเคยเกิดเป็นคนเกาหลี เอ้ะ!!หรือเรากำลังประสบกับสถานการณ์ในบ้านของตัวเองอยู่ ...
อีกหนึ่งความเห็นของสื่อโสมแดง “เหตุผลที่ซีรีส์ได้รับความนิยมเพราะว่ามันขุดคุ้ยความเป็นจริงของเกาหลีใต้ สังคมทุนนิยมที่มีการแข่งขันสูงเพื่อให้อยู่รอดและคนแข็งแกร่งเท่านั้นที่ยังอยู่ส่วนคนที่อ่อนแอก็ต้องแพ้ไป” แต่หากมองกลับมาในเมืองไทย ประเทศที่ยังไม่ทันได้แข่งขันกันอย่างเต็มที่ แข่งขันกันอย่างตรงไปตรงมา ก็ถูกกีดกัน ถูกสร้างเงื่อนไขที่พิสดาร ถูกสกัดกั้น เตะขา ด้วยผู้มีอำนาจคุมเกมส์ ด้วยมือที่มองไม่เห็นเสียแล้ว😢😢😢
“เกาหลีใต้ ถือว่าเป็นสังคมป่าเถื่อนที่ซึ่งมนุษย์ถูกผลักดันให้เข้าสู่การแข่งขันอย่างบ้าคลั่งโดยไร้ซึ่งมนุษยธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่คนรวยถือว่าเกมเข่นฆ่ากันเหล่านี้เป็นความบันเทิง และรู้สึกพอใจในการเป็นผู้สร้างกฏทำให้คนที่อ่อนแอต้องตกเป็นเหยื่อและสุดท้ายก็ต้องตายไปถ้าไม่สามารถเป็นที่ 1 ได้ มันจึงสะท้อนให้เห็นถึงสังคมที่ชวนอึดอัดและไร้ซึ่งความยุติธรรม”
อีกอัน “โลกแห่งความจริงของเกาหลีใต้คือมีคนจำนวนมากที่ถูกตัดสิทธิ์ออกจากการแข่งขันอันดุเดือด และโชคร้ายที่พวกเขาเหล่านั้นยังต้องใช้ชีวิตต่อไปในโลกที่ผู้คนถูกตัดสินด้วยเงินเท่านั้น”
จริงไหมเนี่ย....โหดเนาะ
หากพูดถึงเนื้อหาของซีรีส์เรื่องนี้ ก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ที่เป็นการเล่นเกมส์ของคนรวย และแม้แต่ในเรื่องก็บอกเองว่าเป็นเกมส์ที่คนรวยล้นฟ้า มีเงินมากมายจนไม่สนุก จนไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไรแล้ว เลยคิดถึงความสนุกวัยเด็ก แล้วเอามาสร้างใหม่ให้สนุกและตื่นเต้นกว่าเดิม
อีกมุมหนึ่งก็ดูเหมือนว่าเป็นการเอาเรื่องของคนที่ตกทุกข์ได้ยากมาเล่นให้ดูสนุก เล่นไปตามลำดับและเล่นบนกฎที่ผู้คุมเกมส์เป็นผู้กำหนด แม้บางครั้งก็มีการเปลี่ยนกฎได้บ้าง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจในการคุมเกมส์ ทั้งนี้ก็เพื่อผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจในเกมส์ คือ แค่ให้เกมส์ดูสนุกยิ่งขึ้น ประหนึ่งว่าเป็นสวนมนุษย์ ที่ให้มนุษย์ผู้มีอำนาจ ผู้มีกำลังเหนือกว่าและมีปัญญาดูได้ มาดู คือการให้มนุษย์ด้วยกันมาดู เหมือนสวนสัตว์
เหมือนที่ครั้งหนึ่งซึ่งคนขาวมีการจับคนดำมาจัดแสดงในสวนสัตว์ ให้คนมาดูหรือที่ถูกเรียกว่า "สวนสัตว์มนุษย์" (Human zoo) ความอัปยศในอดีตที่มนุษย์บางกลุ่มเป็นผู้ก่อ ที่สะท้อนการเหยียดหยามชาติพันธุ์มนุษย์ด้วยกันเองอย่างเลวร้ายที่สุด ที่แม้ทุกวันนี้จะไม่เห็น "สวนสัตว์มนุษย์" แล้ว ก็ตามที แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มี มันแค่เปลี่ยนรูปแบบไปเท่านั่นเอง เหมื่อนเช่นที่เรากำลังเสพสนุกกับการชอบดูการดิ้นรนของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันนี่งัยล่ะ
มาดูในมุมของการสร้างหนัง สร้างภาพยนตร์ สร้างเพลงบ้าง
เราต้องยอมรับว่าเกาหลี...เกาหลีใต้นะ มีการสร้างของพวกนี้ออกมาได้ดีขึ้น ๆ ๆ ทุกวันจริง ๆ จนสามารถเข้าไปอยู่ในวัฒนธรรมของหลาย ๆ ชาติได้อย่างง่ายดาย รวมถึงชาติไทยอันเป็นที่หนึ่ง และก้าวข้ามไประดับโลกแล้วก็หลายครั้ง ที่เรารู้จักกันดีก็ตั้งแต่ เพลง Gangnam Style (กังนัม สไตล์) เพลงที่แม้แต้ จัสติน บีเบอร์ ก็ต้องยอมสิโรราบ เพราะมียอดผู้ชมวิดิโอในยูทูปมากกว่า As Long as you love me ที่เป็นซิงเกิ้ลใหม่(ขณะนั้น)ของ จัสติน บีเบอร์ ที่พึ่งปล่อยออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน มาถึง ภาพยนตร์รางวัลออสกาส์ PARASITE ที่เคยเขียนถึง จนมาถึงเกมส์ปลาหมึก หรือ SQUID GAME ที่กำลังพูดถึงอยู่นี้
ใด ๆ คือ กลายเป็นแหล่งสร้างรายได้อย่างมหาศาลของเกาหลี คือเป็นที่มาของรายได้อันดับเจ็ดของประเทศ หรือมากกว่ารายได้จากการเกษตรของประเทศเสียอีก ทั้งยังแปรเปลี่ยนเป็นรายได้อย่างอื่นที่มาจากเหล่านักท่องเที่ยวที่มาตามหาสิ่งเหล่านี้ อันถือเป็นความสำเร็จของ ซอฟต์ พาวเวอร์ (Soft Power) ของเกาหลี ที่แม้จับต้องไม่ได้ แต่สามารถขยายอิทธิพล สร้างการเปลี่ยนแปลงทางความคิด สร้างรายได้ เป็นสินค้าที่คนทั่วโลกอยากซื้อ สร้างเศรษฐกิจให้เติบโตได้อย่างมหาศาล
กลับมาดูที่ประเทศไทย เชื่อว่าเรามีสิ่งที่น่าสนใจ มีทรัพยากรมากมาย หรือ อาจจะมากกว่าเกาหลีด้วยซ้ำ เราจะทำบ้างไม่ได้หรือ หรือมันติดขัดอะไรนะ หรือก็มีคนคอยคุมเกมส์ กุมความลับไรบางอย่างให้ประเทศไทยถูกสตาฟไว้ตลอดกาลนานเทอญแบบนี้
กลับมาที่เกาหลีดีกว่า
น่าแปลกใจว่า ทั้งเพลงและภาพยนต์อันเป็นเป็นสื่อบันเทิงที่พูดถึงอยู่นี้ ล้วนสื่อถึงความจริงของสังคมแทบทั้งนั้น โดยการขุดขึ้นมาเล่า พูดถึง กัดจิก เย้ยหยัน อาจจะถึงขั้นกัดฟันพูดขึ้นมาเพื่อสะท้อนสังคมที่ไม่มีใครอยากพูดถึง แต่พอพูดถึงแล้ว กลับกลายเป็นเรื่องที่สนุก...ชิบหาย
ทำไมเป็นแบบนั้น..... บางที่อาจจะเป็นอย่างที่สื่อเกาหลีเหนือพูดก็ได้ว่า “เหตุผลที่ซีรีส์ (ขอญาตเพิ่มเพลงกัมนัมสไตล์และพาราไซต์เข้าไปด้วยนะ)ได้รับความนิยมเพราะว่ามันขุดคุ้ยความเป็นจริงของเกาหลีใต้ สังคมทุนนิยมที่มีการแข่งขันสูงเพื่อให้อยู่รอดและคนแข็งแกร่งเท่านั้นที่ยังอยู่ส่วนคนที่อ่อนแอก็ต้องแพ้ไป” และหากประเทศไทยจะเอาอย่างบ้าง ขอแนะนำให้สร้างเพลงหรือภาพยนต์โดยมีชื่อว่า "ใต้พรม" นะ ข้อดีคือ สามารถทำได้หลายภาค น่าจะทำได้มากกว่า เดอะลอร์ดออฟเดอะริง หรือ แฮรีพอร์ตเตอร์ เสียอีก
ใครที่ยังไม่ได้ดูแนะนำให้ลองไปหามาดูนะ ซีรีส์เรื่องนี้มีอะไร ๆ หลายอย่างที่ดูๆแล้ว อาจจะชอบในฉากที่แสนธรรมดา ตัวเอกของเรื่อง การดำเนินเรื่อง ความหวนคิดถึงตอนเด็ก หรือมันจี้จุด แทงใจดำ(ๆ) ดวงน้อยของเรา หรือเราอาจจะชอบเพราะมันสะท้อนสังคม
หรือบางที ความจริงแล้ว อาจจะเป็นเพราะว่า ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย...จริง ๆ
สุดท้าย
squid game จะมีภาคสองไหม ก็น่าจะมีแหละ ผู้สร้างทิ้งปริศนาใว้เพียบซะอย่างนั้น
โฆษณา