28 ต.ค. 2021 เวลา 05:02 • หนังสือ
ยุคแห่งการพัฒนาตนเอง
1
1.
หลายปีก่อน ผมมีโอกาสได้อ่านหนังสือยอดเยี่ยมเล่มหนึ่ง มีชื่อว่า "Good Leaders Ask Great Questions" เขียนโดย John C. Maxwell (ปัจจุบันมีแปลเป็นภาษาไทยแล้ว) ในเล่มเต็มไปด้วยคำถามคุณภาพ ชนิดที่อ่านแล้วต้องหยุดคิด แล้วเอามาถามตัวเราเองบ้าง มีทั้งคำถามที่คนอื่นถามผู้เขียน แล้วชีวิตเปลี่ยน คำถามที่ผู้เขียนถามคนอื่น แล้วชีวิตเปลี่ยน รวมทั้งอีกหลายคำถามที่คนเป็นผู้นำควรถามตัวเอง และถามคนในทีม
9
ผมเองเป็นคนเชื่อในเรื่องของ "พลังการตั้งคำถาม" มานานแล้ว ถ้าเราถามคำถามดี เราจะได้คำตอบที่ดีเสมอ แต่ถ้าเราถามคำถามไม่ดี เราก็จะได้คำตอบที่แย่เสมอ
เช่น ถ้าเราถามว่าทำไมชีวิตฉันมันแย่อย่างนี้วะ? คำตอบที่เราคิดได้ในหัว ก็จะมีแต่เรื่องที่มาสนับสนุนว่า เห็นมั้ย นั่นไงล่ะ ชีวิตฉันมันแย่เพราะคนนั้น เพราะเรื่องนี้ ใช่สิ! ก็ฉันมันไม่เก่ง ฉันมันดวงซวย ที่ทำงานห่วย เจ้านายไม่ดี หลักฐานและเรื่องราวสนับสนุนความย่ำแย่ต่าง ๆ จะลอยมาเพียบ จนทำให้เรายิ่งเชื่อว่าชีวิตมันแย่จริง ๆ ด้วย
2
แต่ในสถานการณ์เดิม ถ้าเราถามตัวเองใหม่ว่า "ทำอย่างไรฉันจึงจะหลุดออกจากสภาพชีวิตแบบนี้?” พอถามแบบนี้ หัวสมองจะเริ่มทำงานต่างออกไป สมองจะพยายามค้นหาคำตอบ คิดหาทางออก ซึ่งแม้ในตอนแรกอาจจะยังนึกไม่ออก
1
แต่ถ้าไม่หยุดถาม ...เราก็จะได้คำตอบสักวันหนึ่ง
1
2.
John C. Maxwell เล่าไว้ในหนังสือเล่มนี้ว่า ครั้งนึงเขาเคยถูกโค้ชในสัมมนา ถามเขาว่า "คุณได้วางแผนการเพื่อพัฒนาตัวเองไว้บ้างหรือเปล่า?"
เขาบอกว่านี่คือหนึ่งในคำถามที่เปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล ...เพราะเขาไม่เคยวางแผนชีวิตไว้สักนิดเลย ในเวลาต่อมา เขาจึงเพิ่งเข้าใจว่า การพัฒนาตัวเองไม่ได้อยู่ดี ๆ ก็เกิดขึ้นเอง แต่เราต้องวางแผนให้มันเกิดขึ้น
1
ผมอยากบอกแบบนี้ครับว่า ไม่ว่าคุณจะอ่านข้อเขียนนี้ในเดือนไหน จะต้นปี กลางปี หรือกำลังจะหมดปี คำถามที่ควรถามตัวเองก็คือ "ฉันได้วางแผนการเพื่อพัฒนาตัวเองไว้บ้างหรือเปล่า?"
ให้ผมพูดกี่ครั้งก็ได้ครับว่า ไม่มีการลงทุนอะไรที่จะคุ้มค่าไปกว่าการลงทุนในตัวเอง" และถ้าเราลงทุนถามคำถามดี ๆ กับตัวเอง เราก็ย่อมได้ผลตอบแทนเป็น "คำตอบคุณภาพ"
2
และเมื่อได้คำตอบคุณภาพ ...ก็ย่อมได้ชีวิตคุณภาพตามมา
3.
ราล์ฟ วัลโด อีเมอร์สัน คือ นักคิด/นักเขียนที่มีชีวิตเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว เขาเป็นเพื่อนสนิทกับ เฮนรี เดวิด ทอโร
2
นักคิด/นักเขียนที่ชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้กันในยุคนั้น ว่ากันว่า เวลาที่ทั้งสองคนนี้เจอกัน เขาจะทักกันด้วยประโยคว่า
"ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่เราเจอกัน นายได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ บ้าง?"
ผมไม่รู้หรอกครับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องสมมติ แต่มันให้แง่คิดได้ดีจริง ๆ เพราะวิธีเดียวที่จะทำให้เรารู้ว่าเราก้าวหน้าหรือถอยหลัง ก็คือ "การตรวจสอบตัวเองอยู่เสมอ" เพราะฉะนั้นคำถามที่น่าสนใจก็คือ โดยส่วนใหญ่แล้ว... "เราชอบหาความรู้ใส่ตัว หรือมัวเป็นกระดาษก๊อปปี้? ลอกตัวเองเมื่อปีแล้ว เก่งเหมือนเก่า รู้เท่าเดิม"
1
"ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่เราเจอกัน นายได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ บ้าง?" จึงเป็นคำถามคุณภาพที่ผมชอบมาก เพราะนำมาปรับใช้ถามตัวเองได้ตามกรอบเวลาที่เราต้องการ เช่น ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันนี้ เราได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ บ้าง? ตลอดทั้งปีนี้ เราหวังจะได้เรียนรู้เรื่องอะไรใหม่ ๆ บ้าง? ตั้งแต่มาทำงานอยู่ที่บริษัทนี้ เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง? ฯลฯ
1
คำถามพวกนี้นี่เองที่จะค่อย ๆ พาให้เราพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ
4.
หนึ่งในวิธีที่ดีมาก ๆ ในการพัฒนาตัวเอง ก็คือการหา "เพื่อนคู่คิด มิตรคู่ใจ" ที่รักและหวังดีกับชีวิต มาช่วยพัฒนาตัวเองไปด้วยกัน
1
นอกจากเราจะมีเพื่อนที่คอยถามว่า "เฮ้ย! เย็นนี้กินข้าวร้านไหนกันดี?" ผมคิดว่าเราน่าจะมีเพื่อนอีกประเภท ก็คือเพื่อนที่คอยถามกระตุ้นเราว่า "เฮ้ย! พัฒนาตนเองไปถึงไหนแล้ว? ช่วงนี้เรียนรู้เรื่องอะไรอยู่?" ...ฟังดูอึดอัด แต่เชื่อสิ เพื่อนแบบนี้จะทำให้เราเติบโต
1
ยุคนี้คือ "ยุคแห่งความรู้" อย่างแท้จริง ความรู้ในโรงเรียนกำลังถูกท้าทาย (และคนที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง กำลังถูกทิ้งห่างออกไปทุกที ๆ) เพราะเราอยู่ในยุคที่ผมอยากเรียกว่า "ยุคพัฒนาตนเอง"
ทุกวันนี้ถ้าเราอยากรู้อะไรสักเรื่อง เรามีทั้งอาจารย์กู (เกิ้ล) อาจารย์ยู (ทูบ) อาจารย์วิ (กิพีเดีย) ความรู้แทบจะทะลักทลายเป็นเขื่อนแตก ...เด็กฝรั่งนั้น สามารถเรียนสิ่งที่อาจารย์สอนทุกระดับชั้น จากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยดัง ๆ ผ่านเว็บไซต์มากมาย
ผมเจอวิดีโอความรู้ดี ๆ ในยูทูบที่ดูทั้งชาติก็ไม่มีวันหมด ผมค้นเจอเว็บไซต์ความรู้ดี ๆ ที่เข้าท่ามหาศาล หรือถ้าอยากได้หนังสือสักเล่ม ก็ไม่ต้องเดินออกไปซื้อ แค่คลิกเดียว ไฟล์หนังสือก็มาอยู่ตรงหน้า
พูดตรง ๆ ยุคนี้ไม่มีเรื่องอะไรที่ไม่ถูกสอนไว้ ขอเพียงแต่เรา "รู้ว่าเราอยากรู้เรื่องอะไร" เท่านั้นเอง
...และทั้งหมดที่ว่ามา ถ้าอ่านหรือฟังภาษาอังกฤษออก ห้องสมุดความรู้ของเราก็จะใหญ่มาก
5.
วันนี้เรากำลังแข่งกับคนทั้งโลก ...ไม่ใช่แค่คนไทยเท่านั้น เขื่อนความรู้กำลังแตกทะลัก และ "ความรู้" ก็คือ "ทุน" ของยุคนี้ ...ย้ำอีกทีว่าเรากำลังอยู่ใน "ยุคพัฒนาตนเอง" ใครหยุดศึกษาหาความรู้ ไม่นานจะถูกทิ้งไว้จนไม่เห็นฝุ่น
ความรู้ที่เรียนในโรงเรียนมันอายุสั้น โลกเปลี่ยนแปลงทุกวัน (และวันละหลายครั้ง) อย่าให้หนังสือเล่มสุดท้ายที่อ่านคือวิชาสุดท้ายที่สอบตอนเรียนจบ เพราะความรู้แบบนั้น...มันล้าหลังไปนานแล้ว
2
"ฉันได้วางแผนการเพื่อพัฒนาตัวเองไว้บ้างหรือเปล่า?" ถ้าวางแผนแล้ว จงลงมือทำ ปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสม
แต่ถ้ายังไม่ได้วางแผน ...วางแผนสิครับ จะรออะไร?
1
โฆษณา